อังกฤษ 0-0 สโลวีเนีย เก็บตกประเด็นหลังเกม ยูโร 2024 สิงโตคำราม ฟอร์มบู่แม้เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม
- ทีมชาติ อังกฤษ เสมอกับ สโลวีเนีย 0-0 กอดคอกันเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบจืดชืด
- แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังหาสูตรสำเร็จในแดนกลางไม่ลงตัว แม้ส่ง กัลลาเกอร์ และ ไมนู ทดลองแล้วก็ตาม
- โคล พาลเมอร์ ได้รับโอกาสลงเล่นเป็นเกมแรกใน ยูโร 2024
รายการ | ยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ซี |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567 |
สนาม | โคโลญจน์ สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | อังกฤษ 0-0 สโลวีเกีย |
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือจอมระมัดระวัง..
ทีมชาติ อังกฤษ เดินหน้าเข้าสู่การแข่งขัน ยูโร 2024 นัดที่สามด้วยตั๋วการันตีเข้ารอบต่อไปเป็นที่เรียบร้อยจากผลการแข่งขันในกลุ่ม บี เมื่อวานที่จบลงด้วยผลเสมอของ อิตาลี และ โครเอเชีย ทำให้ทัพ สิงโตคำราม จะได้เข้ารอบอย่างน้อยในฐานะหนึ่งในอันดับสามที่ดีที่สุดโดยทันทีตามกฎใหม่ของการแข่งขันในปีนี้
ดังนั้นด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากทุกหนแห่งถึงการจัดตัวของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ในสองนัดที่ผ่านมา กุนซือทีมชาติ อังกฤษ น่าจะเปิดใจและได้โอกาสทดลองตัวผู้เล่นให้รู้แล้วรู้รอดไป ไม่ว่าจะเป็นการส่ง โคล พาลเมอร์ ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน บูยาโย่ ซาก้า, แอนโธนี กอร์ดอน แทน ฟิล โฟเด้น, ค็อบบี้ ไมนู หรือ อดัม วอร์ตัน แทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งน่าจะช่วยเอาใจแฟนบอลและพิสูจน์อะไรบางอย่างได้มากพอสมควร แต่สิ่งที่ เซาธ์เกต ทำคือการปรับหมากเพียง 1 ตำแหน่งโดยการส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงไปในแดนกลางแทน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลยจนต้องแก้เกมอีกครั้งในครึ่งหลัง
แน่นอนว่าหาก เซาธ์เกต เลือกเปลี่ยนทีมยกชุดมากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียให้ทีมยิ่งคลำทางไม่เป็นไปกันใหญ่ และแม้จะเข้ารอบไปแล้วก็จริง แต่ตำแหน่งในตารางคะแนนก็มีผลในการจับคู่ไปเจอคู่แข่งในระดับที่ต่างกัน ดังนั้น เซาธ์เกต จึงเลือก "เพลย์เซฟ" เอาไว้ดีกว่า เพราะไม่อยากชนกับทีมหินในเวลานี้
นี่หรือแชมป์กลุ่ม ?
แม้ทีมชาติ อังกฤษ จะจบลงด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มใน กรุ๊ป ซี เหนือ เดนมาร์ก, สโลวีเนีย, และ เซอร์เบีย รวมถึงไม่แพ้ใครเลยสักนัดเดียวใน ยูโร 2024 ซึ่งถ้ามองแค่ทุกสิ่งที่กล่าวมา นี่คือสถานการณ์ที่เป็นข่าวดีสำหรับทัพ สิงโตคำราม และเป็นสถิติที่น่าพึงพอใจเลยทีเดียว แต่แล้วทำไม อังกฤษ ยังโดนรุมทึ้งจากทุกภาคส่วน ?
ต้องอย่าลืมว่าทีมชาติ อังกฤษ ไม่เพียงตบเท้าเข้ามาใน ยูโร 2024 ในฐานะทีมที่น่าจับตามอง แต่พวกเขาถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งร่วมกับ ฝรั่งเศส และเจ้าภาพอย่าง เยอรมัน ด้วยความคาดหวังสูงทะลุปรอทเพราะเป็นทีมที่สื่อหลายเจ้ายกให้ดีที่สุดในรอบหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ แต่แล้วผลงานของพวกเขากลับทำได้เพียงชนะ 1 นัด และเสมอกับคู่แข่งที่ศักยภาพด้อยกว่าอีก 2 นัด แบบนี้ไปเจอทีมระดับเดียวกันจะต่อกรได้อย่างไร
สำหรับแฟนบอลทั่วโลก ทีมชาติ อังกฤษ ซึ่งอุดมไปด้วยผู้เล่นคุณภาพคับแก้วค่าตัวรวมกันทั้งทีมทะลุพันล้านปอนด์ ต้องทำให้ได้มากกว่าการเคาะบอลส่งไปส่งมาในหนึ่งแมตช์ และถ้าหากมองไปถึงรายละเอียดของแต่ละเกม พลพรรค สิงโตสามตัว ไม่ได้มีความน่าเกรงขามเฉกเช่นเดียวกันกับที่ทีม อินทรีเหล็ก จัดการคู่แข่งได้แบบเบ็ดเสร็จ แถมแข้งดีกรีเยี่ยมแต่ละคนก็พากันโชว์ฟอร์มไม่ออกกันเป็นแถบ จนแฟนบอลได้แต่เกาหัวแล้วถามว่า "แชมป์กลุ่มเขาเล่นกันแบบนี้หรือ"
กัลลาเกอร์ ยังไม่ใช่ ไมนู ก็ยังไม่โดน
หลังจากมีปัญหาในแดนกลางจนถึงขั้นกล่าวย้อนรำลึกความหลังไปถึง "คาลวิน ฟิลลิปส์" เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับหมากโดยการส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงเล่นแทน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในแดนกลางคู่กับ เดแคลน ไรซ์ เพื่อหวังจะช่วยให้แดนกลางของ อังกฤษ บดบี้กับคู่แข่งได้แข็งแกร่งมากขึ้น แต่โดยสรุปแล้วเล่นไป 45 นาที คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ก็ยังไม่ฉายแววว่าจะเล่นให้ลงตัวในทีมชุดนี้ได้อย่างไร
หวยไปออกที่ ค็อบบี้ ไมนู กองกลางดาวรุ่งจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับโอกาสเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทน กัลลาเกอร์ ในช่วงครึ่งเวลาหลัง ซึ่งดูแล้วมิดฟิลด์ลูกกรอกคะนองที่มีความสามารถในเกมรุกมากกว่า ก็ช่วยให้เกมของ อังกฤษ มีความไหลลื่นขึ้นจริง แต่พอเล่นไปเล่นมา แดนกลางของ อังกฤษ ก็ยังไม่ได้มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทีมดุดันขึ้นได้มากสักเท่าไร กลายเป็น ดีแคลน ไรซ์ ที่รับบทบาททั้งเกมรุกและรับอยู่คนเดียวเหมือนเดิม
ตอนนี้เหลือแค่ อดัม วอร์ตัน ซึ่งกุนซือจอมระแวดระวังอย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่น่าจะให้โอกาสลงเป็นตัวจริงในเวลาอันใกล้นี้ ดังนั้นทางเลือกจึงมีแค่ส่ง ค็อบบี้ ไมนู ลงเป็นตัวจริงในเกมหน้า หรือปรับแผนการเล่นไปเป็นแบบอื่นเพื่อสำรวจหาแนวทางการเล่นใหม่ ๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่ากุนซือรายนี้จะยอมเปิดใจทำแบบนั้นไหม
นัดแรกของ โคล พาลเมอร์ ใน ยูโร 2024
หากจะพูดถึงเรื่องดีสักเรื่องในวันนี้ การลงสนามของ โคล พาลเมอร์ ในนาทีที่ 71 คงจะเป็นข่าวดีที่ทำให้แฟนบอล อังกฤษ กระชุ่มกระชวยหัวใจขึ้นมาได้บ้าง เพราะตลอดทั้งสามแมตช์ที่ผ่านมา บูกาโย่ ซาก้า ผู้ได้รับเลือกให้เป็นตัวจริงในริมเส้นฝั่งขวามาตลอด กลับทำอันตรายคู่แข่งไม่ได้เท่าที่ควร แม้ตัวเขาจะมีความเร็วในการฉีกหนีคู่แข่งชนิดหาตัวจับยาก แต่ใน ยูโร 2024 กลับแสดงพิษสงออกมาไม่ได้เสียอย่างนั้น
กลับกันกับ โคล พาลเมอร์ ที่ได้รับโอกาสลงสนามเพียง 20 นาทีเศษ ๆ ในเกมนัดล่าสุด แต่กลับมีส่วนร่วมยกระดับเกมรุกของทีมชาติ อังกฤษ ได้อย่างทันตาเห็น จอมทัพชาว สิงห์บลูส์ โชว์สเต็ปเท้ากระชากลากเลื้อย รวมถึงส่งบอลทะลุช่องสวย ๆ ให้เพื่อนได้หลายลูก คือในขณะที่ผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีมเล่นจังหวะตัน ๆ แบบเดียวกันหมด พาลเมอร์ คือคนที่กล้าฉีกตัวออกมาเพื่อทำอะไรที่แตกต่าง
บางที แกเร็ธ เซาธ์เกต อาจต้องพิจารณาอย่างจริงจังได้แล้วว่าการเก็บ พาลเมอร์ ไว้บนม้านั่งสำรอง กับการส่งเขาลงไปโชว์ฝีเท้าในสนาม อะไรจะส่งผลดีต่อทีมมากกว่ากัน
สโลวีเนีย เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
หลังเกมการแข่งขันจบลงด้วยผลเสมอแบบจืดชืด 0-0 เราจะได้เห็นเหล่าบรรดาผู้เล่นและทีมงานของ สโลวีเนีย ดีใจกันยกใหญ่เหมือนได้แชมป์ โดยสาเหตุที่พวกเขาทำแบบนั้นคือผลเสมอในเกมดังกล่าว จะทำให้พวกเขาตีตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยทันทีด้วยโควต้าหนึ่งในทีมอันดับสามที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นการผ่านเข้ารอบน็อคเอาต์ครั้งแรกในเมเจอร์ทัวร์นาเม้นต์ของประวัติศาสตร์ชาติ สโลวีเนีย ในขณะเดียวกันก็จะเป็นข่าวร้ายให้ทีมชาติ โครเอเชีย ตกรอบโดยทันทีเช่นกันด้วยแต้มที่น้อยกว่า