ลิเวอร์พูล 4-0 เลสเตอร์ ซิตี้ : หงส์แดง ดุจัดเรียงหน้าถล่มนัดปรีซีซั่น, ตัดเกรด และ ประเด็นหลังเกม

ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มดุด้วยการถล่ม เลสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ในเกมอุ่นเครื่องที่สิงคโปร์ ดาร์วิน นูนเญซ ร้อนแรงต่อเนื่องเมื่อเป็นคนยิงขึ้นนำให้ทีม ก่อนที่ บ็อบบี้ คล้าร์ก, ดิโอโก้ โจต้า และ เบน โด๊ก บวกสกอร์เพิ่มคนละลูก

เกมต่อไปลูกทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค จากนั้นดวล ดาร์มสตัดท์ ก่อนไปลุยศึกพรีเมียร์ลีก

คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล

11 ตัวจริง (4-3-3): ควีวิน เคลเลเฮอร์ (7/10); เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (8/10), อิบราฮิม โคนาเต้ (5/10), เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (7/10), แอนดี้ โรบิร์ตสัน (6/10); อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (8/10), เคอร์ติส โจนส์ (7/10), บ็อบบี้ คลาร์ก (6/10); โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (8/10), ดาร์วิน นูนเญซ (7/10), ดิโอโก้ โจต้า (7/10)

สำรองที่ใช้: อลิสซอน เบ็คเกอร์ (5/10), โจ โกเมซ (5/10), โจเอล มาติป (7/10), จาเรลล์ ควอนซาห์ (7/10), คอสตาส ซิมิคาส (5/10), เจมส์ แม็คคอนเนลล์ (5/10), ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (6/10), โดมินิค โซบอสซ์ไล (7/10),
เบน โด๊ก (8/10), โคดี้ กัคโป (7/10), หลุยส์ ดิอาซ (7/10), คาลั่ม สแกนลอน (N/A), เมลกามู เฟราเอนดอร์ฟ (N/A)

ประเด็นหลังเกม

นูนเญซ ยิงประตูได้อีกครั้ง

หลังจากทำ 2 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 4-4 ในแมตช์ที่แล้ว ดาร์วิน นูนเญซ ฟอร์มฮ็อตต่อเนื่องด้วยการใส่สกอร์นัดเจอ เลสเตอร์ อีกครั้ง 

หัวหอกชาวอุรุกวัยเจองานยากในครึ่งชั่วโมงแรก เมื่อหาโอกาสแบบชัด ๆ แทบไม่ได้เลย แต่จากนั้นด้วยความจมูกไวและการเคลื่อนที่ที่ยอดเยี่ยมนำไปสู่การซ้ำลูกยิงของ ดิโอโก้ โจต้า เข้าไปง่าย ๆ 

ฟอร์มช่วงพรีซีซั่นของอดีตกองหน้าเบนฟิก้าเริ่มแสดงให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าทำไม ลิเวอร์พูล จึงยอมจ่ายสูงถึง 85 ล้านปอนด์คว้าลายเซ็นเขามาครอบครองเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว 

ไร้สกอร์จาก ซาลาห์ แต่เด่นสุดในทีม

4 ประตูในเกมนี้ไม่มีชื่อของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในสกอร์บอร์ด แต่แนวรุกชาวอียิปต์คือหนึ่งในคีย์แมนของทีมเลย เขาเป็นคนแอสซิสต์ให้ บ็อบบี้ คล้าร์ก ยิงประตูที่สองของเกม และยังครอสให้ ดิโอโก้ โจต้า โหม่งอีกด้วย 

ตลอดอุ่นเครื่อง 3 เกมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ยิงถล่มทลาย 12 ประตู แต่ ซาลาห์ กลับยิงได้เพียงลูกเดียวเท่านั้น กระนั้นหากดูจากรายละเอียดของแต่ละเกมแล้ว ผลงานของดาวเตะวัย 31 ปี ยังคงประทับใจเช่นเดิม

เหล่าดาวรุ่งฝากผลงานที่น่าประทับใจ

พรีซีซั่นมอบโอกาสอีกครั้งให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ดูฟอร์มของเหล่าแข้งดาวรุ่ง เกมนี้เฮดโค้ชชาวเยอรมันส่ง คล้าร์ก กองกลางวัย 19 ปี ลงเป็นตัวจริงร่วมกับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ เคอร์ติส โจนส์

คล้าร์ก ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาตอบแทนความไว้วางใจจาก คล็อปป์ ด้วยการยิงประตูที่สองให้กับ ลิเวอร์พูล จากการจบสกอร์ที่เฉียบคม จากจังหวะจ่ายของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 

เขาไม่ใช่ดาวรุ่งคนเดียวที่ฉายแววเด่นในเกมนี้ เบน โด๊ก เป็นอีกคนที่ยิงได้เช่นกัน

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กลับมายืนแบ็คขวาอีกครั้ง

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ออกสตาร์ทตัวจริงเกมปรีซีซั่น 2 นัดแรกในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แต่เขากลับไปยืนแบ็คขวาตามปกติในแมตช์เจอ เลสเตอร์ โดยยืนแผงแบ็คโฟร์ร่วมกับ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, อิบราฮิมา โคนาเต้ และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค 

แม้ตามผังเขาเป็นแบ็คขวาแต่ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถูกมอบหมายบทบาทเป็นอินเวิร์ตฟูลแบ็ค ซึ่งเราได้เห็นเขาหุบเข้าไปยืนกองกลางตลอด จนเกือบทำประตูได้ในช่วงเวลา 45 นาทีที่อยู่ในสนาม

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แสดงคลาสที่ยอดเยี่ยมในเกมรุก แต่ก็เป็นอีกครั้งที่เกมรับเป็นจุดอ่อน เขาเกือบโดน เคซี่ย์ แม็คอาเทียร์ ลงโทษอยู่สองสามครั้ง ซึ่งหนึ่งในนั้นทำให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ เกือบยิงตีไข่แตกให้ เลสเตอร์ ได้ด้วย

ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีม

เยอร์เก้น คล็อปป์ เปิดเผยว่าเขาได้ตัดสินใจเลือกกัปตันทีมคนต่อไปของ ลิเวอร์พูล แล้วในงานแถลงข่าวก่อนเกม และบอกใบ้สำคัญเกี่ยวกับการตัดสินใจด้วยการมอบหมายให้ ฟาน ไดจ์ค เป็นกัปตันทีมในเกมกับ เลสเตอร์ 

กองหลังชาวดัตช์เป็นตัวเต็งสำหรับบทบาทนี้ โดยทำหน้าที่ดังกล่าวหลายต่อหลายครั้งเมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไม่อยู่ในสนาม

แต่เนื่องจากตอนนี้ เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ ย้ายทีมแล้ว เป็นไปได้สูงที่ ฟาน ไดจ์ค จะได้รับแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมคนใหม่ ในขณะที่ ซาลาห์, อลิสซอน และ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็อยู่ในข่ายเช่นกัน