ฟูแล่ม 0-2 เชลซี : ประเด็นที่ได้จากเกม สิงห์น้ำเงิน ฮึดขึ้น ฝ่าวิกฤตตัวเจ็บ บุกยิงเพื่อนร่วมกรุงลอนดอน - FEATURE

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2566
สนาม: คราเวน ค็อตเทจ
ผลการแข่งขัน: ฟูแล่ม 0-2 เชลซี

อกเสื้อไม่ว่างแล้ว

มาแล้วยังดีกว่ามาช้า มาช้ายังดีกว่าไม่มา เมื่อแฟนๆ ต้องรอกันกว่าจะถึงเกมที่ 7 ของซีซั่นใหม่ เชลซี ถึงจะสามารถเติมเต็มอกเสื้อได้ด้วยสปอนเซอร์เจ้าใหม่ "Infinite Athlete"

อันที่จริง ข่าวของสปอนฯ เจ้านี้ มีมาตั้งแต่ก่อนเกมเปิดสนามซีซั่นใหม่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เมื่อ 13 ส.ค. แล้ว ภายหลังสัญญากับ 3 สปอนฯ เก่าหมดลง แล้วจะหันหาบริษัทพนันเงินหนาก็ไม่ได้ เมื่อ เอฟเอ มีแผนจะระงับการยึดครองอกเสื้อของร้านพูลเหล่านี้ในอีกไม่ช้า

เดลี่ เมล รายงานไว้ตั้งแต่ตอนนั้นว่า เชลซี สามารถทำข้อตกลงกับ Infinite Athlete บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ได้เรียบร้อยแล้ว เพื่อรับเงินสนับสนุนปีละ 40 ล้านปอนด์เป็นอย่างน้อย

อย่างไรก็ตาม กว่าที่ พรีเมียร์ลีก จะประทับตราอนุมัติให้ดีลลุล่วงด้วยดี ก็เลทแสนจะเลท และ เชลซี เพิ่งเผยเป็นทางการถึงเรื่องนี้เมื่อวันเสาร์ที่่ผ่านมาเท่านั้น

สองนาทีชี้ขาด

ในไลน์อัพที่ไม่ถือว่าเซอร์ไพรส์ (และปรับอะไรไม่ได้มาก เมื่อมีตัวเจ็บ 9 ราย แบนอีก 2) เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยึด 11 คนแรกจากเกมล่าสุดที่ชนะ ไบรท์ตัน 1-0 ใน คาราบาว คัพ เป็นหลัก ปรับแค่จุดที่จำเป็นอย่าง อาร์มันโด้ โบรย่า ลงตัวจริงที่ตำแหน่งหน้าเป้าแทน นิโคลัส แจ๊คสัน ซึ่งติดแบนจากการสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ

เชลซี น่าขึ้นนำได้ตั้งแต่ 1 นาทีกับ 20 วินาทีแรก เมื่อบอลทะลักทะล้นเข้าทาง โบรย่า พาลูกเข้าไปหักหนีนายทวารเจ้าถิ่น แบร์นด์ เลโน่ แล้ว เหลือแค่ตาข่ายโล่งๆ กับนักเตะฟูแล่ม 2-3 คนบนเส้นประตู ปรากฏหัวหอกอัลเบเนียยิงช้อนใต้ลูกงัดโด่งออกไปโน่น

อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดอีก 2 หนต่อมาของ ฟูแล่ม ก็พาให้ เชลซี อยู่ใน "โพล โพซิชั่น" สำหรับการกำชัยนัดนี้ ตั้งแต่ผ่าน 20 นาทีแรกของเกม

นาที 18 หลังบ้านฟูแล่มเปิดช่องให้ ลีวาย โคลวิลล์ ผ่านตลอดขึ้นทางซ้าย แล้วตักแม่นๆ ให้ มิไคโล มูดริค ซัดเปรี้ยงผ่าน เลโน่ เข้าไป

นาที 19 ทิม รีม เตะเปิดเกมไปโดน โคล พาล์มเมอร์ ดักเอาไว้ ปีกเด็กสิงห์จึงจ่ายขึ้นหน้าต่อให้ โบรย่า ซึ่งมี ทิม รีม ถอยตามลงมาเตะสกัดอีกครั้ง แต่ในเสี้ยววินาทีก็ยังดันจะเตะไปชนซ้าย โบรย่า จนลูกผลุบเข้าประตูไปอย่างมีโชค

โดนสองลูกนี้เข้าไป ฟูแล่ม ก็ซี้แหงแก๋ โดยเฉพาะในวันนี้ที่เกมรุกขาดประสิทธิภาพอย่างสิ้นเชิงด้วย หมากกองหน้าตัวเดียว ราอูล ฮิมิเนซ (ครึ่งหลังเป็น คาร์ลอส วินิซิอุส) โดนทั้ง ติอาโก้ ซิลวา กับ อักเซล ดิซาซี่ ปิดตายสบายเลย

เกมรุกสิงห์นัดนี้ จัดว่าแจ่ม

ตรงกันข้ามกับเกมรุกของ ฟูแล่ม ที่น่าส่ายหัว กลายเป็นว่าปัญหาเกมรุกของ เชลซี ที่เคยเป็นเรื่องบั่นทอนหัวใจกองเชียร์มาตลอด หายไปในวันนี้

มิไคโล มูดริค โดดเด่นเป็นพิเศษกับการจู่โจมทางซ้าย สร้างความวูบวาบและปัญหาให้กองหลัง ฟูแล่ม ต้องปวดหัวอยู่ตลอด ตั้งแต่นาทีแรกที่จิ้มให้ โบรย่า หลุดเดี่ยวไปยิงเชิดข้ามคาน และต่อมาก็เป็นคนเปิดสกอร์นำ 1-0 ที่นับเป็นประตูแรกในเครื่องแบบ เชลซี ภายหลังลงสนามไปทั้งสิ้น 24 นัด

อาร์มันโด้ โบรย่า ก็ยิงประตูแรกของซีซั่นนี้ (ลูกที่ 2 ในการเล่นให้ เชลซี ชุดใหญ่) และแม้จะแสดงให้เห็นถึงความไม่แนบเนียนและ "ยังใหม่" กระโดกกระเดกอยู่บ้าง แต่ก็พยายามทำงานอย่างเต็มที่ และเล่นด้วยเซนส์บอลที่ดีต่อการเจาะแนวรับเจ้าถิ่น

โคล พาล์มเมอร์ วันนี้อาจเงียบๆ หน่อย ไม่ได้ตามมาตรฐานที่คาดหวัง แต่ก็มีส่วนโดยตรงกับประตู 2-0

และตลอดเกมนี้ เชลซี สร้างโอกาสจบได้ถึง 11 ครั้ง ตรงกรอบ 4 สำคัญสุดคือแปรเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ 2 ประตู

ที่น่าผิดหวังสุดกลายเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ลงสำรองไปแทน โบรย่า ในนาทีที่ 64 ว่านอกจากเล่นผิดเล่นพลาดแล้ว ก็ยังกดดันคุกคามอะไรหลังบ้าน ฟูแล่ม ไม่ได้เพิ่มเติมเลย

เสียนักเตะทุกนัด

อย่างไรก็ตาม ในแง่ดีของการเจาะเข้า มีประตูและมี 3 แต้มเต็มเข้ากระเป๋า เชลซี ก็ยังไม่วายต้องถูกสอดแทรกด้วย "ข่าวร้าย" อยู่ร่ำไป

มิไคโล มูดริค กำลังเล่นดี แต่มีโอกาสโชว์ของแค่ 45 นาทีแรก และเปลี่ยนออกทันทีเมื่อเริ่มครึ่งหลัง

อาร์มันโด้ โบรย่า เข่าทรุดลงไปกอง แม้ไม่ได้ถูกเข้าปะทะหนัก ต้องโดนถอดออกหลังครบชั่วโมง

ทดเจ็บ ก็เสีย มอยเซส ไคเซโด้ ต้องกระเผลกออกจากสนาม

ทั้ง 3 รายต้องรอเช็กอาการเพิ่มเติมว่าเจ็บน้อยเจ็บมากอย่างไรต่อไป

จุดเปลี่ยนของ เชลซี ...รึเปล่า?

ชัยชนะมาแล้ว เป็นชัยชนะที่ 2 ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และการเล่น พรีเมียร์ลีก 2023/24

8 แต้มจากผลชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 3 พาให้ เชลซี ขยับสู่อันดับ 11 ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต้มเดียว

ทั้งยังเป็นชัยชนะ 2 เกมซ้อน (1-0 ไบรท์ตัน, 2-0 ฟูแล่ม) และทำคลีนชีตไม่เสียประตูถึง 3 จาก 4 เกมหลังสุด

แต่ก็อีกนั่นแหละ จะคาดหวังให้นี่เป็น "จุดเปลี่ยน" นำพา เชลซี คืนสู่ที่ชอบๆ แถวหัวตารางได้เลยไหม ก็อาจยังเร็วเกินไปที่จะให้คำตอบ

เพราะอย่าลืมว่า 1. ตัวเจ็บของ โปเช็ตติโน่ ยังมีเยอะ และ 2. ก็เสียเพิ่มไปอีก 3 คน ตามหัวข้อด้านบน

สุดสัปดาห์นี้ เชลซี จะบุกเตะ เบิร์นลี่ย์ เสาร์ 7 ต.ค. แล้วเข้าช่วงพักเบรคทีมชาติ จากนั้นเมื่อพ้นคิวทีมชาติแล้ว มีโปรแกรมโหดอย่างการรับมือ อาร์เซน่อล รออยู่ (21 ต.ค.)

ถ้าผ่าน 2 คิวข้างหน้าด้วย 6 แต้มได้เต็มๆ ถึงตอนนั้นค่อยฉีกยิ้มให้สาแก่ใจ