อิตาลี 1-2 อังกฤษ: ประเด็นหลังเกม ยูโร 2024 รอบคัดเลือก สิงโตคำราม บุกอัด อัสซูรี ถึงถิ่น

บอลคนละครึ่ง

เกมนี้ อังกฤษ เริ่มต้นได้ดีเกินคาดและแทบจะครองเกมบุกเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว สร้างโอกาสได้ชัดเจนกว่า จบสกอร์ได้มากกว่า และออกนำเร็วก่อนจะมาบวกประตูเพิ่มได้อีกในช่วงท้ายครึ่งแรกจนดูแล้วเหมือนกับว่าค่ำคืนนี้จะเป็นของพวกเขาอย่างง่ายดาย แต่แล้วมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะครึ่งหลัง อิตาลี เอาจริงแก้เกมมาพับสนามบุกเข้าใส่คืนชนิดที่ทีมเยือนต้องเตะทิ้งเตะขว้างแถมยังมาโดนใบแดงช่วง 10 นาทีท้ายอีกต่างหาก โชคดีที่สุดท้ายแล้วเจ้าบ้านไล่ตีคืนมาได้ลูกเดียว จนเป็นผู้มาเยือนที่เกือบเอาตัวไม่รอดแต่ก็ยังดีพอจะคว้า 3 คะแนนกลับออกมาได้ในที่สุด

ชัยชนะแรกบนแผ่นดิน อิตาลี

ไม่น่าเชื่อว่าตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาที่ทั้งสองทีมพบกันนั้น อังกฤษ ไม่เคยบุกไป อิตาลี ในบ้านได้เลยหากนับเฉพาะเกมอย่างเป็นทางการ (ไม่รวมการเตะกระชับมิตร) โดย 7 เกมที่เคยบุกมาที่นี่พวกเขาแพ้ไปถึง 5 เสมอ 2 ก่อนที่เกมนี้ ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะสร้างประวัติศาสตร์บุกมาคว้าชัยได้เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ

เคน ทำลายสถิติ รูนีย์

ฉายาใหม่ที่จากนี้ไปเราจะต้องใช้เรียก แฮร์รี เคน กองหน้ากัปตันทีม สิงโตคำราม รายนี้นั่นคือ "ดาวยิงสูงสุดตลอดกาล" ของ ทีมชาติอังกฤษ นั่นเอง เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวมีตัวเลขอยู่ที่ 53 ประตูเทียบเท่ากับ เวย์น รูนีย์ แต่ 1 ประตูจากลูกจุดโทษในเกมนี้ทำให้เขาผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำเพียงหนึ่งเดียวแล้ว และแน่นอนสตาร์จาก ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ รายนี้ยังมีโอกาสอีกมากที่จะบวกสถิตินี้ให้เพิ่มขึ้นไปอีกในอนาคต

เรเตกี ยิงประตูในนัดประเดิมทีมชาติ

อย่างที่ทราบกันดีว่า อิตาลี ในยุคนี้กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ ซึ่งก็เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่จบ ยูโร 2020 แล้ว แต่แน่นอนนั่นตามมาพร้อมเสียงวิจารณ์ถึงการเรียกนักเตะโนเนมหรือบางรายอาจชื่อไม่คุ้นหูเข้ามาติดทีมหลายคน ตัวอย่างเช่น มาเตโอ เรเตกี กองหน้าที่ค้าแข้งอยู่ใน อาร์เจนตินา กับ สโมสรติเกร ซึ่งก่อนเกมโดนด่าระงมเลยว่าทีมตกอับถึงขนาดต้องไปดึงกองหน้าที่เล่นลีกอเมริกาใต้มาเชียวหรือ แต่สุดท้ายเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ธรรมดากับโอกาสเดียวในเกมที่ได้หลุดไปซัดเหน่ง ๆ สวนตัว พิคฟอร์ด เข้าไปอย่างเฉียบขาดเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่แน่ว่าเขาคนนี้อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวความหวังคนใหม่ให้กับทีมในภายภาคหน้าก็เป็นได้...