อิปสวิช 0-2 ลิเวอร์พูล : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด หงส์แดง สยายปีกประเดิมซีซั่นใหม่ น่ายิงขาดมากกว่า 2 เม็ด

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25
วันแข่งขัน: เสาร์ 17 สิงหาคม 2567
สนาม: พอร์ทแมน โร้ด, อิปสวิช
ผลการแข่งขัน : อิปสวิช ทาวน์ 0-2 ลิเวอร์พูล

ม้ากับหงส์

ด้วยเพราะการหายหน้าไปจาก พรีเมียร์ลีก นานกว่า 22 ปี ทำให้ อิปสวิช ทาวน์ ห่างหายจากการประมือ ลิเวอร์พูล มากกว่า 20 ปีเสียอีก

2 ทศวรรษหลัง ม้าขาวกับหงส์แดง มีโอกาสฉวัดเฉวียนพาดผ่านกันแค่ครั้งเดียว คือใน ลีก คัพ 2002/23 ยุค เชราร์ อุลลิเยร์ ทำทีม และมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นแกนนำ

คราวนั้น เกมที่แอนฟิลด์จบในเวลาที่ผลเสมอ 1-1 ก่อนลากกันจนถึงดวลจุดโทษ และ ลิเวอร์พูล เฉือนชัย 5-4 ด้วยการที่ เจมี่ แคล็ปแฮม ซัดพลาดเพียงคนเดียวจากสองฝั่ง

ส่วนถ้าย้อนไปไกลกว่านั้นอีก ก็จะพบว่า ลิเวอร์พูล รัว อิปสวิช ขาดลอยถึง 6-0 และ 5-0 ใน พรีเมียร์ลีก 2001/02

แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั้นคือเรื่องในอดีต คงยึดถืออะไรเป็นสาระไม่ได้ และเกมนี้คงตัดสินกันแค่ว่า ใครทำได้ดีกว่า

ซึ่งก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ลิเวอร์พูล เหนือกว่า อิปสวิช ทาวน์ ในแทบทุกมิติ

ชุดแรกของ สล็อต

11 คนแรกของ อาร์เน่อ สล็อต ที่พอร์ทแมนโร้ด แอบมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ ที่แดนหลัง กับการที่ จาร์เรลล์ ควอนซาห์ เซนเตอร์แบ็กดาวรุ่ง ได้รับเลือกก่อนรุ่นพี่อย่าง อิบราฮิมา โกนาเต้

ส่วนนอกนั้นไม่มีอะไรเกินคาด อลิสซอน เบ็คเกอร์ เฝ้าเสา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้าย เซนเตอร์อีกรายเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และแบ็กขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

แดนกลางมี อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, ไรอัน กราเฟนแบร์ก และข้างหน้าใช้ หลุยส์ ดิอาซ ขึ้นทางซ้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่ริมเส้นขวา และ ดีโอโก้ โชต้า ปักหลักหน้าเป้า

กระนั้น ที่น่าสนใจสุดกลับไม่ใช่เรื่องของทีมตัวจริง แต่เป็นคนที่ "ไม่มีชื่อ" ในทีมต่างหาก

โจ โกเมซ

นัดนี้ โกเมซ ไม่มีชื่อนั่งสำรอง ซึ่งข่าวบอก ไม่ได้เดินทางร่วมทีมมาด้วย

ในบางรายงานของบางแหล่งบอกว่า โกเมซ กำลังอยู่ในขั้นตอนการ "มองหา" เปิดเจรจากับสโมสรอื่นเพื่อย้ายออกจากแอนฟิลด์ ก่อนปิดตลาดซัมเมอร์ช่วงสิ้นเดือน

ซึ่งเมื่อไม่ได้เดินทางร่วมทีมมาเตะเกมเปิดหัวแบบนี้ ก็คงหมายความว่า......

หงส์ฟ้ากับม้าวัด

ก็พอจะคาดเดาได้อยู่บ้าง สำหรับวิธีการเล่นที่ "ทีมเล็ก" เลื่อนชั้นขึ้นลีกสูงสุดหนแรกในรอบ 2 ทศวรรษ จะใช้สำหรับเกมนี้

หนึ่งคือตั้งรับแน่น แพ็คเกมถอยร่น ตั้งกำแพงทั้งทีม

สอง หาโอกาสสวนดีๆ หรือลุ้นเอาจากลูกตั้งเตะ

และ คีแรน แม็คเคนน่า ก็ยังติดตั้งบางกลยุทธ์ลงไปด้วยอย่าง "บอลวัด" คือหันหน้าไปทางไหน กูเตะไปทางนั้น แรงพลังมาก่อน ชั้นเชิงไว้ทีหลัง

ซึ่งควรถือว่า 45 นาทีแรก อิปสวิช ทำได้ดีเลยทีเดียว

พวกเขาปิดเกมบุกของ ลิเวอร์พูล จนทำให้ 15 นาทีแรก หงส์แดงยังหาโอกาสจบสกอร์จะแจ้งครั้งแรกไม่เจอ

ที่ได้ลุ้นใกล้เคียงกว่า เป็นทางม้าขาวนั่นเองที่มีเสียวจากลูกยิงของ โอมารี่ ฮัทชินสัน หรือลูกโขกของ เจค็อบ กรีฟส์

ครึ่งแรกสิ้นสุดลงไปโดยที่ อิปสวิช สร้างโอกาสจบได้มากกว่า 4:3 ครั้ง และยังยิงตรงกรอบได้มากกว่า 2:0 ครั้ง

ภาพคือ จังหวะเซ็ตพีซ จังหวะสวน อิปสวิช อันตรายกว่า จะแจ้งกว่า

ฉะนั้น ก็มีเวลา 15 นาทีให้ สล็อต ได้ลงมือแก้เกม สำหรับครึ่งเวลาหลัง

น่าขาดกว่า 2-0

แปลกเล็กน้อยว่าจุดแรกที่ สล็อต เลือกเปลี่ยนก็คือหลังบ้าน

อิบราฮิมา โกนาเต้ ได้ลงแทน จาร์เรลล์ ควอนซาห์ เมื่อเริ่มครึ่งหลัง ซึ่งไม่แน่ใจว่าอาจเพราะปัญหาบาดเจ็บหรือไม่อย่างไร

ถัดจากจังหวะเช็ก VAR ที่บอกว่า อิปสวิช ล้ำหน้าและไม่ได้จุดโทษไปพร้อมๆ กันนั้น นาที 55 โอกาสทองของ ลิเวอร์พูล มาถึง จังหวะต่อเกมกันสวยๆ ที่จบด้วย อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เคาะให้ หลุยส์ ดิอาซ เข้าชาร์จโล่งๆ ระยะสุดจ่อ กระนั้นด้วยการที่เสี้ยววินาทีเดียวกันนั้น คริสเตียน วอลตัน ก็พุ่งเข้าหาด้วย ทำให้ ดิอาซ งัดข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

และอีกไม่กี่นาทีต่อมา TAA สาดจากขวาแม่นๆ เข้าหัว ดีโอโก้ โชต้า ขึ้นโขกระยะอันตรายใครเห็นก็ว่าเข้า... หลุดออกข้างเสา

อย่างไรก็ตาม นาที 61 ประตูแรกที่ เดอะ ค็อป รอคอยก็มาถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทะลุขึ้นทางขวาแล้วปาดมาด้านใน เสร็จ โชต้า คราวนี้เข้าฮอสตุงตาข่ายไม่พลาด พา ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0

ทั้งยังไม่ต้องรอนาน เมื่อจากนั้นนาที 66 จังหวะต่อเกมขึ้นไปแล้ว ลีฟ เดวิส ยืดขาสกัดกลายเป็นพักบอลให้เข้าทาง โม ซาลาห์ จิ้มสวนตัวนายทวารไม่เหลือ ฉีกสกอร์ยาวไป 2-0

เมื่อสกอร์ขาด และ อิปสวิช พยายามเปิดหน้าแลก ก็เข้าทาง ลิเวอร์พูล ไปกันใหญ่

ช่วงสิบยี่สิบนาทีท้าย โอกาสของ ลิเวอร์พูล มีไหลมาเทมา โอกาสจบมีเพิ่มเติมไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง (จนสุดท้าย ปิดเกมที่โอกาสยิง 18 ตรงกรอบ 5) แต่ถ้าไม่ติดบล็อก ติดเซฟ ก็ไม่เข้าเป้าไปเอง

บทสรุปของเกมคือ ลิเวอร์พูล ดีกว่ามากๆ ในครึ่งหลัง และน่าชนะขาดกว่า 2-0 เช่นกัน

ตกลงซื้อไม่ซื้อ?

เพราะภาพก็ชัดตั้งแต่เกมแรก ว่าทีมนึงลุ้นแชมป์ ทีมนึงหนีตกชั้น

กระนั้น คงเป็นเรื่องในระยะยาว ว่า ลิเวอร์พูล กับ อิปสวิช จะมีก้าวเดินไปทางไหน

คำถามสำคัญในตอนนี้คือ, ในตอนนี้ที่ตลาดซัมเมอร์ใกล้จะปิดตัวลง, ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องซื้อนักเตะใหม่หรือไม่ หลังยังไม่ได้ใครมาเสริมทั้งสิ้น ยังไม่ได้ปลิ้นเงินแม้แต่เพนนีเดียว

จากเกมนี้ คำตอบคงจำแนกได้ 2 อย่าง

คือ 1. ระยะสั้น ไม่จำเป็นต้องซื้อ - ตัวผู้เล่นดีอยู่แล้ว ตัวเลือกมีไม่น้อยแล้ว เกมนี้ โคดี้ กัคโป ได้เล่นแค่สิบกว่านาที ดาร์วิน นูนเยซ ก็ไม่ได้ลง เช่นเดียวกับ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ หรือ วาตารุ เอ็นโด นั่งสำรองโดบไม่ถูกใช้งาน

กับ 2. ระยะยาว ซื้อไว้ก็ดีแหละ - เมื่อไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ใครจะเจ็บ ใครจะแบบ ใครจะฟอร์มหลุด กับการสู้ศึก 4 รายการ หงส์แดงก็ควรเพิ่มตัวเลือกขึ้นสักหน่อย อย่างน้อย 1-2 รายก็ยังดี

แต่ในเมื่อนี่คือการแข่งขันระยะยาว ฤดูกาลละ 8-9 เดือน คำตอบสุดท้ายก็คงได้ว่า "ควรซื้อ"

ปัญหาก็คือ แล้วจะเติมตรงไหนดี เมื่อตัวเลือกก็ค่อนข้างแน่นแล้วในตอนนี้

นั่นน่ะสิ...เติมตรงไหนถึงจะ "พอดี" ไม่มากไม่น้อยไป

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม ลิเวอร์พูล ได้ที่นี่