เชลซี 3-0 เอซี มิลาน: เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดเปิดบ้านถล่ม ปีศาจแดงดำ เมื่อคืนที่ผ่านมา
รายการ: ฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2022/23
วันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 5 ตุลาคม 2022
ผลการแข่งขัน: เชลซี 3-0 เอซี มิลาน
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
รูปเกมที่ เชลซี เหนือกว่าชัดเจนทุกด้าน
วันนี้ต้องบอกว่าทีมของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ คืนฟอร์มเก่งได้สำเร็จหลังจากการประเดิมสองเกมแรกแม้จะไม่แพ้ แต่รูปเกมต้องบอกว่าน่าอึดอัดอย่างแรง แต่ไม่ใช่สำหรับเกมนี้ที่แม้คู่แข่งจะมีดีกรีเป็นถึงแชมป์ลีกจากอิตาลี แต่วันนี้ พลพรรคสิงห์บลู ดูเล่นได้อย่างมั่นใจและแน่นอนกว่า โดยสามารถครอบบอลบุกเข้าใส่และครองเกมได้ตั้งแต่เริ่มยันจบเกมชนิดที่แทบไม่เปิดโอกาสให้ มิลาน ได้โต้เถียงเลย ซึ่งแฟน ๆ สิงห์บลู เห็นแบบนี้แล้วค่อยมีความหวังขึ้นมาบ้างในฤดูกาลที่แสนยากลำบากนี้
เชลซี ที่แท้จริงต้องหลัง 3 !
หนึ่งความเปลี่ยนแปลงในเกมวันนี้สำหรับทีมของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ก็คือการที่นายใหญ่ป้ายแดงตัดสินใจกลับมาใช้แผนการเล่นที่ตนเองถนัดอีกครั้งนั้นคือ 3-4-3 วิงแบ็ค ซึ่งแนวทางการเล่นแบบนี้ โธมัส ทูเคิล ได้ปลูกฝังให้กับบรรดาแข้ง สิงห์บลู มาหลายปีจนพวกเขาแทบไม่ต้องปรับตัวหรือมีการแสดงความสับสนออกมาให้เห็นเลยแม้แต่น้อย แถมยังทำให้รูปเกมไหลลื่นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ประตูไปจนถึงแนวรุก ซึ่งไม่แน่ว่านี่อาจจะเป็นทางที่ใช่ของ สิงโตน้ำเงินคราม ภายใต้การคุมทีมของ พ็อตเตอร์ ก็เป็นได้
เลเอา แบกเกมรุก มิลาน
วันนี้แข้งรายเดียวของ เอซี มิลาน ที่ดูจะเล่นได้เข้าตากว่าใครนั่นก็คือ ราฟาเอล เลเอา ตัวรุกชาวโปรตุเกสวัย 23 ปี ที่ทั้งพริ้วทั้งเร็ว ไปกับบอลได้ดี แถมยังมีความสามารถเฉพาะตัวที่เหลือร้าย ซึ่งก็เป็นคนเดียวที่ดูจะสร้างความหนักใจให้กับเกมรับ เชลซี ได้ แถมยังมีจังหวะลากเดียวเข้าเขตโทษสวย ๆ ช่วงท้ายครึ่งแรกจนเกือบตีเสมอได้สำเร็จ โชคยังดีวันนี้ รีซ เจมส์ ที่ประจำการในพื้นที่เดียวกันคืนฟอร์มเก่งกลับมาพอดี ทำให้ยังช่วยลดทอนความน่ากลัวลงไปได้บ้าง แต่ในภาพรวมก็ต้องบอกว่าไม่น่าแปลกใจที่ซัมเมอร์ก่อนหลาย ๆ ทีมยักษ์ใหญ่ต่างพยายามตามจีบหัวหอก ปีศาจแดงดำ คนนี้ไปร่วมทีมกันทั่วหน้า
สถานการณ์ดุเดือดหลังผ่านครึ่งทาง
3 คะแนนในเกมนี้ของ เชลซี ทำให้หลังผ่าน 3 เกมแรกของ กลุ่มอี สถานการณ์ยังคู่คี่สูสี โดยปัจจุบัน สิงห์บลู รั้งอันดับ 2 ของตาราง ขณะที่ เอซี มิลาน ที่ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 มี 4 แต้มเช่นเดียวกัน หล่นมาอยู่อันดับสามจากการที่ เฮดทูเฮด เชลซี ดีกว่า ส่วนอีกหนึ่งคู่ในกลุ่มนี้ เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เปิดบ้านเอาชนะ ดินาโม ซาเกร็บ ไปได้ทำให้เก็บได้ 5 คะแนนจากการชนะ 1 เสมอ 2 ขึ้นไปรั้งจ่าฝูง โดยที่ ดินาโม หลังจากชนะ สิงโตน้ำเงินคราม มาได้ในนัดแรกก็ยังมีเพียง 3 คะแนนอยู่อันดับที่ 4 ซึ่งยังยากจะคาดเดาว่าใครจะจบที่เท่าใด ณ เวลานี้ แต่บอกได้เลยว่าสัปดาห์หน้าทุกทีมคงต้องเล่นใหญ่ใส่สุดตัวหากต้องการจะทำอันดับเพื่อหวังลุ้นเข้าสู่รอบต่อไป
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด