ลิเวอร์พูล 2-1 ไบรท์ตัน : เก็บตกประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง ไล่แซงคว้า 3 คะแนนเหนือ นกนางนวล

ลิเวอร์พูล คัมแบ็ค (อีกแล้ว)

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของ หงส์แดง ไปเสียแล้วกับการโดนคู่แข่งขึ้นนำก่อนในฤดูกาลนี้ และแล้วมันก็เป็นเช่นนั้นอีกครั้งหลังจากเล่นไปไม่ถึงสองนาที แดนนี เวลเบ็ค ก็จัดการวอลเล่เต็มข้อบอลพุ่งเข้ามุมไปอย่างงดงามส่งให้ทีมเยือนออกนำเร็ว นั่นทำให้ทีมของ คล็อปป์ ไม่มีทางเลือกต้องเปิดเกมบุกเข้าใส่สถานเดียว แต่ด้วยเกมรุกที่ดุดันของพวกเขาก็ทำให้ไม่ต้องรอนานกับประตูตีเสมอของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ยิงได้ในนาทีที่ 27 แถมหลังจากนั้น ไบรท์ตัน ก็ไม่ได้เร่งอะไรทำให้ยังคงเป็นเจ้าบ้านที่โหมบุกเข้าใส่อย่างหนักและในที่สุดเป็น โม ซาลาห์ ที่มายิงประตูชัยในนาที 65 ส่ง ลิเวอร์พูล แซงคว้า 3 คะแนนไล่บี้หัวตารางต่อไป

เวลเบ็ค เทียบสถิติยิงใน แอนฟิลด์

87 วินาที คือเวลาที่ แดนนี เวลเบ็ค ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายให้ ไบรท์ตัน ออกนำได้ในเกมนี้ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นประตูที่ผู้มาเยือนทำได้ใน แอนฟิลด์ เร็วที่สุดเป็นอันดับสอง เป็นรองเพียงประตูของ แฮร์รี เคน ที่บุกมายิงได้ในเดือนตุลาคมปี 2019 ซึ่งประตูของ เคน นั้นใช้เวลาเพียง 47 วินาทีเท่านั้น !

แมค อัลลิสเตอร์ หัวใจสำคัญที่ หงส์แดง ขาดไม่ได้

ช่วงนี้หนึ่งในเหตุผลที่ ลิเวอร์พูล สามารถทำผลงานได้ดีแม้ว่าจะมีปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวนนั่นก็เป็นเพราะแดนกลางของพวกเขาทำผลงานดีสามารถขับเคลื่อนเกมได้ซึ่งนั่นก็ช่วยให้ทั้งกองหน้าและกองหลังเล่นง่ายยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าคนที่โดดเด่นสุด ๆ ในแผงกลางชั่วโมงนี้ก็หนีไม่พ้น อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ที่หลังจากถูกดันขึ้นมาเป็นเพลย์เมคเกอร์เต็มตัวผลงานของเขาก็ฉายแววสุด ๆ เช่นเดียวกับวันนี้ที่เป็นคนคอยขับเคลื่อนเกม มีจังหวะวางบอลสวย ๆ ให้เห็นตลอดทั้งเกม แถมยังเล่นค่อนข้างฉลาด ครองบอลเหนียวแน่น จนกลายเป็นกำลังสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ไปแล้ว ณ เวลานี้

เกมหนักที่รอพวกเขาอยู่

หลังจากผ่านเกมนี้อีก 9 นัดที่เหลือของ หงส์แดง ต้องบอกว่าไม่ง่ายที่จะคว้า 3 คะแนนรวดยาวจนจบฤดูกาล แม้นัดหน้าจะพบกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในช่วงกลางสัปดาห์ แต่หลังจากนั้นพวกเขาจะมีคิวทำศึก "แดงเดือด" ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด อีกครั้ง ซึ่งเกมนี้นอกจากจะต้องล้างตาให้ได้แล้วพวกเขายังต้องพยายามยิงตุนลูกได้-เสียให้ได้มากที่สุดอีกด้วย ขณะที่ช่วงที่เหลือหลังจากนั้นยังมีเกมที่ต้องเปิดบ้านพบ สเปอร์ส รวมถึงบุกเยือน แอสตัน วิลลา ซึ่งสองทีมนี้กำลังลุ้นคว้าพื้นที่ท็อป 4 อยู่ด้วย ฉนั้นนอกจากจะลุ้นให้คู่แข่งอย่าง อาร์เซนอล และ แมนฯ ซิตี้ ทำแต้มหล่น ลิเวอร์พูล เองก็ต้องไม่พลาดในเกมสำคัญ ๆ เหล่านี้ด้วยเช่นกัน