คริสตัล พาเลซ 0 – 1 อาร์เซนอล : เก็บตกประเด็นหลังเกม ปืนใหญ่สิบคนเอาอยู่จบด้วยสามคะแนน

  • อาร์เซนอลเพิ่มสถิติคว้าชัยชนะในเกมเยือนที่นี่ 5 เกมหลังสุดเป็นชนะ 3 เสมอ 1 แพ้ 1
  • ชัยชนะในเกมนี้เป็นการเก็บคลีนชีตแรกของพวกเขาในฤดูกาลนี้
Crystal Palace v Arsenal FC - Premier League
Crystal Palace v Arsenal FC - Premier League / Julian Finney/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการแข่งขัน : พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2023-2024
วันแข่งขัน: วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2023
สนาม: เซลเฮิร์ท พาร์ค
ผลการแข่งขัน: คริสตัล พาเลซ 0 – 1 อาร์เซนอล


อาร์เซนอล งานหนักไม่น้อยหลังจากเหลือเพียงสิบคนในเกมนี้ แต่ก็ยังดีพอจะกลับบ้านพร้อมสามคะแนนด้วยชัยชนะ 1-0 เหนือคริสตัล พาเลซ จากจุดโทษในช่วงต้นครึ่งหลังของมาร์ติน เออเดการ์ด ส่งทัพปืนใหญ่เก็บชัยสองเกมรวดในพรีเมียร์ ลีก

เกมรับที่เหนียวแน่นของ คริสตัล พาเลซ ในช่วง 45 นาทีแรก

เจ้าบ้านเกมนี้ศึกษาอาร์เซนอลมาเป็นอย่างดี เกมรับตั้งรับลึก เกมรุกรอคอยโอกาสอย่างอดทน อ๊อดซอน เอดูอาร์ และ จอร์แดน อายิว คือตัวที่ฝากฝังบอลในแนวรุก และซื้อวินัยในเกมรับที่มันอาจจะไม่ใช่เกมรับที่ดีที่สุดอะไร แต่ตราบใดที่พวกเขายังไม่เสียสมาธิ และอาร์เซนอล มองไม่เห็นช่องว่างเหล่านั้น พวกเขาก็ยังอยู่ในเกมต่อไป

Bukayo Saka, Jordan Ayew
Crystal Palace v Arsenal FC - Premier League / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

อาร์เซนอล สร้างโอกาสได้มากพอสมควร แต่กว่าจะได้มาแต่ละครั้ง มันยากลำบากเหลือเกิน โอกาสทองที่ดีที่สุดคือการหลุดไปยิงชนเสา และหลุดไปยิงข้ามคานของ เอนเคเธีย และทำให้ครึ่งแรกของทีมจบด้วยการยิงเข้ากรอบเพียง 1 จาก 9 ครั้งเท่านั้น


ไหวพริบและการตัดสินใจชั่ววินาที...ตัดสินเกมนี้

ทรงบอลของทั้งสองทีมไม่เหมือนเดิมทันที เมื่อประตูแรกเกิดขึ้น และมันมาจากจุดโทษที่ได้มาด้วย ไหวพริบ และการซ้อมกันมาของนักเตะอาร์เซนอล กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ เล่นฟรีคิกเร็วให้ เอนเคเธียสปีดไปถึงบอลก่อน แซม จอห์นสตัน นายทวารเจ้าถิ่นและกลายเป็นคว้าขากองหน้าอังกฤษแทน เสียจุดโทษ ก่อนจะเป็น เออเดการ์ด สังหารเข้าไป และกลายเป็นประตูชัยในเกมนี้

Eddie Nketiah, Sam Johnstone
Crystal Palace v Arsenal FC - Premier League / Mike Hewitt/GettyImages

ซื้อเกมรับเพื่อสามคะแนนของอาร์เซนอล

จุดเปลี่ยนสำคัญมากของเกมนี้คือการโดนใบเหลืองสองและกลายเป็นใบแดงของ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ในนาทีที่ 67 และทำให้ทรงบอลของอาร์เซนอล เสียสมดุลทันที จากที่สามารถคุมเกมได้ กลายเป็นต้องปรับมาเล่นเกมรับแบบเต็มตัว และพวกเขาทำได้สำเร็จ ด้วยวินัยและสมาธิในเกมรับที่ไม่แตกต่างจาก 45 นาทีแรกที่ คริสตัล พาเลซ ใช้มาป้องกันประตูของพวกเขา

Mikel Arteta, Kai Havertz
Crystal Palace v Arsenal FC - Premier League / Mike Hewitt/GettyImages

Squad Depth จุดต่างใหญ่สำหรับทั้งสองทีม

อาร์เซนอลในปีนี้เสริมทีมได้ค่อนข้างดุดัน และนักเตะบาดเจ็บน้อย ทำให้ทีมมีทางเลือกค่อนข้างเยอะ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นทีมพลังหนุ่ม แต่ในเกมนี้ตัวสำรองของพวกเขากลับมีแต่ตัวประสบการณ์ระดับทีมชาติชุดใหญ่มาแล้วทั้งสิ้น โดยเฉพาะในพื้นที่เกมรับในเวลาที่ต้องการรักษาสกอร์ที่นำอยู่ ชื่อของ กาเบรียล มากัญเยส (บราซิล), โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (ยูเครน), จอร์จินโญ่ (อิตาลี) หรือว่า ยาคุบ คิวิออร์ (โปแลนด์) คือทางเลือกที่โดนเลือกมาปิดเกมนี้ สวนทางกับ คริสตัล พาเลซ ที่เหล่าสำรองที่ลงมาคือเหล่าผู้เล่นประสบการณ์น้อย ที่ลงมาแล้วไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้