เยอรมนี 2-0 ฮังการี : เก็บตกหลังเกม ยูโร 2024 เจ้าภาพมาตรฐานดีไม่มีตก มุ่งสู่แชมป์ยุโรปสมัย 4 ...?!? - FEATURE

รายการ: ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่ 2
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 19 มิถุนายน 2567
สนาม: เอ็มเอชพี อารีน่า, สตุ๊ตการ์ท
ผลการแข่งขัน : เยอรมนี 2-0 ฮังการี

เบียร์กับแม็กยาร์

(หมายเหตุ) แม็กยาร์ : ชื่อเรียกของกลุ่มชาติพันธ์ของประเทศฮังการี ในอดีต ซึ่งถูกนำมาใช้เรียกเป็นฉายาของทีมฟุตบอลทีมชาติฮังการี ในปัจจุบัน ซึ่งที่จริงนิคเนมเป็นทางการมีทั้ง 1.แม็กยาร์, 2. เนมเซติ ติเซเนจี้ (National Eleven) และ 3. ตริโกลอร์ (สามสี)

อันที่จริง ประวัติศาสตร์ของชาติบ้านใกล้เรือนเคียง (มี ออสเตรีย คั่นกลาง) สองแห่งนี้ เยอรมนี - ฮังการี เป็นมายาวนานระดับ "ประวัติศาสตร์โลก" ตั้งแต่สมัยสงครามโลกโน่นเลย

ไม่ต่างกันกับประวัติศาสตร์เชิงลูกหนัง ซึ่งตามบันทึกบอกว่า คู่นี้เจอกันครั้งแรกเมื่อปี 1909 หรือเมื่อ 115 ปีมาแล้วทีเดียว

น่าสนใจคือในระยะหลัง ฮังการี เริ่มกลับมาแกร่งได้อีกครั้ง (แม้ไม่ถึงกับเปรี้ยงปร้างเช่นยุคที่มี เฟเรนซ์ ปุสกัส นำขบวน) และพวกเขาก็ไม่แพ้ เยอรมนี มาในตลอด 3 เกมหลังสุดที่พบกันเสียด้วย

• มิ.ย. 2021 (ยูโร 2020) เสมอ 2-2
  
  มิ.ย. 2022 (เนชั่นส์ลีก) เสมอ 1-1
  
  ก.ย. 2022 (เนชั่นส์ลีก) ฮังการี ชนะ 1-0
  

ภายหลังจากถล่ม สกอตแลนด์ มาถึง 5-1 หลายฝ่ายจึงคาดกันว่า เยอรมนี จะไม่ได้เจองานง่ายแบบนั้นจาก ฮังการี

แม้ว่าในเกมแรก ฮังการี จะแพ้ สวิตเซอร์แลนด์ ค่อนข้างขาด 1-3 ก็ตาม

กำแพง 3 ชั้น

ถือว่า ฮังการี สร้างอันตรายคุกคาม เยอรมนี ได้ตั้งแต่ไม่กี่สิบวินาทีแรก กับจังหวะบอลตกพื้นและเงื้อง่าราคาแพงไปนิดของ โยชัว คิมมิช จนโดน บาร์นาบาส วาร์ก้า โฉบบอลเข้าหาประตู

ยังดีที่ มานูเอล นอยเออร์ ไม่หลับ โผออกไปตัดบอลได้อย่างฉับไวและยอดเยี่ยม

แต่ว่าหลังจากนั้นเมื่อ เยอรมนี ตั้งหลักได้ มันก็เป็นเกมที่ไม่ได้เหนือการคาดเดา

ว่า เยอรมนี ต้องเจอ "กำแพงสีขาว" ตั้งรับ 3 ชั้นที่ มาร์โก รอสซี่ กุนซืออิตาเลียน ติดตั้งให้กับลูกทีมแม็กยาร์สำหรับเกมนี้

• ชั้นแรก บรรดาตัวรุก 3 รายในแดนหน้า วิ่งไล่ค่อยเพรสซิ่งลูก
  
  ชั้นสอง แผงกลาง 4 ราย ตั้งแถวยืนหน้าแนวหลัง
  
  ชั้นสาม เซนเตอร์แบ็ก 3 คน ตั้งกำแพงแนวสุดท้ายก่อนถึงประตู
  

อย่างไรก็ตาม ตั้งรับอุดเกมอยู่ได้ไม่นาน เยอรมนี ก็เจาะตาข่ายนำได้เร็วอีกแล้ว ในเพียงนาที 22 เท่านั้น

1-0

อย่างที่ว่า เยอรมนี เจาะ ฮังการี เข้าได้เร็วแค่นาที 22 จังหวะ อิลคาย กุนโดกัน ตามไปเก็บลูกแล้วคืนมาให้ จามาล มูเซียล่า ส่องตาข่ายถนัดถนี่

กระนั้นที่เป็นปัญหาติดค้างสงสัย คือจังหวะที่ กุนโดกัน เข้าหาบอล ก็ดูเหมือนว่าเขาจะชน วิลลี่ ออร์บาน จากข้างหลังจน ออร์บาน ล้มหน้าทิ่ม

เมื่อ มูเซียล่า ยิงเข้าไปได้แล้ว มีการรีเช็คจาก VAR ว่าประตูนี้ ฟาวล์หรือไม่ฟาวล์

ปรากฏข้อสรุปว่า "ไม่ฟาวล์" และเป็นประตูนำของเจ้าถิ่น 1-0

ว่าแต่ มันไม่ฟาวล์จริงๆ แน่หรือ? พื้นที่ตรงนี้ไม่มีคำตอบชัดเจน

และอยากโยนคำถามไปให้คุณๆ แทน ว่าประตูนี้...

• ก.) ต้องฟาวล์ เป็นประตูไม่ได้เด็ดขาด
  
  ข.) ไม่ฟาวล์หรอก เป็นประตูแหงอยู่แล้ว
  
  ค.) ก็ "เจ้าภาพ" อ่ะครับ...
  

อินทรีเหล็ก น่ากลัว

สองนัดผ่านไป สิ่งที่พอเห็นจากเจ้าภาพอินทรีเหล็กของ ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ คือ...

1) นายประตู เหนียวหนึบวางใจได้กับ มานูเอล นอยเออร์ ในวัย 38

2) หลังบ้าน แม้ยังพอมีรอยรั่ว มีข้อผิดพลาดให้เห็น แต่เกมนี้คลีนชีต เกมที่แล้วก็เกือบทำได้ แค่เสียจากลูกแฉลบเปลี่ยนทางของ อันโตนิโอ รูดิเกอร์

3) แดนกลางคุณภาพสูงเลย โทนี่ โครส เป็นตัวออกบอล Deep-Lying Playmaker ส่วน โรเบิร์ต อันดริช ก็ตัดเกมดุดัน และ อิลคาย กุนโดกัน พลุ่งพล่านมากในฐานะตัวเติมแถวสอง

4) แนวรุกก็แพรวพราว โดยเฉพาะ จามาล มูเซียล่า (2 นัด 2 ประตู) กับ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์

และ 5) ดูเหมือนว่า ยูเลียน นาเกิลส์มันน์ จะค้นเจอความ "ลงตัว" ในทีมของเขาแล้ว ทั้ง 11 คนแรกและตัวสำรองที่จะใช้สำหรับเปลี่ยนเกม

เมื่อ 1+2+3+4+5 เข้าด้วยกัน มันจึงเป็นผลลัพธ์ชนะ 2 เกมรวด และ เยอรมนี การันตีการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024 ได้ก่อนใคร

ซึ่งก็น่าลุ้นว่า แชมป์ยุโรปสมัย 4 จะมีความเป็นไปได้อยู่พอตัว

แต่อย่างไรก็ตาม...

แต่ก็อีกนั่นแหละ ฟุตบอล ไม่สามารถกะเกณฑ์อะไรได้เป็นสูตรตายตัว

มันจึงยังบอกไม่ได้ในตอนนี้ ว่า เยอรมนี จะไปไกลได้แน่ๆ ใน ยูโร 2024

หนึ่งคือ เยอรมนี ต้องดูกันไปในแต่ละวัน แต่ละเกม ว่าจะงัดฟอร์มดีๆ ออกมาได้หรือไม่อย่างไร

และสองคือ คู่แข่งที่จะต้องเจอในรอบน็อกเอาต์ จะแข็งโป้กขนาดไหน

หากตีไปเลยว่า เยอรมนี จะยึดแชมป์กลุ่มเอได้ คู่แข่งรายถัดไปที่จะเจอในรอบหน้า ก็คือ "รองแชมป์กลุ่มซี" ที่ดูว่ามีสิทธิ์เป็นได้ทั้ง เดนมาร์ก, เซอร์เบีย หรือ สโลวีเนีย (ยก อังกฤษ แชมป์กลุ่มไปเสีย) ซึ่งตามชื่อชั้น ก็คงไม่ใช่งานลำบากยากเย็นอีกเหมือนกัน

แต่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแล้วล่ะ -- 8 ทีม / ตัดเชือก / นัดชิงชนะเลิศ

• สเปน?
  
  อิตาลี?
  
  เนเธอร์แลนด์?
  
  โปรตุเกส?
  
  ฝรั่งเศส?
  
  อังกฤษ?
  

ทีมเหล่านี้แหละ บททดสอบสำคัญสุดที่จะบอกได้ว่า เยอรมนี พร้อมขนาดไหนสำหรับการไปถึงแชมป์ยุโรปสมัย 4 และแชมป์ที่รอคอยมาตั้งแต่ 1996

เอาเป็นว่าอดใจรอดูกันต่อไป และก็อย่าเพิ่งวางใจว่า เยอรมนี จะไปได้สวยแน่ๆ

ระหว่างทางถึงดวงดาว อะไรๆ มันก็บ่แน่ดอกนาย...

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในศึก ยูโร 2024 ได้ที่นี่