แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เชลซี : ประเด็นหลังเกมพรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า เปิดรังแบ่งแต้ม สิงห์บลูส์ หืดจับ
- เชลซี ขัดแข้งการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ แมนเชสเตอร์ซิตี้ หลังบุกยันเสมอ 1-1
- ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงใส่ทีมเก่าในเกมที่ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีโอกาสยิงเพิ่มหากพวกเขาคมกว่านี้
- เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ฟอร์มตกและมีโอกาสโหม่งจ่อ ๆ แต่ข้ามคานเหลือเชื่อ
โดย Asree Samuyae
รายการ | พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24 |
---|---|
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 |
สนาม | เอติฮัด สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เชลซี |
เชลซี ขัดแข้งการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของ แมนเชสเตอร์ซิตี้ แม้ว่า โรดรี้ จะทำประตูตีเสมอในช่วงท้ายเกมในแมตช์ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ก็ตาม
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงใส่ทีมเก่าให้ทีมเยือนขึ้นนำในครึ่งแรก ที่จริงแล้วทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีโอกาสใส่สกอร์เพิ่มด้วยซ้ำหากว่า นิโคลัส แจ็คสัน คมกว่านี้ในจังหวะหลุดเดี่ยว
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดันหลุดฟอร์มแปลก ๆ โดยเฉพาะจังหวะโหม่งจ่อ ๆ ข้ามคานเหลือเชื่อทำเอา เควิน เดอ บรอยน์ ที่ครอสบอลอย่างแม่นยำถึงกับเซ็ง และต่อไปนี้ประเด็นที่เรามองเห็นในเกมนี้
การลุ้นแชมป์
ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล คงแฮปปี้แบบสุด ๆ กับการทำแต้มหล่นของ แมนฯ ซิตี้ เพราะมันหมายความว่าการลุ้นแชมป์ยังคงเปิดกว้าง
แม้ว่า แมนฯ ซิตี้ อาจเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ได้ในเกมตกค้างในเกมคืนวันอังคาร พวกเขาก็จะไม่ได้อยู่เหนือกว่า ลิเวอร์พูล รวมถึงมีแต้มนำหน้า อาร์เซนอล เพียงแต้มเดียวเท่านั้น
ที่สำคัญ "เรือใบสีฟ้า" ยังตามหลังคู่แข่งลุ้นแชมป์ของพวกเขาในด้านผลต่างประตูได้เสียอีกด้วย
ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีผลต่างประตูอยู่ที่ +31 ส่วน อาร์เซนอล รองจ่าฝูงสถิติดีสุดที่ +36 และ ลิเวอร์พูล จ่าฝูงตามมาที่ +35
ความมั่นใจที่เพิ่มขึ้น
ฟอร์มของ เชลซี ในเกมนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจเป็นอย่างมากก่อนเกมคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ พบกับ ลิเวอร์พูล ในสุดสัปดาห์หน้า
ทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะในเกมรุกช่วงครึ่งแรก ด้วยการโจมตีเกมรับที่ยืนสูงของ แมนฯ ซิตี้ ได้เป็นประจำ
ขณะเดียวกันแนวรับ "สิงห์บลูส์" เองก็แข็งแกร่งไม่แพ้กันในการช่วยกันต้านทานแนวรุกอันน่ากลัวของเจ้าบ้านได้ โดยเฉพาะ อักเซล ดิซาซี่ ที่ต้องบอกว่าเกมนี้องค์ลง
แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้มากถึง 71% และหาโอกาสยิง 32 ครั้ง แต่ไม่สามารถฝ่าแนวรับของ เชลซี เพื่อทำประตูที่สองของเกมได้เลย
ฝันร้ายของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยังคงเป็นดาวซัวโลของศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ โดยทำไป 16 ประตู แต่เขาคงไม่อยากจดจำสำหรับค่ำคืนที่เจอกับ เชลซี
สตาร์ดังทีมชาตินอร์เวย์เพิ่งเหมาสองประตูในเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 แต่เขากลับไม่สามารถเอาความเฉียบคมจากแมตช์ดังกล่าวได้เมื่อมาเจอ เชลซี แม้จะหาโอกาสยิงได้มาถึง 9 ครั้งก็ตาม
ดาวเตะวัย 23 ปี พลาดโอกาสสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังเมื่อเขาโหม่งลูกครอสอันแม่นยำของ เควิน เดอ บรอยน์ ข้ามคานอย่างน่าเหลือเชื่อ
บางทีมันอาจเป็นเอฟเฟ็กต์หลังจากอาการบาดเจ็บก็เป็นได้ แม้ยิงได้สองประตูในเกมที่แล้ว แต่เขาก็ต้องการจังหวะเพื่อกลับไปอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มเช่นกัน
การเยือนถิ่นเก่าของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
มันเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากสำหรับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แต่เขาจบสกอร์จากเกมโต้กลับได้อย่างยอดเยี่ยม และทำเอาเสียงเชียร์ของแฟนบอลเจ้าบ้านเงียบสงัดก่อนช่วงพักครึ่ง
ก่อนหน้านี้แนวรุกวัย 29 ปี พลาดโอกาสสำคัญในการเอาชนะ เอเดอร์ซอน จากสัมผัสแรกอันย่ำแย่ แต่เมื่อได้รับโอกาสอีกครั้งจากการจ่ายบอลของ นิโคลัส แจ็คสัน ดาวเตะทีมชาติอังกฤษก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดมืออีก
สเตอร์ลิ่ง หลอก ไคล์ วอล์คเกอร์ ฟูลแบ็คร่วมชาติได้แนบสนิท ก่อนเลือกยิงไปที่มุมล่างของเสาไกลได้อย่างเยือกเย็น และเป็นประตูที่สองของเขาในการเจอกับ แมนฯ ซิตี้ ฤดูกาลนี้ด้วย
ครั้งที่แล้ว สเตอร์ลิ่ง ปฏิเสธดีใจหลังยิงได้ แต่หนนี้เขามีฉลองประตูแบบเบา ๆ และการโดนโห่ตอนถูกเปลี่ยนตัวออกบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของเขากับแฟนบอล แมนฯ ซิตี้ เป็นอย่างดี
โรดรี้ ยิงกู้หน้าให้ แมนฯ ซิตี้ อีกแล้ว
โรดรี้ มักจะปรากฎตัวอยู่เสมอเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ต้องการเขาในเกมสำคัญ ๆ และนี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของทีม
เมื่อ เชลซี ตั้งรับลึกและ ฮาแลนด์ ไม่สามารถคลำเป้าเจอ ดาวเตะทีมชาติสเปนก็ก้าวขึ้นมายิงประตูสำคัญตีเสมอให้ทีมในช่วง 10 นาทีสุดท้าย
ลูกยิงที่โดนบล็อกของ วอล์คเกอร์ ไปเข้าทางปืนของ โรดรี้ กระแทกบอลแฉลบ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ผ่านมือ ยอร์เย เปโตรวิช เข้าไป
ตอนนี้ดาวเตะวัย 27 ปียิงไปแล้ว 6 ประตูในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ น้อยกว่าปี 2021-22 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เขายิงได้มากสุดเพียงประตูเดียวเท่านั้น