กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 4-4 ลิเวอร์พูล: หงส์แดง เกือบแย่ไล่ตีเจ๊าเกมปรีซีซั่น, ตัดเกรด และ ประเด็นหลังเกม
- ลิเวอร์พูล ยิงได้นัดละ 4 ประตู ตลอด 2 เกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่น
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงประตูตีเสมอช่วยท้ายเกมให้ หงส์แดง รอดพ้นจากความพ่ายแพ้
- ดาร์วิน นูนเญซ เหมา 2 ประตู และ 1 แอสซิสต์ ในเกมนี้
โดย Asree Samuyae
รายการ | อุ่นเครื่อง |
---|---|
วันแข่งขัน | วันจันทร์ ที่ 24 กรกฎาคม 2023 |
ผลการแข่งขัน | กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 4-4 ลิเวอร์พูล |
สนาม | เทคโนโลยี อารีน่า, เยอรมนี |
ลิเวอร์พูล เกมรับอ่อนปวกเปียก แม้ว่าเป็นฝ่ายขึ้นนำ 3-1 และทำท่าว่าน่าจะเก็บชัยชนะได้สบาย แต่สุดท้ายกลับโดนทีมรองบ่อนอย่าง กรอยเธอร์ เฟือร์ธ รัวยิงเกือบชนะ ต้องพึ่ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงในนาทีที่ 89 ตามตีเสมอ 4-4 ในเกมอุ่นเครี่องปรีซีซั่นแบบปิดสนาม ที่เทคโนโลยี อารีน่า ประเทศเยอรมนี
สำหรับเกมอุ่นเครื่องนัดต่อไป ทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สิงคโปร์ วันที่ 30 กรกฎาคมนี้
คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล
11 ตัวจริง (4-3-3): อลิสซอน เบ็คเกอร์ (6/10); คอเนอร์ แบรดลี่ย์ (7/10), อิบราฮิม โคนาเต้ (6/10), เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (6/10), แอนดี้ โรบิร์ตสัน (6/10); อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (7/10), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (6/10), โคดี้ กัคโป (8/10); เบน โด๊ค (8/10), ดิโอโก้ โจต้า (7.5/10), หลุยส์ ดิอาซ (8/10)
สำรองที่ใช้: อาเดรียน (5/10), โจ โกเมซ (4/10), โจเอล มาติป (2/10), จาเรลล์ ควอนซาห์ (5/10), คอสตาส ซิมิคาส (4/10), เจมส์ แม็คคอนเนลล์ (5/10), ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (7/10), เคอร์ติส โตนส์ (5/10),
ลูวิส คูมาส (6/10), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (7/10), ดาร์วิน นูนเญซ (8/10), มาร์เซโล่ ปิตาลูก้า (5/10), เมลกามู เฟราเอนดอร์ฟ (5/10), บ็อบบี้ คลาร์ก (6/10), คาลั่ม สแกนลอน (6/10)
ประเด็นหลังเกม
นูนเญซ กลับมาเฉียบคมอีกครั้ง
หลังจากทำประตูได้ในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นนัดแรก นูนเญซ ก็ยิงได้ต่อเนื่องเมื่อเขาจัดการเหมา 2 ประตูในแมตช์นี้ หลังจากถูกส่งลงมาในช่วงเริ่มครึ่งหลัง แถมยังทำ 1 แอสซิสต์อีกด้วย
ประตูแรกของเขาได้มาจากการจ่ายบอลตัดหลังแนวรับของ ซาลาห์ ก่อนที่ นูนเญซ แตะหลบผู้รักษาประตูคู่แข่งแล้วยิงเข้าไป จากนั้นหัวหอกอุรุกวัยใช้เวลาไม่นานมาเบิ้ลลูกที่สองด้วยการพักอกเอาบอลลงแล้วแตะหลบแนวรับคู่แข่งก่อนแปด้วยซ้ายเสียบมุมอย่างง่ายดาย
ดิอาซ กลับมาอยู่ในฟอร์มเก่งหลังหายเจ็บ
หลังจากพลาดลงสนามเป็นส่วนใหญ่เมื่อฤดูกาลที่แล้วเนื่องจากอาการบาดเจ็บ แฟนบอลลิเวอร์พูลหลายคนต่างหวังว่า ดิอาซ จะกลับมาฟิตอีกครั้ง และตอนนี้แนวรุกชาวโคลอมเบียดูเฉียบคมอีกครั้งในช่วงปรีซีซั่นจนถึงตอนนี้ และเป็นคนทำประตูแรกให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำในเกมนี้
ดิอาซ เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษ ก่อนเอี้ยวตัวแปไปที่เสาไกลเข้าไปอย่างเฉียบขาดตามถนัด ที่จริงแล้วอดีตปีกปอร์โต้อาจยิงเพิ่มอีกลูก แต่ก็ถูกผู้รักษาประตูกรอยเธอร์ปฏิเสธเอาไว้
เคลเลเฮอร์ ไม่มีชื่ออยู่ในทีม
ควิวีน เคลเลเฮอร์ ไม่มีชื่ออยู่ในทีมเกมนี้ โดยเป็น อลิสซอน, อาเดรียน และ มาร์เซโล่ ปิตาลูก้า แบ่งกันลงเฝ้าเสา
เคลเลเฮอร์ ตกเป็นข่าวย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยมีรายงานว่า เบรนท์ฟอร์ด และ วูล์ฟส์ ต่างให้ความสนใจ
อย่างไรก็ตามแม้ไม่มีชื่อในแมตช์นี้ ก็มีข่าวว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ แค่ต้องการหมุนเวียนและให้โอกาสผู้รักษาประตูคนอื่น ๆ บ้าง กระนั้นอนาคตของ เคลเลเฮอร์ ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม
แผงกองกลางที่แปลกตา
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้รับบทบาทเป็นกองกลางตัวโฮลดิ้งเช่นเดิม หลังจากโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในเกมชนะ คาร์ลสรูห์
เขาถูกจับประสานงานร่วมกับ โคดี้ กัคโป และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งดูเวิร์คเลยในช่วงครึ่งแรก อย่างไรก็ตามทั้งสามคนถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง โดยหลีกทางให้ เคอร์ติส โจนส์, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียต และ เจมส์ แม็คคอนเนลล์ ลงไปแทน
โซบอสซ์ไล เจ็บอดช่วยทีม
โดมินิค โซบอสซ์ไล ไม่มีชื่อในเกมนี้เนื่องจาก คล็อปป์ ต้องการป้องกันไว้ก่อน เพราะมีอาการข้อเท้าพลิกในระหว่างการฝึกซ้อม
แม้มีการยืนยันว่าเป็นอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่แน่นอนว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลคงกังวลถึงความฟิตของเพลย์เมคเกอร์เจ้าของค่าตัว 60 ล้านปอนด์ เมื่อเหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ก่อนศึกพรีเมียร์ลีกจะเริ่มแข่งขัน