เชลซี 3-2 ลีดส์ : เก็บตกหลังเกม เอฟเอ คัพ นัด สิงห์น้ำเงิน ยังมีดี สยบยูงทองฉลุยเข้า 8 ทีม เอฟเอ คัพ - FEATURE
• เชลซี เจองานหนักจาก ลีดส์ ตามคาด แต่ยังผ่านได้
• และรอบหน้า พวกเขาจะเจอทีม ชปช. อีกครั้ง อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้
รายการ: ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 3-2 ลีดส์ ยูไนเต็ด
สิงห์น้ำเงิน กับ ยูงทอง
มีประวัติศาสตร์การฟาดฟันกันอย่างยาวนานตั้งแต่ร่วมร้อยปีที่แล้ว และก็เพิ่งคลาดกันมาในซีซั่นนี้ จากที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด หมดอายุงานใน พรีเมียร์ลีก จนร่วงหล่นลงสู่ อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ
ในภาพรวม เป็น ลีดส์ ที่เหนือกว่าด้วยซ้ำในเรื่องเฮดทูเฮดก่อนเกมนี้ เมื่อ "ยูงทอง" เป็นฝ่ายกำชัยได้ 40 ครั้ง (ตามที่มีบันทึก) เสมอกัน 30 และ "สิงห์น้ำเงิน" ชนะได้ 38
ถ้าเกมนี้เป็นการเจอกันที่ เอลแลนด์ โร้ด บางที เชลซี ก็อาจ "สั่น" กว่านี้ เมื่อการบุกขึ้นเหนือหนล่าสุด ซีซั่นที่แล้ว เป็นทาง ลีดส์ ที่ยิงยับถึง 3-0 เบรนแดน อารอนสัน, โรดริโก้ โมเรโน่ และ แจ๊ค แฮร์ริสัน ดาหน้ากันมาส่องผ่าน เอดูอาร์ เมนดี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นการงัดกันใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ แล้ว เชลซี ก็วางใจได้หน่อย เมื่อผูกปีสยบยูงมาตลอด 6 ครั้งหลังสุด รวมซีซั่นก่อนที่เบียด 1-0 จากประตูโทนของ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า คนที่แทบจะลืมไปแล้ว...ว่ายังอยู่กับ เชลซี อยู่นะ (ซีซั่นนี้ 0 นาที)
เกมที่น่าหวาดเสียว
แต่ก็อีกนั่นแหละ แม้สถิติจะดี แต่ควรถือว่าเกมนี้ อยู่ในระดับ 50:50 เท่านั้นสำหรับ เชลซี
เพราะ 1) เพิ่งผ่านความพ่ายแพ้นัดชิง คาราบาว คัพ มาแหมบๆ สภาพร่างกายแย่ไม่เท่าหัวจิตหัวใจที่อ่อนแรง ยิ่งเป็นทีมอายุน้อย ยิ่งเสียวจะฟื้นกลับมาไม่ได้
กับ 2) ลีดส์ ยูไนเต็ด ของกุนซือ ดาเนี่ยล ฟาร์เค่ มาดีมากด้วยในช่วงหลัง ติดเครื่องชนะเกม ชปช. มา 4 นัดรวด และยังไร้พ่ายมาตลอด 12 เกมหลังสุด เป็นชนะ 10 เสมอ 2 นับรวมที่ต่อเวลาชนะ พลีมัธ 4-1 เกมรีเพลย์รอบที่แล้ว -- ขึ้นปี 2024 มานี้ ยังไม่แพ้ใครเลย
ซึ่งด้วยฟอร์มที่ดีลักษณะนี้ ยังทำให้ ลีดส์ ก้าวขึ้นไปท้าทายตำแหน่งจ่าฝูง ชปช. ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการตามหลังแค่ 6 แต้มเท่านั้นในตอนนี้
เรียกว่าเรื่องของ "โมเมนตัม" นาทีนี้ ลีดส์ ดีกว่า เชลซี เสียอีก
อะไรของคริส?!?
สำหรับการจัดทัพวันนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีการโรเตชั่นทีมพอตัว แม้ยังคงขาดตัวเจ็บเดิมๆ เกือบสิบคนอยู่ก็ตาม
- - โรเบิร์ต ซานเชซ กลับสู่หว่างเสาอีกครั้งหลังเว้นวรรคมาตั้งแต่เกมแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 เมื่อ 10 ธ.ค. (รวมแล้วหายไป 16 เกม)
- เทรโวห์ ชาโลบาห์ ลงตัวจริงหนแรกในซีซั่น
- อัลฟี่ กิลคริสต์ ออกสตาร์ทที่ตำแหน่งแบ็กซ้ายบ้าง
- มิไคโล มูดริค ลองของกับตำแหน่งใหม่ที่ "กลางรุก" ตัวกลาง ไม่ใช่ปีกเหมือนเคยๆ
- ยอร์เย่ เปโตรวิช, เบน ชิลเวลล์, โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ถอยไปนั่งสำรอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดทั้งมวลไม่น่าพูดถึงเท่ากับข่าวร้ายก่อนเกม ที่ โปเช็ตติโน่ เผยเสียงอ่อยว่า... "เอ็นคุนคู เจ็บอีกแล้วจ่ะพี่"
"เราต้องประเมินอาการของเขาในทุกวัน แต่เขาจะพักเป็นเวลา 3-4 สัปดาห์ ซึ่งก็หวังว่าจะไม่นานกว่านั้น" โปเช็ตติโน่ กล่าว แต่ไม่ได้เผยว่าเป็นอาการบริเวณไหน ลักษณะใด
นั่นเท่ากับว่า ภายหลังย้ายมาด้วยค่าตัว 52-53 ล้านปอนด์ เอ็นคุนคู ลงสนามให้ เชลซี ไปแค่ 10 เกมเท่านั้น มีผลงานยิง 2 ประตู และตอนนี้จะต้องพักแข้งไปอีกร่วมเดือน กว่าจะฟิตกลับมาอีกที จะเหลือเกมให้เล่นสักกี่นัด
เอาเถอะ... มองข้ามซีซั่นนี้ไปเลยแล้วกัน เอาเป็นว่านี่คือดาวยิงฝรั่งเศสที่ เชลซี เซ็นมาตอนซัมเมอร์ 2023 แล้วถูกปล่อยยืมให้เตียงพยาบาล เรื่องจะใช้งานได้เต็มที่ เป็นตัวความหวังอย่างที่ถูกคาดหมาย ก็คงต้องในซีซั่น 2024/25 เป็นต้นไป
หวังว่างั้นนะ!
เกือบหลับแต่กลับมาได้
เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เปิดฉากขึ้นแบบแลกกันมันหยด บู๊กันสนุกสนาน และ ลีดส์ มาเยือนพร้อมมอบ "งานยาก" ให้ เชลซี อย่างที่คาดกันไว้ จริง
แต่กระนั้น สิ่งที่กลายเป็นประเด็น กลับอยู่ที่ขอบสนาม
เมื่อพบว่า แฟนบอลยูงทอง ไม่ทราบชื่อรายหนึ่ง ในจำนวนกองเชียร์ทีมเยือน 5,400 ชีวิต "ตกอัฒจันทร์" ลงมาจากชั้นบนของฝั่ง เชด เอนด์ ในขณะที่ลิงโลดดีใจฉลองประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 8 ของ มาเตโอ โจเซฟ หอกดาวรุ่งสแปนิช-อิงลิช วัย 20
พยานในที่เกิดเหตุบอกว่า พ่อหนุ่มรายนี้ ตกปุ๊ลงมาใส่กลุ่มสจ๊วร์ตรักษาความปลอดภัย พอดี และยังดีว่าความสูงไม่ได้มากมายถึงขั้นจะทำให้เสียชีวิต หรือบาดเจ็บร้ายแรง
แฟนรายดังกล่าวนี้ ถูกหามออกไปในสภาพใส่เฝือกอ่อนดามคอเป็นการปฐมพยาบาล เพื่อที่จะนำส่งตรงเข้าโรงหมอต่อไป
เกมรุกกลบเกมรับ
อย่างที่ว่า ลีดส์ มาสู่เกมนี้พร้อมปัญหากองโตที่ยินดีมอบให้ เชลซี เอาไปบวกลบคูณหาร
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังบ้านของ เชลซี วันนี้... อย่าว่าแต่ ลีดส์ เลย เผลอๆ เบิร์นลี่ย์ หรือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็เจาะเข้าง่ายๆ
เพราะมีทั้ง โรเบิร์ต ซานเชซ ที่ห่างจากเกมไปเป็นเวลานาน, เทรโวห์ ชาโลบาห์ ที่เรื้อสนามไปนานกว่า ซานเชซ เยอะ, อัลฟี่ กิลคริสต์ ที่เด็กมาก (20) แถมไม่ถนัดแบ็กซ้าย กับ มาโล กุสโต้ ที่ก็ใช่ว่าจะเก๋าเกม (20) แถมยังต้องเล่นต่อเนื่องไม่พักตลอดช่วงหลัง
รอบข้างเป็นแบบนี้ อักเซล ดิซาซี่ ก็คงแอบบ่นปวดหัวๆ อยู่ในใจ...
ก็แค่ 8 นาทีเท่านั้นที่ มาเตโอ โจเซฟ ทะลุเข้าไปล่อเป้าผ่าน โรเบิร์ต ซานเชซ เป็นประตูนำ 1-0 ของ ลีดส์
เช่นกัน ในครึ่งหลัง บอลโยนเบสิกๆ ก็เข้าหัว มาเตโอ โจเซฟ คนเดิม โขกสวนทาง ซานเชซ เข้าไปเป็นประตู 2-2
ยังดีที่วันนี้ แม้หลังบ้านมีปัญหา แต่ "ข้างหน้า" ช่วยสะสางทุกอย่างได้
1-1 (น.15) นิโคลัส แจ๊คสัน โชว์ความเฉียบคม (อย่างไม่น่าเชื่อ) ทะลุกับดักล้ำหน้าขึ้นทางขวากรอบ 6 หลา ไปกดลอดขานายทวาร อิลลัน เมสลิเยร์
2-1 (น.37) ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปาดจากสุดเส้นหลังขวาให้ มิไคโล มูดริค เข้าฮอสแบบตรงตามตำรา ถูกที่ถูกเวลาเป็นที่สุด
3-2 (89.51) เอ็นโซ เฟร์นานเดซ แทงขึ้นหน้าให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ แตะหาช่องแล้วซัดตูมแสกหน้า เมสลิเยร์ เสยตาข่าย
เชลซี ได้สามประตู ชนะ 3-2 จากการสร้างจังหวะยิงเข้ากรอบแค่ 5 ครั้งเท่านั้นตลอดเกม
เวลคัม... จิ้งจอก
- รอบสาม ชนะ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ทีม ชปช. 4-0
รอบสี่ เหนื่อยหน่อยกับทีมแข็งร่วมลีก ต้องพึ่งนัดรีเพลย์ให้เอาชนะ 3-1
รอบห้า เจอทีม ชปช. อีกครั้งอย่าง ลีดส์ และผ่านได้ 3-2
และรอบ 8 ทีมสุดท้าย เชลซี ก็จะได้ต้อนรับทีม ชปช. อีกครั้ง แต่เป็นเบอร์ 1 ของลีกรองอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้
แข็งไหม? ไม่ต้องสืบ เลสเตอร์ ที่จริงก็ "ระดับพรีเมียร์ลีก" นั่นแหละ แค่ซีซั่นก่อนหลุดจากมาตรฐานไปเสียเฉยๆ เท่านั้นเอง
เพียงแต่ก็ชัดเจนว่า นี่คือตัวเลือกที่ดีกว่า แมนฯ ซิตี้, นิวคาสเซิ่ล หรือ ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ยูไนเต็ด (ซึ่งจะเปิดศึกแดงเดือดกัน) สำหรับการฟาดฟันกันในรอบ 8 ทีม เอฟเอ คัพ
เชลซี ยังจะได้ลงเล่นในบ้านตัวเองต่อเนื่อง สำหรับคิวฟัดจิ้งจอก ซึ่งตอนนี้ล็อกวันไว้หลวมๆ ที่เสาร์หรืออาทิตย์ 16-17 มี.ค.
ที่กระทบชิ่งก็คือ พอดีว่าเกมสุดสัปดาห์นั้น เชลซี จะบุกไปเยือน อาร์เซน่อล ใน พรีเมียร์ลีก จึงเป็นอันว่าเกมกับทัพปืนโต ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด เป็นเกมที่ 2 ของสิงห์แล้วที่ถูก "ยกไปก่อน" ถัดจากนัดเจอ สเปอร์ส ที่ตรงกับคิวชิง คาราบาว คัพ
สุดท้ายท้ายสุด จึงหมายความว่า เชลซี ยังอยู่ในข่าย "ลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ" ซีซั่นนี้เต็มตัวอยู่ ซึ่งคงต้องดูกันเกมต่อเกม รอบต่อรอบ ว่าพวกเขาจะไปสุดทางที่ตรงไหน...