ไอร์แลนด์ 0-2 อังกฤษ : เก็บตกหลังเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก นัด สิงโตคำราม บุกสยบเพื่อนบ้าน สบายๆ ไร้กังวล
• ไม่ว่ามุมไหน อังกฤษ ก็ดีกว่าทั้งหมด เป็นการออกตัวที่ยอดเยี่ยมในรายการ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกมนี้
รายการ: ฟุตบอล ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2024/25 (ลีกบี กลุ่ม 2)
วันแข่งขัน: เสาร์ 7 กันยายน 2567
สนาม: อาวีว่า สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : ไอร์แลนด์ 0-2 อังกฤษ
ยักษ์เขียวกับสิงโต
ทั้งที่ห่างกันแค่คืบตามแผนที่ แต่อันที่จริง อังกฤษ กับ ไอร์แลนด์ ใช่ว่าจะสาดแข้งกันบ่อยครั้งอะไรมากมาย
จากบันทึกสถิติ พบว่าคู่นี้เจอกันมาแค่ 16 ครั้งเท่านั้น และหนักไปทางเสมอมากกว่าอย่างอื่น -- เสมอ 8 อังกฤษชนะ 6 และไอร์แลนด์ชนะได้แค่ 2
ยิ่งโดยเฉพาะใน 20 ปีหลัง อังกฤษ กับ ไอร์แลนด์ ดวงสมพงศ์มาลงสนามกันแค่ 3 รอบ อันเป็นเกมลับแข้งทั้งหมด
- 2012/13 อังกฤษ 1-1 ไอร์แลนด์
2014/15 ไอร์แลนด์ 0-0 อังกฤษ
2020/21 อังกฤษ 3-0 ไอร์แลนด์
นั่นคือล่าสุดเมื่อปลายปี 2020 แฮร์รี่ แม็กไกวร์, เจดอน ซานโช่ และ โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน จัดคนละเม็ดให้ สิงโตคำราม ปราบ ยักษ์เขียว ลงสบายๆ ในเวมบลีย์
คาร์สลี่ย์ 1.0
ถือว่าเกมนี้ น่าจับตาในหลายๆ ประเด็น ไม่ว่าจะ
1) การดวลกันระหว่างชาติเพื่อนบ้านคู่นี้ จะออกหน้าไหน
2) ภายหลังเข้าชิง ยูโร มา 2 หนซ้อน อังกฤษ จะมีก้าวเดินอย่างไรต่อ
3) กับการตกชั้นลงมาสู่ ลีกบี อังกฤษ จะได้ผลเกมแรกแบบไหน
และ 4) เมื่อมี ลี คาร์สลี่ย์ กุมบังเหียน อังกฤษ จะมีโฉมหน้าอย่างไร
ทุกข้อ สามารถพบคำตอบได้ใน 90 นาทีที่ อาวีว่า สเตเดี้ยม โดยเฉพาะข้อ 4 ที่ออกก่อนเกมนับชั่วโมง ซึ่งปรากฏว่า อดีตดาวเตะ เอฟเวอร์ตัน ผู้ซึ่งนั่งเก้าอี้คุมสิงโตน้อย ยู-21 มาตั้งแต่ปี 2021 (และขึ้นคุมชุดใหญ่แบบรักษาการ) นั้น เลือกติดตั้งระบบ 4-3-3 ให้กับทัพสิงโตคำราม
จอร์แดน พิคฟอร์ด เจ้าเก่าเฝ้าเสา หลังบ้านวาง มาร์ก เกฮี จับคู่เซนเตอร์กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ส่วนแบ็กสองข้างเป็น ลีวาย โคลวิลล์ กับ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
แดนกลางมีเซอร์ไพรส์เล็กๆ ที่ แจ๊ค กรีลิช ได้ออกสตาร์ทร่วมกับ ค็อบบี้ เมนู และ ดีแคลน ไรซ์ ในขณะที่ข้างหน้าโผออกตามคาด แอนโธนี่ กอร์ดอน ขึ้นเกมริมเส้นซ้าย บูกาโย่ ซาก้า อยู่ทางขวา และหน้าเป้ากัปตันทีม แฮร์รี่ เคน
เอาไม่อยู่
ไม่ต้องรอนานทั้งประตูแรกและบทสรุปของเกม
เมื่อการฉีกหนี 2-0 อย่างรวดเร็วและร้อนแรง ก็ทำให้ อังกฤษ การันตีชัยชนะเหนือ ไอร์แลนด์ ได้ตั้งแต่สิ้นสุดครึ่งแรกลงแล้ว
ลูกแรก น.11 แอนโธนี่ กอร์ดอน ทะลุเดี่ยวเข้าไปยิงติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ แต่บอลไม่พ้นอันตราย กอร์ดอน เก็บได้ก่อนจ่ายเข้าในให้ แฮร์รี่ เคน กดติดบล็อกกองหลัง ยังดีมีดาบ 3 อย่าง ดีแคลน ไรซ์ ซัดกระแทกเปรี้ยงจมตาข่าย
ลูกสอง น.26 จังหวะต่อเกมทำชิ่งกันสวยๆ ไรซ์ ปาดมาให้ แจ๊ค กรีลิช ยิงหักข้อไม่จับเข้าเสาสองพอดิบพอดี
นำเร็ว 2-0 ในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และรูปเกมยังเป็น อังกฤษ คุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ บางนาทีครองบอลระดับ 80 : 20 เปอร์เซ็นต์
ก็เท่ากับเกมนี้ไม่มีอะไรพลิกความคาดหมายแน่ๆ เมื่อจบครึ่งแรก อยู่ที่ว่าครึ่งหลังจะมียิงเพิ่มกันไหม จะออก 3-0 หรือ 2-1 หรือสกอร์เดิม
ไอร์แลนด์ 0-2 ไอริช
น่าแปลกและน่าเจ็บจี๊ดแทน ไอร์แลนด์ ว่า 2 นักเตะที่ลั่นไกใส่พวกเขาในวันนี้ ที่จริงคือ "ไอริช" ทั้งคู่
ดีแคลน ไรซ์ : ต้นตระกูลมาจากเมืองคอร์ก ไอร์แลนด์ และในช่วงเยาวชน (อยู่เวสต์แฮม) ก็เล่นให้ทีมชาติไอร์แลนด์หลายชุด ยู-17, ยู-19, ยู-21 หรือกระทั่ง ไอร์แลนด์ ชุดใหญ่ ก็เคยผ่านมาแล้ว 3 นัดในปี 2018 กระนั้นด้วยกฎใหม่ของ ฟีฟ่า ที่เอื้อให้มีการเปลี่ยนทีมชาติได้ง่ายกว่าแต่ก่อน ก็ทำให้ ไรซ์ เลือกเปลี่ยนมาเล่นให้ อังกฤษ ในปี 2019 เป็นต้นมา
แจ๊ค กรีลิช : เกิดที่เบอร์มิงแฮมก็จริง แต่มีสายเลือดไอริชส่งต่อกันมาในครอบครัว ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับ ไรซ์ คือ กรีลิช มีโอกาสได้เล่นให้ทีมชาติไอร์แลนด์หลายชุด ทั้งยู-17, ยู-18 และ ยู-21 แต่ว่าต่างไปนิดคือ กรีลิช ปฏิเสธคำเชิญจากไอร์แลนด์ชุดใหญ่ แล้วเลือกเปลี่ยนมาสวมชุด อังกฤษ ยู-21 ในปี 2016 แทน จึงค่อยขยับขึ้นชุดใหญ่สิงโตภายหลัง
อย่างไรก็ตาม จะไปกล่าวโทษทั้ง ไรซ์ และ กรีลิช ในการเลือกทางนี้ก็คงไม่ถูก
เพราะหากตัดสินใจสวมเสื้อเขียวต่อมายาวๆ แล้ว... ฟุตบอลลงฟุตบอลโลก ยูรงยูโร ก็ไม่ต้องคิดฝันจะไปมันหรอก!
ไม่เห็นต้องทำให้มันยาก
หนึ่งในจุดน่าสนใจ และเป็นความต่างของ อังกฤษ ระหว่าง ลี คาร์สลี่ย์ กับ แกเร็ธ เซาธ์เกต ก็คือความ "เรียบง่าย" ไม่เห็นต้องคิดอะไรเยอะ
สิ่งที่ คาร์สลี่ย์ เลือกใช้ในเกมแรกของเขากับงานคุมทีมชุดใหญ่ คืออะไรเบสิกๆ ซิมเปิ้ลๆ ไม่ต้องเล่นท่ายาก ไม่ต้องคิดมากมาย
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถนัดแบ็กขวา ก็ให้เป็นแบ็กขวา
แอนโธนี่ กอร์ดอน สร้างชื่อด้วยการเป็นปีกซ้าย ก็ให้ลงที่ปีกซ้าย
ดีแคลน ไรซ์ ครบเครื่องทั้งรุกรับ ก็ให้เป็นตัวขับเคลื่อนแดนกลาง
ค็อบบี้ เมนู ไม่ต้องทำอะไรมาก แต่ดูแลเกมรับกลางสนาม
หรือ แจ๊ค กรีลิช ครองบอลได้ เทคนิคดี ก็เติมลงไปเป็นมิดฟิลด์ตัวซ้ายในระบบ 4-3-3
อาจใช่ว่า ไอร์แลนด์ ยังไม่ใช่คู่แข่งที่จะชี้วัดอะไรได้มาก และที่จริง เกม "กึ่งเอาจริงกึ่งลับแข้ง" อย่าง เนชั่นส์ ลีก ก็ใช้เป็นหลักยึดโยงอะไรมากนักไม่ได้เช่นกัน
แต่ คาร์สลี่ย์ ทำให้เห็นว่าการ "ใช้คนให้ถูกกับงาน" ไม่ต้องพลิกแพลง ไม่ต้องคิดเยอะ มันก็เวิร์คดีนี่หว่า
เริ่มด้วย 3 แต้มแล้ว...
อังกฤษ จะคว้าแชมป์กลุ่ม เลื่อนชั้นกลับสู่ ลีกเอ แน่นอน...เมื่อเพื่อนร่วมกลุ่มใน ลีกบี ซีซั่นนี้ของพวกเขา ก็มีแต่ทีมเกรดบี ตามการจำแนกลีกนั่นแหละ
- อังคาร 10 ก.ย. อังกฤษ จะกลับไปเปิดเวมบลีย์ รอขยี้ ฟินแลนด์
คิวเตะเดือนหน้า (10, 13 ต.ค.) เหย้า กรีซ / เยือน ฟินแลนด์
ปิดท้ายปลายปี (14, 17 พ.ย.) เยือน กรีซ / เหย้า ไอร์แลนด์
ทำเป็นเล่นไป คิวเตะมี 6 นัด อังกฤษ ก็อาจได้ 18 คะแนนเต็มเข้ากระเป๋า
เพราะที่จริง พวกเขาไม่ควรมาอยู่ใน ลีก บี นี่ตั้งแต่แรกแล้วไงล่ะ!