เก็บตกหลังเกม แมนซิตี้ พลิกเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-1 คว้าชัย 4 นัดติดต่อกัน : FEATURE

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกสถานการณ์จากตามหลังเร็ว กลับมาเฉือนเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ได้แบบหวุดหวิด 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โยอาน วิสซ่า ยิงประตูให้ เบรนท์ฟอร์ด ขึ้นนำตั้งแต่ 22 วินาทีแรก ซึ่งเป็นประตู แมนฯ ซิตี้ เสียเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ตาม เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เหมาสองประตูพลิกให้ แมนฯ ซิตี้ คว้าชัยได้สำเร็จ ทำให้รวมแล้วเขายิงไป 9 ประตูในฤดูกาลนี้ นำโด่งดาวซัลโว

สามประตูเกิดขึ้นในครึ่งแรกทั้งหมด แมตช์นี้แฟนบอล "เรือใบสีฟ้า" ได้ข่าวดีเมื่อ โรดรี้ กลับมาลงสนามเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ และด้วยเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่จะพบกับ อินเตอร์ มิลาน ในสัปดาห์นี้ นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่น่าพอใจที่สุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

และต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญที่เรามองเห็นในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม

ฮาแลนด์ สร้างสถิติใหม่พรีเมียร์ลีก

มีความเป็นไปได้ว่า ฮาแลนด์ จะไม่ได้ลงสนามในเกมนี้ เนื่องจากเขาต้องเสีย อีวาร์ เอ็กก์ยา คนสนิทของครอบครัวแบบไม่มีวันกลับ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยืนยันให้นักเตะตัดสินใจเองว่าจะเล่นหรือไม่

หัวหอกชาวนอร์เวย์มีสถิติที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งเมื่อยิงไป 7 ประตูจาก 3 เกม โดยเฉพาะซัดแฮตทริก 2 นัดติดต่อกัน

แล้ว 2 ประตูในเกมกับ เบรนท์ฟอร์ด ทำให้เขาซัดไปแล้ว 9 ประตู ทำลายสถิติของ เวย์น รูนี่ย์ ที่ยิง 8 ประตูจาก 4 นัดแรกในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ

รูนี่ย์ รักษาสถิติไร้พ่ายรวมเป็นเวลา 13 ปี หลังจากทำผลงานอันน่าทึ่งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2011-12 ก่อนโดน ฮาแลนด์ ทำลายลง

อีกเกมที่ แมนฯ ซิตี้ เครื่องร้อนช้า

เบรนท์ฟอร์ด บุกมาเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ด้วยความหวังว่าจะสร้างเซอร์ไพรส์เจ้าถิ่น แมนฯ ซิตี้ ได้ หลังเป็นทีมล่าสุดที่บุกมาเอาชนะที่นี่ด้วยสกอร์ 2-1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022

แล้วทีมของ โธมัส แฟร้งค์ ก็ขึ้นนำอย่างรวดเร็วจาก วิสซ่า ตั้งแต่วินาทีที่ 22 แล้วจากนั้นพวกเขาครองเกมเหนือกว่า และมีโอกาสที่จะหนีห่างสองประตูด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตามความเหนียวหนึบของ เอแดร์ซอน เป็นปัจจัยสำคัญ และการลงโทษไม่สำเร็จของ เบรนท์ฟอร์ด ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนฝั่งเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่คว้าโมเมนตัมกลับคืน

"เรือใบสีฟ้า" ยิงคืนสองลูกรวดจาก ฮาแลนด์ แล้วมีโอกาสยิงเพิ่มอีกหลายครั้งทั้งจาก ฮาแลนด์, แจ็ค กรีลิช, ซาวินโญ่ แต่ก็ไม่เฉียบขาดพอ กระนั้นก็ยึดสกอร์ 2-1 ไว้ได้จนจบ

เป็นอีกครั้งที่ แมนฯ ซิตี้ ตกเป็นรองก่อน เพราะพวกเขาโดน แซม ซโมดิกส์ ยิงให้ อิปสวิช ทาวน์ ขึ้นนำตั้งแต่ 7 นาทีแรก แต่เหมือนเป็นการกระตุกหนวดเสือ เพราะจากนั้นแชมป์เก่าก็มายิงคืน 4 ลูกรวดชนะ 4-1

โรดรี้ คัมแบ็ค

เสียงปรบมือดังกึกก้องเมื่อ โรดรี้ วิ่งวอร์มข้างสนามก่อนจบครึ่งแรก แล้วสุดท้ายแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เห็นมิดฟิลด์ที่เป็นตัวเต็งบัลลงดอร์ลงสัมผัสสนามเป็นครั้งแรกของฤดูกาลจนได้

โรดรี้ ถูกส่งลงเล่นตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังเพื่อควบคุมเกมแทนที่ มาเตโอ โควาซิช หลังแดนกลางของพวกเขาดูเป็นรองในช่วงต้นเกม

มีสถิติที่ทุกคนทราบกันดีว่า แมนฯ ซิตี้ มักจะแพ้ตลอดเมื่อไม่มี โรดรี้ อยู่ในสนาม แต่ 3 เกมแรกพวกเขาทดแทนได้ดีเลย โดยเฉพาะ โควาซิช แต่นัดนี้ก็มีสัญญาณที่ไม่ดีนักว่าพวกเขาอาจสัมผัสกับความพ่ายแพ้นัดแรกของซีซั่น

กระนั้นเมื่อ โรดรี้ ลงมา แดนกลางของ แมนฯ ซิตี้ ดูดีขึ้นทันตา และความรู้สึกที่ว่าพวกเขาจะปราชัยนั้นน้อยลงกว่าครึ่งแรกอย่างเห็นได้ชัด

5 โปรแกรมถัดไป

หลังจบเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ จะประเดิมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรูปแบบใหม่ ด้วยการเปิดบ้านรับการมาเยือนของ อินเตอร์ มิลาน

จากนั้นก็ต้องกรำศึกหนักต่อด้วยการรับมือ อาร์เซนอล ในเกมพรีเมียร์ลีก แล้วคั่นด้วยเกมคาราบาว คัพ รอบ 3 พบกับ วัตฟอร์ด

ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มีเกมลีกเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งอีกครั้ง แต่รอบนี้จะต้องเป็นฝ่ายเยือนบ้าง พบกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

ตามด้วยไปเยือน สโลวาน บราติสลาว่า ในแชมเปี้ยนส์ ลีก แมตช์ที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม แมนฯ ซิตี้ ได้ที่นี่