ลิเวอร์พูล 3-1 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด : เก็บตกประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง เปิดบ้านอัด ดาบคู่ ทะยานขึ้นจ่าฝูง
- ลิเวอร์พูล ยิงสองลูกท้ายเกมแซงชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา
- 3 คะแนนในวันนี้ส่ง หงส์แดง ทะยานขึ้นนำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
- เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด รั้งบ๊วยของตารางต่อไป
รายการ | พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2023/24 |
---|---|
วันแข่งขัน | วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน 2024 |
สนาม | แอนฟิลด์ |
ผลการแข่งขัน | ลิเวอร์พูล 3-1 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด |
ลิเวอร์พูล เกือบไม่รอด
หากดูแค่สกอร์แฟนบอลที่ไม่ได้รับชมเกมสด ๆ อาจจะคิดว่าเกมง่ายงานเบา แต่ต้องบอกว่าวันนี้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด บุกมาสู้ได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งประตูแรกที่เสียก็ไม่ได้มาจากการเข้าทำของ ลิเวอร์พูล แต่มาจากความผิดพลาดของผู้รักษาประตู ที่เปิดเกมไปติดบล็อคของ นูนเญซ เข้าไป ซึ่งหลังจากนั้น ทัพดาบคู่ ก็ยังเล่นเกมรับกันได้อย่างเหนี่ยวแน่น แถมยังมีทีเด็ดสวนกลับตูมเดียวหายตีเสมอได้สำเร็จในช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งประตูดังกล่าวทำให้แฟนบอล หงส์แดง นั่งกันแทบไม่ติด ก่อนที่ท้ายเกม อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ จะสวมบทประเอกยิงไกลสุดสวยคลายความกดดันให้ทีมได้ก่อนที่ กัคโป จะมาโขกย้ำชัยในช่วงทดเวลาในที่สุด
แมค อัลลิสเตอร์ ห้ามเจ็บห้ามป่วย
เกมนี้เป็นอีกเกมที่สุดท้าย อเล็กซิส แมค อัลลิสเตอร์ กองกลางฟอร์มร้อนแรงรับบทพระเอกช่วยทีมไว้ได้อย่างหวุดหวิดหลังจากช่วงแรกที่เงียบ ๆ ไป เพราะมี กราเวนเบิร์ช ลงสนามมา ทำให้ตอนแรกมิดฟิลด์ชาว อาร์เจนไตน์ ถูกจับถอยลงไปยืนต่ำแทนที่ เอ็นโดะ ที่วันนี้บาดเจ็บไม่พร้อมลงสนาม แต่หลังจาก คล็อปป์ ต้องการประตูในครึ่งหลังและแก้เกมด้วยการดันให้ แมค อัลลิสเตอร์ ยืนสูงขึ้น เขาก็แผลงฤทธิ์ทันทีกับบทบาทการบัญชาเกมตรงกลายคอยเชื่อมเกมแดนบนพร้อมกับทีเด็ดลูดยิงไกลที่ไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนรับลูกนั้นได้แน่นอน ซึ่งประตูนี้มีค่าอย่างมากกับการส่งให้ ลิเวอร์พูล กลับมาอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ลีกต่อไปในฐานะ "จ่าฝูง"
ที่เด็ดการแก้เกมของ คล็อปป์
นี่ยังคงเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ หงส์แดง ในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เพราะปกติพวกเขามักจะตกเป็นรองคู่แข่งก่อน แต่ก็สามารถกลับมาได้อยู๋บ่อย ๆ ซึ่งก็ต้องยกเครติดให้กับการแก้เกมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ที่ทำได้อย่างแม่นยำและตรงจุด โดยวันนี้หลังจากโดนตีเสมอ คล็อปป์ เองก็กล้าที่จะถอด ซาลาห์ และ กราเวนเบิร์ช ที่เล่นไม่ออกทันทีพร้อมส่ง เอลเลียตต์ และ โรเบิร์ตสัน ลงมา ซึ่งการมี ร็อบโบ้ นั่นทำให้เกมทางกราบซ้ายดูมีมิติมากกว่าการใช้ โกเมซ ชัดเจน แถมเมื่อ กราเวนเบิร์ช ออกไป โกเมซ หุบเข้ากลางทำให้ แมค อัลลิสเตอร์ มีอิสระในการเล่นเกมรุกมากขึ้น จากนั้นไม่นานก็ถอด โซบอสซไล และ โกเมซ ออกในช่วง 20 นาทีสุดท้ายละส่ง โจนส์ กับ กัคโป ลงมาอัดเกมรุกเต็มสูบ จนเป็นที่มาของ 2 ประตูในช่วงท้ายเกม และคว้า 3 คะแนนในบ้านไปได้อย่างงดงาม
แดงเดือด กับสภาพจิตใจที่เกินร้อย
การคว้าชัยในเกมนี้แม้หลาย ๆ คนจะคาดการณ์เอาไว้แล้ว แต่เมื่อเกมมันมีช่วงที่อึดอัดแต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดมาได้มันทำให้ พลพรรคหงส์แดง มีพลังใจฮึกเฮิมมากขึ้นอย่างชัดเจน ตรงกันข้ามกับคู่แข่งอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่วันนี้ก็เจอเกมหนัก เล่นไปร้อยกว่านาทีแถมมีดราม่าตลอดทั้งเกมชนิดที่โดน เชลซี นำก่อน 2-0 แต่ยิงแซงจนนำ 2-3 กระทั่งทดเจ็บนาทีบาปโดน สิงห์บลู ยิงสองลูกรวดแพ้ไป 4-3 ก็ไม่รู้ว่าเมื่อ ปีศาจแดง ผลงานย่ำแย่มาสองนัดติดแบบนี้ทีมของ เอริค เทน ฮาก จะยังกลับมาคึกสู้สุดใจได้เหมือนนัดก่อนที่พบกันหรือไม่ ?