ลิเวอร์พูล 1-1 แอสตัน วิลลา: เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง เปิดบ้านเจ๊าเหนื่อยเมื่อคืนที่ผ่านมา
รายการ: | ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23 |
---|---|
วันแข่งขัน: | วันเสาร์ที่ 20 พฤษภายน 2023 |
สนาม: | แอนฟิลด์ |
ผลการแข่งขัน: | ลิเวอร์พูล 1-1 แอสตัน วิลลา |
รูปเกม หงส์แดง ชวนเหนื่อย
ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะการที่ คล็อปป์ ไม่ได้อยู่คุมทีมข้างสนามหรือไม่ แต่วันนี้เกมของ ลิเวอร์พูล แม้จะไล่กดดันได้ดีในช่วง 15 นาทีแรก แต่ก็ไม่สามารถสร้างโอกาสสวย ๆ ได้เลยชนิดที่ครึ่งแรกยิงไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังโดน วิลลา ทำเกมสวนกลับชวนหวาดเสียวอยู่ตลอด และที่สำคัญคือโดนทั้งจุดโทษยังดีที่ วัตกิ้นส์ ยิงพลาด อย่างไรก็ตาม เจคอป แรมซีย์ มาซัดให้ทีมเยือนออกนำไปก่อนอีกต่างหาก แม้ครึ่งหลัง หงส์แดง พยายามจะเร่งแต่ก็ยังสร้างความกดดันให้เกมรับของผู้มาเยือนได้ค่อนข้างน้อย บอลแทบไปไม่ถึงพื้นที่อันตราย โดยเกมก็ทำท่าจะจบด้วยความปราชัยแต่แล้วสุดท้าย ฟิร์มิโน ตัวสำรองลงมายิงกู้หน้า ช่วยให้ทีมแบ่งแต้มไปได้แบบหืดจับในที่สุด
ลิเวอร์พูล ประเดิมชุดแข่งใหม่
เกมนี้ หงส์แดง ลงสนามพร้อมกับการเปิดตัวชุดแข่งใหม่ที่จะใช้ในฤดูกาลหน้า โดยเป็นแบรนด์ "ไนกี้" รูปแบบสไตล์เน้นความย้อนยุค โดยมีคอนเซปต์ย้อนกลับไปในฤดูกาล 1973/74 ยุคของ บิลล์ แชงคลี ที่พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จ โดยชุดจะเป็นสีแดงเรียบ ๆ แต่จะตัดขอบที่คอเสื้อและแขนเสื้อด้วยสีขาวตามภาพที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ แน่นอนก็มีความเห็นหลากหลายต่าง ๆ นา ๆ แต่ถ้าถามส่วนตัว มันเหมือนกับการใส่ชุดที่ "หลงยุค" ยังไงชอบกล
ฟิร์มิโน อำลา แอนฟิลด์ ด้วยบทฮีโร่ !
เหมือนว่าบทละครนี้จะถูกเขียนมาว่าก่อนจากกันก็ต้องมีการไว้ลายกันหน่อย และมันก็เป็นเช่นนั้นเพราะ หงส์แดง โดนนำเร็วตั้งแต่ครึ่งแรก แก้เกมอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น เจาะไม่เข้า ยิงไม่ผ่าน สุดท้ายต้องถึงมือของ บ็อบบี้ ฟิร์มิโน หัวหอกชาวบราซิลที่เตรียมจะอำลาทีมไปหลังจบฤดูกาล ลงมาซัดประตูสำคัญต่อหน้าแฟน ๆ ในนัดสุดท้ายของเขาที่ แอนฟิลด์ ได้แบบหล่อ ๆ ช่วยให้ทีมแบ่งแต้มก่อนปิดฉากตำนานในสีเสื้อ หงส์แดง ด้วยบทบาท "ฮีโร่" ที่แฟน ๆ จะจดจำยุคที่ทีมมีเขาไปอีกนานแสนนาน
โอกาสจบท็อป 4 ริบหรี่
แม้ในทางทฤษฏีจะยังเป็นไปได้แต่การที่สุดท้ายเกมนี้ ลิเวอร์พูล เก็บได้เพียง 1 คะแนนนั่นทำให้ระยะห่างของพวกเขากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็น 3 คะแนนเพราะวันนี้ ปีศาจแดง เองก็เอาชนะ บอร์นมัธ ไปได้ โดยที่ หงส์แดง เหลือเกมอีกเพียงนัดเดียวที่จะบุกไปเยือน เซาแธมป์ตัน สุดสัปดาห์หน้า ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีเกมอีก 2 นัดเจอกับ เชลซี และ ฟูแลม
นั่นหมายความว่าทางเดียวที่จะทำให้ ลิเวอร์พูล จบท็อป 4 ได้คือต้องลุ้นให้ แมนยู แพ้รวดทั้งสองเกมเท่านั้น และ หงส์แดง ไปชนะ เซาแธมป์ตัน ซึ่งนั่นจะทำให้ทั้งคู่มีแต้มเท่ากันแต่ผลต่างประตูได้เสีย ลิเวอร์พูล ดีกว่า แต่มันจะเป็นไปได้หรือไม่ ? แต่หากถามความเห็นส่วนตัวบอกเลยว่าเป็นไปได้แต่ริบหรีเต็มทีหากจะหวังให้ แมนยู สะดุดขาตัวเองเก็บไม่ได้สักคะแนนเดียวในช่วงโค้งสุดท้าย...