อังกฤษ 3-0 บอสเนียฯ : เก็บตกประเด็นหลังเกมนัดอุ่นเครื่องก่อนลุยศึก ยูโร 2024
- แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้โอกาสทดลองส่งผู้เล่นหน้าใหม่ลงสนาม มีบางคนทำได้ดี และอีกส่วนที่ยังต้องปรับแก้
- ทีมชาติ อังกฤษ เพิ่งจะมาเครื่องร้อนในช่วงท้ายเกม รัวสองประตูเปิดบ้านชนะ บอสเนียฯ ไป 3-0
- ตำแหน่ง แบ็คซ้าย ยังคงเป็นปัญหาที่ เซาธ์เกต ต้องแก้ปัญหาโดยด่วน
รายการ | ฟุตบอลนัดอุ่นเครื่อง |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2567 |
สนาม | เซนต์ เจมส์ พาร์ค |
ผลการแข่งขัน | อังกฤษ 3-0 บอสเนีย |
เซาธ์เกต ได้โอกาสทดลองผู้เล่นหน้าใหม่
ท่ามกลางสถานการณ์ของทีมชาติ อังกฤษ ที่ยังคงขาดเหล่าผู้เล่นตัวจริงของทีมไปหลายต่อหลายคน แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้โอกาสทดลองส่งผู้เล่นหน้าใหม่ออกสตาร์ทพร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง แต่ละคนก็ยังดูงง ๆ อยู่กับระบบที่กุนซือทีมชาติ อังกฤษ วางไว้ให้ ทำให้การต่อเกมในช่วงครึ่งแรกออกมายังไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร ส่วนคนที่รักษามาตรฐานของตนเองได้เหมือนตอนเล่นให้กับสโมสรคือ โคล พาลเมอร์ และ เอเบเรชี เอเซ ซึ่งมีส่วนสำคัญกับเกมช่วยให้แนวรุกของทีม สิงโตคำราม ดูมีความอันตรายอย่างเห็นได้ชัด ส่วนผู้เล่นอย่าง มาร์ค เกฮี, จาร์รอด โบเวน, และ ออลลี่ วัตกินส์ ยังโชว์ฟอร์มได้ต่ำกว่ามาตรฐานของพวกเขาในระดับสโมสร และยังคงต้องปรับจูนกันต่อไป
สไตล์การเล่นที่แตกต่างของ วัตกินส์ และ เคน
ออลลี่ วัตกินส์ ได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเหนือ แฮร์รี่ เคน ที่มีอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายฤดูกาล ซึ่งแม้ดาวยิงวัย 28 ปีจะไม่สามารถทำประตูได้ รวมถึงพลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย แต่ วัตกินส์ แสดงให้เห็นว่าเขามีไหวพริบในการวิ่งทะลุเข้าไปทำประตูที่เฉียบขาดโดยอาศัยความแข็งแกร่งและความเร็วซึ่งเป็นจุดเด่นของตัวเขา วัตกินส์ ยืนค้ำในแดนหน้า และวิ่งทำลายกับดักล้ำหน้าเข้าไปเพื่อทำประตูได้ในหลายจังหวะ
ในขณะเดียวกัน การเล่นของ แฮร์รี่ เคน ดูจะแตกต่างออกไป เพราะ เคน จะถอยตัวลงมาต่ำเพื่อรับบอลจากเพื่อนมากกว่าที่ วัตกินส์ ทำ รวมถึงจังหวะการเล่นรูปแบบนี้ของ เคน ช่วยให้เพื่อนร่วมทีมวิ่งสอดขึ้นไปได้เพื่อหลอกกองหลัง รวมถึง เคน ยังมีความสามารถในการทำเกมและยิงจากนอกกรอบเขตโทษ จึงทำให้ศูนย์หน้าตัวเก๋าดูมีประโยชน์กับทีมมากกว่า
อย่างไรก็ตาม วัตกินส์ ซึ่งเป็นกองหน้าสไตล์ยืนค้ำในเกมนี้ เพิ่มทางเลือกในการเล่นเกมรุกให้กับ แกเร็ธ เซาธ์เกต อย่างเห็นได้ชัด และบางทีในเกมที่ เคน แผลงฤทธิ์ไม่ออก การส่ง วัตกินส์ ลงไปในสนามอาจช่วยเพิ่มมิติเกมรุกให้ทีมได้ไม่มากก็น้อย
อังกฤษ เครื่องร้อนช่วงท้ายเกม
ในเกมครึ่งแรก ด้วยความที่เหล่าบรรดาผู้เล่นต่างไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อนภายใต้แผนการคุมทีมของ เซาธ์เกต ทำให้เกมรุกของพวกเขาซึ่งอุดมไปด้วยเหล่านักเตะฝีเท้าจัดจ้านกลับดูแล้วน่าอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ผู้เล่นหลายคนใช้เวลาครองบอลนานเกินไปก่อนจะออกบอลในแต่ละจังหวะ ซึ่งก็เพิ่มความยากลำบากในการเจาะเกมรับของ บอสเนียฯ ที่อาศัยความช้าของ อังกฤษ ลงไปแพ็คเกมรับกันอย่างเหนียวแน่น
โชคดีที่ในช่วงครึ่งหลัง เบนจามิน ทาฮิโรวิช ดันพลาดท่าไปทำเสียจุดโทษ อังกฤษ จึงได้โอกาสยิงประตูขึ้นนำจาก โคล พาลเมอร์ ก่อนที่ เซาธ์เกต จะเปลี่ยนตัวผู้เล่นชุดจริงอย่าง แฮร์รี่ เคน, เจมส์ แมดดิสัน, แจ็ค กริลิช ลงมา ซึ่งเห็นผลชัดเจนว่าเกมรุกของ อังกฤษ มีความสมดุลขึ้นก่อนจะนวดคู่แข่งสักพัก จนกระทั่งได้ประตูที่ 2 และ 3 ตามมาจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แฮร์รี่ เคน น่าสนใจว่าหากพวกเขาได้ตัวผู้เล่นมาครบชุด รูปเกมจะเป็นเช่นไร
แบ็คซ้าย จุดที่ เซาธ์เกต ต้องแก้ไขโดยด่วน
อย่างที่ได้คาดการณ์กันมาก่อนแล้วว่าทีมชาติ อังกฤษ ชุดนี้มีจุดอ่อนในตำแหน่ง แบ็คซ้าย ซึ่งเหล่าผู้เล่นตัวจริงพากันเจ็บไปหลายคน จึงทำให้คนที่เหลือจำเป็นต้องหมุนกันมาเล่นทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัด และในเกมนี้ปัญหาที่ว่าก็ส่งผลให้เห็นอย่างชัดเจน เคียแรน ทริปเปียร์ ที่โดนโยกไปเล่นทางด้านซ้าย มีปัญหาในการขึ้นเกมบุกทุกครั้งที่ได้บอล ส่งผลให้เกมรุกที่ควรจะอันตรายทางด้านกราบซ้ายลดประสิทธิภาพลงไปมาก หรือ แม้กระทั่ง เอซรี่ คอนซา และ โจ โกเมซ ที่สลับกันมาเล่นในวันนี้ก็ยังไม่ได้มีส่วนในเกมรุกมากสักเท่าไร
น่าสนใจว่าหาก ลุค ชอว์ หายเจ็บไม่ทัน เซาธ์เกต จะแก้ปัญหาตรงจุดนี้อย่างไร ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าพ้น ทริปเปียร์ นี่แหละที่จะเป็นคนรับจบในตำแหน่งนี้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เซาธ์เกต ต้องทำการติวเข้มหน่อยว่า ทริปเปียร์ ควรทำได้ดีกว่าการรับบอลมาแล้วครอสขวางสนามไปยังอีกฝั่ง มิเช่นนั้นพวกเขาลำบากแน่นอนเมื่อต้องฟาดแข้งกับเหล่าทีมใหญ่ใน ยูโร 2024