ลิเวอร์พูล 3-2 น็อตติงแฮม ฟอเรสต์: เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง แซงหืดจับคืนวันเสาร์

เกมเดือดครึ่งหลัง

เกมนี้เริ่มมาเป็น ลิเวอร์พูล ที่พับสนามบุกเข้าใส่อยู่ฝ่ายเดียว โดยทีมเยือนถอยลงไปจอดรถบัสขวางประตูเอาไว้ แม้เจ้าบ้านจะสร้างโอกาสได้หลายครั้งแต่ก็หาจังหวะยิงเหน่ง ๆ ได้น้อยรวมถึงหลายครั้งก็ไปติดเซฟของ เคย์เลอร์ นาบาส กระทั่งเริ่มครึ่งเวลาหลัง ลิเวอร์พูล ออกนำเร็วทำให้เกมเปิดอย่างเป็นทางการ เพราะ ฟอเรสต์ ไม่มีทางเลือกต้องบุกเข้าใส่ซึ่งก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมชนิดที่ไล่ยิงกันประตูต่อประตูแลกกันอย่างเมามัน ซึ่งสุดท้ายเป็น หงส์แดง ที่เฉียบคมกว่าเอาชนะไปได้ในที่สุด

โจต้า ความหวังใหม่หน้าเก่า หงส์แดง

เกมนี้พระเอกของ ลิเวอร์พูล ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนผู้ทำ 2 ประตูในเกมก่อนอย่าง ดิโอโก้ โจต้า คนนี้นั่นเอง ซึ่งวันนี้เจ้าตัวก็บวกเพิ่มอีก 2 ประตูพร้อมกับหาโอกาสจบเหน่ง ๆ ได้อีกหลายครั้ง เห็นได้ชัดถึงความมั่นใจที่กลับมาเต็มเปี่ยมนับตั้งแต่หายเจ็บกลับมา ก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งในตัวความหวังแดนหน้าแบ่งเบาภาระของ โม ซาลาห์ สำหรับหน้าทีเดอะแบกในเกมรุกของ หงส์แดง ในช่วงเวลาอันยากลำบากนี้

ฟอเรสต์ ในร่าง สโต๊ค

หนึ่งในสิ่งที่หน้าสนใจในเกมนี้คือแนวทางการเข้าทำของ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่ไม่ได้มีเกมรุกที่ดุดันหรือกองหน้าที่รวดเร็ว แต่เป็นการทุ่มไกลที่หวังผลได้ตลอดชนิดที่กองหลัง ลิเวอร์พูล ดูลนลานรับมือไม่ถูกเลยเมื่อโดน มุสซา เนียคาเต้ ระดมขว้างบอลเข้าใส่กรอบเขตโทษ ซึ่งตัวเก็บบอลคือ ไทโว อโวนิยี เด็กเก่า หงส์แดง ที่มีจุดเด่นเรื่องความแข็งแกร่ง และเป็นที่มาของทั้งสองประตูที่ ฟอเรสต์ ทำได้ในเกมนี้ จนทำให้หลาย ๆ คนที่ได้รับชมเกมอาจจะนึกถึง สโต๊ค ซิตี้ ยุคที่มี รอลี ดีแลป เป็นตัวทีเด็ดในการทุ่มไกลช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

โอกาสจบท็อป 4 ยังมีก็ต่อเมื่อ...

3 คะแนนแบบหืดจับในเกมนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล มี 50 คะแนนจาก 31 เกมรั้งอันดับ 7 ของตารางมีแต้มห่างจาก นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 4 อยู่ 6 คะแนนแต่ สาลิกาดง แข่งน้อยกว่า 1 เกม ซึ่งประเด็นมันอยู่ที่ทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว มีโปรแกรมพบกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่ง สเปอร์ส ปัจจุบันรั้งอันดับ 5 มี 53 คะแนน โดยหากจะลุ้นให้ หงส์แดง ยังมีโอกาสไป แชมเปี้ยนส์ลีก คงต้องภาวนาอย่างให้ นิวคาสเซิล ไม่ชนะเพื่อให้ระยะห่างยังคงอยู่ที่ 6-7 คะแนนเอาไว้และไปลุ้นให้ สาลิกา สะดุดเองในเกมที่เหลือ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอย่าลืมว่า ลิเวอร์พูล เองจำเป็นต้องชนะทั้ง 7 เกมที่เหลือในฤดูกาลให้ได้เช่นกัน