ลิเวอร์พูล 2-0 เบรนท์ฟอร์ด : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด หงส์แดง ตีผึ้งตายสนิท เตรียมพร้อมลุย แดงเดือด ฉะ แมนยู

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25
วันแข่งขัน: อาทิตย์ 25 สิงหาคม 2567
สนาม: แอนฟิลด์
ผลการแข่งขัน : ลิเวอร์พูล 2-0 เบรนท์ฟอร์ด

ชุดแรกของ สล็อต

ค่อนข้างชัดแล้วว่า อาร์เน่อ สล็อต วาง 11 คนแรกของเขาเป็นแบบไหน และใครที่จะเป็นสำรองหรือตัวสลับเซ็ตแรกๆ เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยน

ทีมตัวจริงในวันนี้ เปลี่ยนจากนัดก่อนที่ชนะ อิปสวิช ทาวน์ 2-0 แค่จุดเดียวถ้วน คือ อิบราฮิมา โกนาเต้ แทนที่ จาร์เรลล์ ควอนซาห์ ซึ่งมีข่าวว่าไม่สมบูรณ์ (แต่ก็ยังมีชื่อนั่งสำรอง)

ภายใต้ระบบ 4-2-3-1 หรือยืนจริงๆ 4-3-3 ในหลายจังหวะ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เฝ้าเสา แผงแบ็กโฟร์มี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, อิบราฮิมา โกนาเต้ และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

แดนกลาง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, ไรอัน กราเฟนแบร์ก และข้างหน้าใช้ หลุยส์ ดิอาซ ขึ้นทางซ้าย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อยู่ริมเส้นขวา และ ดีโอโก้ โชต้า ปักหลักหน้าเป้า

นี่คือ 11 ตัวจริงที่ สล็อต คงจะใช้ไปตลอดซีซั่นนี้ ในทุกเกมและทุกรายการที่เน้น และ/หรือ ไม่มีปัญหาสภาพทีม

ในขณะที่ โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเยซ, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ก็คือ 3 ชื่อแรกในการสอดแทรก ไม่ว่าจะลงสำรองหรือสลับลงตัวจริงในบางโอกาสของเกมถัดๆ ไป

ฉะนั้น ไม่กี่วันสุดท้ายของตลาด ชื่อที่ต้องจับตาก็คือ โจ โกเมซ กับ วาตารุ เอ็นโด ว่าจะมีใครมาหอบหิ้วออกไปหรือไม่

เพราะถ้าไม่มี ขาเข้าก็มีสิทธิ์เป็น 0 ได้เหมือนกัน

ง่ายๆ สบายๆ

ลำพัง สถิติการพบกันที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ก็ "รับประทานอย่างมูมมาม" (หรือ 'กินขาด') เหนือ เบรนท์ฟอร์ด อยู่แล้ว

• 2021/22 เบรนท์ฟอร์ด เสมอ ลิเวอร์พูล 3-3 / ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0
  2022/23 เบรนท์ฟอร์ด ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 / ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 1-0
  2023/24 ลิเวอร์พูล ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-0 / เบรนท์ฟอร์ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4
  

อาจเจอปัญหาบ้างเมื่อยามลงมาเยือนในกรุงลอนดอน แต่ถ้าเป็นที่ แอนฟิลด์ แล้ว ถือว่า หงส์แดง 100%

เกมนี้ก็ไม่ต่าง

ทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลัง คงนับได้ว่า เดอะ ค็อป สามารถดูเกมได้อย่างสบายใจ เมื่อ...

1. นำเร็ว - ขึ้นนำ 1-0 จาก หลุยส์ ดิอาซ ในเพียงนาทีที่ 13

2. ไม่มีวี่แววว่าจะโดนยิง - วันนี้ เบรนท์ฟอร์ด เกมรุกหาย เจาะหลังบ้านหงส์ไม่เข้าเลย ตลอดเกมมีโอกาสยิงรวม 8 ครั้ง ตรงกรอบแค่ 2

3. เม็ดสองมาในเวลาพอเหมาะ - ครึ่งหลังนาที 70 โม ซาลาห์ จัดให้เป็น 2-0

และ 4. ลิเวอร์พูล ดีกว่าจริงๆ - ดีกว่าในทุกมิติ คู่ควรจะเป็นผู้ชนะอย่างไร้ข้อโต้แย้ง

ไม่รู้เหมือนกันสิว่าควรจะชมเชย อาร์เน่อ สล็อต ว่าทำงานของเขาได้ดี

หรือต้องให้เครดิตกับ เยอร์เก้น คล็อปป์ กันแน่ ที่เป็นคนสร้างทีมชุดนี้เอาไว้กับมือ

ปีทอง (อีกครั้ง) ของบังโม?

ในวัย 32 และมาดใหม่ในทรงสกินเฮด

หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าบางที เวลาในแอนฟิลด์ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อาจเหลืออีกไม่มาก

หรือไม่บางที "ไฟ" ในตัวของดาวยิงอียิปต์ ก็อาจมอด ติดๆ ดับๆ ไปเอง เมื่อซีซั่นใหม่นี้คือการอยู่โยงเล่นกับ ลิเวอร์พูล เป็นปีที่ 8 เข้าไปแล้ว

กระนั้นจากที่เห็นในทั้ง 2 เกมแรก อาจบอกได้ว่าข้อสังเกตเหล่านั้น เป็นเพียงเรื่องลมๆ แล้งๆ

นัดแรกที่บุกปราบ อิปสวิช 2-0 ซาลาห์ จัดให้ทั้งประตูและแอสซิสต์

เกมนี้ แม้อาจไม่สะบึ้มฮึ่มฮั่มนัก ไม่ได้เด่นเป็นพระเอกเบอร์แรก แต่ก็กดเม็ดปิดเกม 2-0

สองนัด จัดแล้ว 2 ประตู

แม้จะต้องดูกันไปยาวๆ แต่ขอให้จับตามองไว้

โม ซาลาห์ ในวัย 32 นี่แหละ อาจเป็นคีย์แมนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของ ลิเวอร์พูล ในการจะเบียด แมนฯ ซิตี้ ให้ตกจากบัลลังก์

แดงเดือด...เท่าไหร่ดี?

แม้แง่หนึ่ง อาจมองได้ว่า "เร็วไปนิด" ที่คู่นี้ต้องมาเจอกันในเพียงเกมที่ 3 ของซีซั่น

แต่แล้วไงใครแคร์ เมื่อโปรแกรมวางมาแบบนี้ มีหน้าที่ลงเล่นก็ลงเล่นไป!

และจากสายตา ควรบอกได้ว่า ลิเวอร์พูล เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกรูขุมขน -- ต่อให้จะเป็นการบุกเตะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ตาม

อาทิตย์ 1 ก.ย. แมนยู จะเปิดรังรับมือ ลิเวอร์พูล

แมนยู ที่ยังแสดงให้เห็นถึงจุดตายอย่างการเสียประตูง่าย และเพิ่งแพ้ ไบรท์ตัน มานี่แหละ จะต้องเจอกับ ลิเวอร์พูล ที่อยู่ในความมั่นใจเต็มถัง และฟอร์มก็ดีแบบแทบหาที่ติไม่ได้ หลักฐานคือ 2 นัด 6 คะแนนเต็ม ยิงได้ 4 และยังไม่เสียประตูเลยสักลูก

คู่นี้ เพิ่งเจอกันมาด้วยในเกมปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา เมื่อต้นเดือน

ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, เคอร์ติส โจนส์ และ คอสตาส ซิมิคาส จัดการคนละเม็ดให้ ลิเวอร์พูล ขยี้ แมนยู เละเทะ 3-0

กับวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ อาจเป็นคนละเรื่อง คนละทีม คนละความซีเรียสจริงจัง

แต่ใครจะกล้ารับปาก ว่าภาพซ้ำ 3-0 จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่ๆ กันล่ะ...

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม ลิเวอร์พูล ได้ที่นี่