อังกฤษ 0-1 ไอซ์แลนด์ : เก็บตกประเด็นหลังเกมนัดอุ่นเครื่องก่อนลุยศึก ยูโร 2024

อังกฤษ ไร้ความเฉียบขาด

ทีมชาติ อังกฤษ ในวันนี้ต่างจากในเกมที่พวกเขาชนะทีมชาติ บอสเนียฯ อย่างสิ้นเชิงในแง่ของคุณภาพการจบสกอร์ แม้จะอุดมไปด้วยผู้เล่นในเกมรุกที่ยิงในลีกแต่ละคนไม่ใช่น้อย ๆ อย่าง แฮร์รี่ เคน, โคล พาลเมอร์, ฟิล โฟเด้น, และ แอนโธนี่ กอร์ดอน รวมถึงการมีผู้เล่นอย่าง ดีแคลน ไรซ์ และ ค็อบบี้ ไมนู ที่มีความสามารถในการทำประตูได้ดีเช่นกัน แต่พวกเขากลับส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายคู่แข่งไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว โดยจังหวะที่พลาดไปอย่างชัดเจนมีถึง 4 ลูกด้วยกัน ซึ่งเป็นของ เคน หนึ่งลูก กอร์ดอน หนึ่งลูก และ พาลเมอร์ อีกสองลูก ต่างกับทีมชาติ ไอซ์แลนด์ ที่ขอเพียงแค่ไม่กี่จังหวะก่อนที่ ยอน ดากูร์ ทอร์สไตน์สัน จะส่งบอลไปนอนในก้นตาข่ายได้อย่างเฉียบขาด จนกลายเป็นผู้ชนะในตอนท้าย ดูแล้ว เซาธ์เกต ต้องติวลูกทีมอย่างหนักเสียหน่อยแล้วในเรื่องของการยิงประตู

เกมตีหัวเข้าบ้านของ ไอซ์แลนด์

ในเกมนี้ต้องชื่นชมความใจกล้าของทีมชาติ ไอซ์แลนด์ ที่บุกมาหยาม อังกฤษ ได้ถึงถิ่น เวมบลีย์ ซึ่งชัยชนะของพวกเขาในวันนี้มาจากเหตุผลทางด้านแท็คติก การทำตามแผน และความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้าย ซึ่งจะว่า ไอซ์แลนด์ มาเล่นจอดรถบัสซะทีเดียวก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะก่อนที่พวกเขาจะขึ้นนำ ไอซ์แลนด์ ครองเกมสู้กับ อังกฤษ ได้อย่างสูสี จนพวกเขาอาศัยจังหวะผู้เล่น อังกฤษ หลุดตำแหน่งในการแทงบอลทะลุขึ้นมาในแดนกลาง จนกลายเป็นประตูขึ้นนำได้สำเร็จ

หลังจากนั้น พลพรรค มนุษย์น้ำแข็ง ลงไปเล่นเกมรับแน่นในแดนตนเอง โดยที่พวกเขารู้ว่าทีม สิงโตคำราม ชุดนี้มีปัญหาในเกมรุกด้วยแบ็คด้านข้าง ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่ของ ไอซ์แลนด์ จึงไปกองอยู่ตรงกลางข้างหน้าและข้างในกรอบเขตโทษ คอยป้องกันลูกโยนเข้ามาของ อังกฤษ และสวนกลับในจังหวะทีเผลอจนเกือบได้ประตูที่สอง ซึ่งท้ายที่สุดวินัยในเกมรับก็ช่วยให้พวกเขาบุกมาเก็บชัยชนะได้สำเร็จ

การหายไปของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์

คำพูดที่ว่า "เราจะเห็นว่าคน ๆ นึงสำคัญ ก็ต่อเมื่อเขาหายไป" ไม่ใช่คำพูดที่เกินจริงแต่อย่างใด เพราะการขาดหายไปของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เริ่มส่งผลกระทบให้เห็นอย่างชัดเจนในเกมของทีมชาติ อังกฤษ วันนี้ ประการแรกคือการสร้างเกมจากแดนหลังที่ไร้พิษสง ซึ่ง จอห์น สโตนส์ รับบทเป็นพี่ใหญ่ในการขึ้นเกมจากหน้าปากประตู แต่ก็ไม่สามารถทดแทนบอลยาวเหมือนที่ แม็กไกวร์ เคยทำได้ ประกอบกับ มาร์ค เกฮี ที่ยังดูไร้เดียงสามากเกินไป บอลยาวจากแนวลึกของ อังกฤษ จึงแทบไม่มีให้เห็นเลย

อีกจุดสำคัญคือ ลูกตั้งเตะของ อังกฤษ ในวันนี้ทำอะไรทีมชาติ ไอซ์แลนด์ ไม่ได้เลย ในทางกลับกัน ลูกเซ็ตพีซของ ไอซ์แลนด์ กลับสร้างปัญหาให้ทีมชาติ อังกฤษ ได้เกือบทุกลูก ซึ่งสาเหตุหลักที่ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้คือการที่ทีม สิงโตคำราม ขาดกองหลังร่างยักษ์อย่าง แม็กไกวร์ ไป ทำให้การสกัดกั้นลูกกลางอากาศจัดระเบียบเกมรับกันได้สับสนพอสมควร ครั้นจะลุ้นโหม่งทำประตูในเกมรุกก็ยาก เพราะไม่มีพี่ใหญ่ค่อยสร้างความกังวลให้กับแนวรับคู่แข่งแล้ว แถม ดีแคลน ไรซ์ ที่สูงพอไปวัดไปวาได้ ก็โดน เซาต์เกต วางให้ไปเตะมุมอีก กลายเป็นลูกตั้งเตะในวันนี้ผู้เล่น ไอซ์แลนด์ เก็บกินทั้งหมดเลย

โคล พาลเมอร์ โชว์ให้เห็นว่าเขาดีพอ

สองเกมที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ให้โอกาส โคล พาลเมอร์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ดาวเตะวัย 22 ปีแสดงให้เห็นแล้วว่าตัวเขามีดีพอจะลงเล่นเป็นกำลังหลักให้กับทัพ สิงโตคำราม ใน ยูโร 2024 ซึ่งในเกมนี้ แม้เจ้าตัวจะพลาดโอกาสการทำประตูอย่างจะแจ้งไปถึง 2 หน แต่ในบทบาทของเพลย์เมกเกอร์ พาลเมอร์ ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ทั้งการขยับหาพื้นที่ช่วยเพื่อนเล่นในที่แคบ หรือการเลี้ยงหลอกคู่แข่งตะลุยเข้าไปในกรอบเขตโทษ พาลเมอร์ ทำได้อย่างสวยงามและอันตราย รวมถึงจังหวะที่เจ้าตัวเปิดบอลด้วยเท้าซ้ายตัดแนวรับ ไอซ์แลนด์ ให้ แฮร์รี่ เคน ยิงจนเกือบเป็นประตู จังหวะเหล่านี้เป็นใบรับประกันว่า พาลเมอร์ อาจเป็นผู้เล่นที่สร้างความแตกต่างได้ในเกมยาก ๆ ที่ อังกฤษ ต้องเจอในอนาคต ซึ่ง เซาธ์เกต ยังเลือกเปลี่ยนตัวเขาออกเป็นคนสุดท้ายของเกมนี้อีกด้วย ดูแล้วอนาคตของ โคล พาลเมอร์ น่าจะสดใสใน ยูโร 2024