เชลซี 5-0 เวสต์แฮม : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด สิงห์เข้าฝัก กราดยิงค้อนยับเยิน - FEATURE
• ครึ่งแรกจัดไปสาม ครึ่งหลังจัดเพิ่มอีกสอง เชลซี ถล่ม เวสต์แฮม 5-0
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2567
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน : เชลซี 5-0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
สิงห์กับค้อน
ไม่ได้ข่มกันชัดเหมือนที่ เชลซี อยู่เหนือ สเปอร์ส อย่างชัดเจนในเรื่อง H2H ก่อนเกมเมื่อกลางสัปดาห์
แถมอันที่จริง เวสต์แฮม ยังเปิดบ้านสยบ เชลซี 3-1 ด้วยในการเจอกันเมื่อต้นซีซั่น
อย่างไรก็ตาม ก้าวเดินของ 2 ฝั่งดู "สวนทาง" กันอย่างมีนัยสำคัญทีเดียวในช่วงหลัง
เพราะในขณะที่ เชลซี อาศัยความเก่งในบ้าน จนรักษาโอกาสลุ้นตั๋วยุโรปถ้วยเล็ก คอนเฟอเรนซ์ ลีก เอาไว้ได้
เวสต์แฮม ของ เดวิด มอยส์ แกว่งมาตลอดช่วงหลัง ไม่สิ เส้นกราฟเป็นหัวดิ่ง ตกเอาๆ มาเกือบจะตลอด "ครึ่งซีซั่นหลัง" ก็ว่าได้ -- 2 ม.ค. จนถึงก่อนเกมนี้ ทีมขุนค้อนลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 16 นัด...
เสมอ 7 แพ้ 6 ชนะชาวบ้านเขาได้แค่ 3 ...!
นั่นก็ทำให้ เวสต์แฮม กับซีซั่นนี้ สิ้นสุดไปแล้วอย่างไม่เป็นทางการ จะดีจะชั่วอย่างไร ไม่พ้นอันดับกลางตาราง 9-12 ไม่ขึ้นไม่ลงไปกว่านี้
ได้เร็ว...อีกแล้ว
หนึ่งคือ เวสต์แฮม ไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมสู้ สืบเนื่องจากฟอร์มช่วงหลังอย่างที่ว่ามา
สองคือ เชลซี พร้อมชนทุกทีม เมื่อได้เล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง
ส่วนสาม จะไม่นับก็ได้ แต่ก็ควรถือเป็นข่าวดีของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ที่ได้ทั้ง มาโล กุสโต้, ลีวาย โคลวิลล์, อักเซล ดิซาซี่ และ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู กลับมาอยู่ในรายชื่อสำรอง เกมนี้
1+2 ได้เท่ากับ เชลซี พังสกอร์ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว...อีกครั้ง
แม้เห็นจะง้อกๆ แง้กๆ กระโดกกระเดกไม่เป็นทรง สำหรับหน้าเป้าอย่าง นิโคลัส แจ๊คสัน
แต่เมื่อใดก็ตามที่รอบข้างของ แจ๊คสัน ใช้โอกาสได้ไม่เปลือง เชลซี ก็เจาะตาข่ายคู่แข่งได้เร็ว เมื่อนั้น
เกมนี้ รอแค่ 15 นาที เมื่อ แจ๊คสัน จับบอลลงไม่ได้ เด้งไปเข้าทาง โคล พาลเมอร์ เติมมาซัดแถวสอง (ในลักษณะ แฟร้งค์ แลมพาร์ด) ท่านเปาก็เป่าปรี๊ด... ชี้มือไปกลางสนามรับประตู 1-0 ของ เชลซี
บางที คีย์ในการเล่นของ เชลซี คงอยู่ตรงนี้ - ปล่อย แจ๊คสัน เล่นมั่วเล่นซั่วได้เลย เดี๋ยวรอบข้าง "รับจบ" ให้เอง
"นิว อาซาร์"
ลักษณะต่างกัน วิธีการเล่นต่างไป และ โคล พาลเมอร์ ก็ไม่ใช่ เอแด็น อาซาร์ ผู้ซึ่งเคยไปถึงอันดับ 8 บัลลง ดอร์ (2015, 2018) มาแล้ว
แต่รู้หรือไม่ ในช่วงพีคของ อาซาร์ ก็ยังยิงได้ไม่มากเท่า พาลเมอร์
กับการเปิดสกอร์นำ 1-0 นัดนี้ นี่คือประตูที่ 24 ของเจ้าหนูวัย 21 ผลผลิตจากอะคาเดมี่ แมนฯ ซิตี้ รายนี้แล้ว เป็นใน พรีเมียร์ลีก 21 และถ้วยอื่นอีก 3
ยิ่งกว่านั้น ในหน้าประวัติศาสตร์ของ เชลซี มีนักเตะเพียง 6 รายเท่านั้นที่ "ยิงและจ่าย" ใส่คู่แข่ง 14 ทีมแตกต่างกัน (ขึ้นไป) ใน พรีเมียร์ลีก หนึ่งซีซั่น -- ล่าสุดก็คือ อาซาร์ 2018/19
มาวันนี้ ต้องนับรวม โคล พาลเมอร์ เข้าไปด้วยเป็นคนที่ 7
สิงห์ในบ้าน
ด้วยปัจจัยอย่างที่ว่ามาข้างต้น บวกกับอีกอย่างคือวันนี้ กลยุทธ์ "สอดแถวสอง" ของ เชลซี ใช้การได้ดีเยี่ยม ไปจนถึงวันนี้ หลังบ้านเวสต์แฮม ก็ยุ่ยเหลือเกิน
เกมจึงจบที่สอร์ถ่างขาดลอย 5-0
- และนี่คือ เชลซี ในบ้าน 8 เกมหลังสุด
ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-2 (เอฟเอ คัพ)
ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2
ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 4-2 (เอฟเอ คัพ)
เสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 6-0
ชนะ สเปอร์ส 2-0
ชนะ เวสต์แฮม 5-0
โอเค เอาเป็นว่าอีก 2 เกมถัดไป เชลซี จะออกไปเยือน ฟอเรสต์ กับ ไบรท์ตัน สองนัดนี้ เชลซี จะแพ้อย่างย่อยยับ สภาพดูไม่ได้
แล้วสุดท้าย จะกลับมาเปิดบ้านต้อน บอร์นมัธ ราวๆ ครึ่งโหล ในเกมปิดซีซั่น
มากพอไหมสำหรับตั๋ว คอนเฟอเรนซ์ ลีก ...???
ช้าไปไหม?
ทั้งผลงานที่ยอดเยี่ยมในบ้าน
ทั้งฟอร์มการเล่นที่ 2 นัดหลัง เอาซะ สเปอร์ส กับ เวสต์แฮม ไปไม่เป็น
ใช่หรือไม่ว่านี่คือการบอกว่า เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เริ่มจับทางถูก และบรรดานักเตะลูกทีมเองก็เริ่มเข้าใจในแท็กติกและความต้องการของโค้ชอย่างเข้าถึง
นอกเหนือจากนั้น ก็อย่างที่เอ่ยถึงข้างบนๆ คือบรรดาตัวเจ็บเริ่มทยอยกลับมาแล้วด้วย
แต่แหม่... เสียดายจัง
เชลซี เหลืออีกแค่ 3 เกมสุดท้าย ไม่มีมากมายกว่านี้
จบแล้วก็ต้องมาลุ้นกันอีกต่อ ว่าท่านพี่ ท็อดด์ โบห์ลี่ จะปรานีให้ โปเช็ตติโน่ อยู่คุมต่อหรือไม่อย่างไร
ดีไม่ดี โดนเด้งขึ้นมา ก็คงได้แต่บ่นกับฟ้ากับฝนว่า กว่าจะเก่งได้ ก็สายไป...