เอฟเวอร์ตัน 1-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ประเด็นหลังเกมพรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า พลิกคว้าชัยเหนื่อย
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขยับขึ้นมารั้งอันดับที่ 4 ของศึกพรีเมียร์ลีก
- จอห์น สโตนส์ เป็นนักเตะล่าสุดที่ได้รับบาดเจ็บ
- รูเบน ดิอาส ไม่ฟิตทำให้ไม่มีชื่อในเกมนี้
โดย Asree Samuyae
รายการ | พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24 |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566 |
สนาม | กูดิสัน ปาร์ค |
ผลการแข่งขัน | เอฟเวอร์ตัน 1-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สวมตราแชมป์สโมสรโลกที่หน้าอกเป็นครั้งแรก หลังจากได้แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ซึ่งเป็นการลงเตะเกมแรกนับตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวจบลงเช่นกัน
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โดนเซอร์ไพรส์เมื่อ แจ็ค แฮร์ริสัน นักเตะเก่าของพวกเขายิงขึ้นนำก่อนในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตาม "เรือใบสีฟ้า" แข็งแกร่งพอพลิกแซงชนะได้สำเร็จจากการยิงสามลูดรวดของ ฟิล โฟเด้น, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา
เป็นเกมที่ ซิตี้ ต้องเข็นจนเหนื่อยกว่าจะเก็บ 3 แต้มได้ และนี่คือประเด็นที่เรามองเห็นจากเกมที่ กูดิสัน ปาร์ค
ค่ำคืนที่ไม่น่าจดจำของ โรดรี้
มีคำถามก่อนเกมแล้วว่า โรดรี้ จะฟิตพอลงเล่นในเกมที่ กูดิสัน ปาร์ค หรือไม่ หลังจากโดนสกัดหนักจนได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่ชนะ ฟลูมิเนนเซ่
อย่างไรก็ตามกองกลางทีมชาติสเปนออกสตาร์ทเป็นตัวจริงได้ไม่มีปัญหาในเกมนี้เพื่อคุมแดนกลางร่วมกับ มาเธอุส นูเนส ซึ่งรายหลังมีชื่ออยู่ใน 11 คนแรกแบบเซอร์ไพรส์ด้วยผลงานที่น่าประทับใจในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คลับ
กระนั้นมันเป็นค่ำคืนที่ไม่น่าจดจำของเขาเอาเสียเลย เขาทำเสียบอลหน้าเขตโทษทำให้ ดไวท์ แม็คนีล ได้จ่ายบอลให้กับ แจ็ค แฮร์ริสัน ยิงให้เจ้าบ้านขึ้นนำ
มันเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงจากมิดฟิลด์วัย 27 ปีที่นาน ๆ ทีจะพลาด จากนั้นเขาโชคดีที่รอดพ้นจากการโดนใบเหลืองเมื่อเขาเข้าสกัด เจมส์ การ์เนอร์ ในช่วงท้ายครึ่งแรก
ครึ่งหลังก็ยังมีจังหวะที่เขาจ่ายบอลเสียให้เห็นอีกเช่นกัน เกมนี้ โรดรี้ อืดอาดชอบกล ดูแล้วคงไม่น่าจะฟิตเต็มร้อย แต่เพราะด้วยสถิติที่ผ่านมาซึ่งทีมไม่เคยชนะเมื่อไม่มีเขาอยู่ในสนาม ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข็นส่งลงตัวจริง
จอห์น สโตนส์ ตามสมทบลิสต์นักเตะบาดเจ็บ
กวาร์ดิโอล่า กำลังเผชิญกับปัญหานักเตะบาดเจ็บที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในแนวรับ ประตูในครึ่งแรกของ แฮร์ริสัน หมายความว่าตอนนี้ ซิตี้ เก็บคลีนชีตในพรีเมียร์ลีกไม่ได้มา 9 เกมแล้ว
เป็นภาพที่เห็นไม่บ่อยนักสำหรับ ซิตี้ ที่เกมรับสึกกร่อนได้มากขนาดนี้ โดยที่พวกเขาเสียประตูมากกว่าทั้ง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล สองคู่แข่งลุ้นแชมป์อีกด้วย
ผลงานเกมรับที่สั่นคลอนมาจากปัญหาแข้งเจ็บ โดย รูเบน ดิอาส กองหลังคนสำคัญไม่ฟิตพอในแมตช์นี้ ขณะที่ จอห์น สโตนส์ ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่ครึ่งแรกจากการปะทะกับ เบโต้
แม้คว้าชัยชนะได้ แต่ปัญหาในเกมรับของ ซิตี้ ฤดูกาลนี้จะทำให้ กวาร์ดิโอล่า กังวลอย่างแน่นอน
ฟิล โฟเด้น กับบทบาทเพลย์เมคเกอร์
ท่ามกลางความยากลำบาก อย่างน้อย กวาร์ดิโอล่า คงมีอะไรให้ชื่นใจบ้างจากการแจ้งเกิดในบทบาทเพลย์เมคเกอร์ของ ฟิล โฟเด้น
กวาร์ดิโอล่า ให้สัมภาษณ์มาโดยตลอดว่าอยากจะปั้น โฟเด้น เป็นกองกลางตัวรุก เนื่องด้วยศักยภาพของนักเตะ แต่ด้วยวัยและจุดเด่นด้านอื่นทำให้เขาถูกจับไปเล่นเป็นปีกมากกว่า
อย่างไรก็ตามด้วยอาการบาดเจ็บของ เควิน เดอ บรอยน์ ทำให้เทรนเนอร์ชาวสแปนิชเริ่มส่ง โฟเด้น ลงเล่นเป็นเพลย์เมคเกอร์แบบเต็มตัว เช่นเดียวกับในแมตช์นี้ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นทั้งการสร้างสรรค์โอกาสและยิงไกลสุดสวยให้ทีมตีเสมอ เป็นประตูจุดประกายให้ทีมพลิกชนะ
ชัยชนะสำคัญสำหรับการลุ้นแชมป์
ความหวังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 4 ติดต่อกันดูเหมือนจะหยุดชะงักในช่วงพักครึ่ง แต่ผลงานครึ่งหลังที่ยอดเยี่ยมแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังเป็นทีมที่อันตรายอยู่เสมอ
อาจด้วยเพราะเดินทางมาไกล, เพิ่งลงเล่นท่ามกลางอากาศที่แตกต่าง และฉลองแชมป์มาหมาด ๆ ทำให้ ซิตี้ ต้องใช้เวลาสักครู่ก่อนจะค่อยเร่งเครื่องตัวเองได้ หลังโดน เอฟเวอร์ตัน โขยกพักใหญ่ในครึ่งแรก
ชัยชนะดังกล่าวทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ตามหลังจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เพียง 5 คะแนนโดยแข่งน้อยกว่า 1 เกม ซึ่งถ้าชนะแมตช์ในมือแล้วก็จะเหลือแค่ 2 แต้ม เท่านั้น
แน่นอนว่าคุณไม่สามารถกาพวกเขาออกจากบรรดาทีมลุ้นแชมป์เด็ดขาด แม้ว่า ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล กำลังฟอร์มดีก็ตาม