แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม เรือใบ รอดตาย ปืนใหญ่ ทำสามแต้มหลุดมือ

• แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่แพ้ใครในเกมเหย้า พรีเมียร์ลีก เป็นเกมที่ 33 ติดต่อกัน

• อาร์เซนอล ยังรอคอยชัยชนะในเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อไปนับจากปี 2015

Manchester City FC v Arsenal FC - Premier League
Manchester City FC v Arsenal FC - Premier League / Robbie Jay Barratt - AMA/GettyImages
facebooktwitterreddit

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รอดตายอย่างหวุดหวิดที่สุดในฤดูกาลนี้ เมื่อได้ประตูตีเสมอในเพลย์สุดท้ายของเกม ตีเสมอ 2-2 อาร์เซนอล ในเกมที่อาร์เซนอลเหลือเพียง 10 คนตั้งแต่ช่วงท้ายครึ่งแรก

รายการแข่งขัน : พรีเมียร์ลีก 2024-2025
วันแข่งขัน : วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2024
สนามแข่งขัน : เอติฮัต สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2 – 2 อาร์เซนอล



20 นาทีแรก กับเพรสซิ่งที่บ้าคลั่ง และประตูที่ 100 ของ “ฮาแลนด์”

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นเกมนี้ได้อย่างดุดัน กับสไตล์การเล่นที่ต้องบอกว่าเป็นต้นแบบการสร้างทีมของ มิเคล อาร์เตต้า ดังนั้นเกมนี้เราจึงได้เห็นการเล่นเกมรุกที่รวดเร็ว เน้นการครองบอลไว้กับตัว และเพรสซิ่งอย่างหนักตั้งแต่แดนบน ซึ่งพวกเขาทำได้ดีมาก ในขณะที่อาร์เซนอล ตั้งเกมไม่ได้เลยตลอด 20 นาทีแรก ทำได้เพียงแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าอย่างเดียวเท่านั้น ก่อนที่ เรือใบสีฟ้า จะได้ประตูนำในนาทีที่ 9 ของเกม ซึ่งก็มาจากการกดดันอย่างหนักจนทำให้แนวรับ ปืนใหญ่ เกิดความผิดพลาด และเป็น ฮาแลนด์ ที่ยิงประตูที่ 100 ของตนเองกับสโมสร จากการลงเล่นเพียง 105 เกมเท่านั้น กลายเป็นสถิติการทำร้อยประตูที่เร็วเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สมัยที่ลงเล่นกับ เรอัล มาดริด ในปี 2011

Erling Haaland
Manchester City FC v Arsenal FC - Premier League / Carl Recine/GettyImages

การฉวยโอกาสที่ได้ผล - กองกลางต่อบอลได้และลูกตั้งเตะทีเด็ดของปืนใหญ่

การกลับมาสู่เกมของ อาร์เซนอล ในนัดนี้คือการที่พวกเขาได้จังหวะเล่นเร็ว กลายเป็นจังหวะการเล่นที่ลงตัวกับการประเดิมประตูแรกของ คาลาฟิออรี่ กับเข้าไปอย่างงดงาม โดยหลังตีเสมอได้สำเร็จกองกลาง ปืนใหญ่ ทั้ง ปาเตย์ – ไรซ์ และ ทิมเบอร์ ซึ่งวันนี้รับบท Invert Full back สามารถที่จะเก็บบอลและเชื่อมเกมได้ จนนำมาซึ่งจังหวะสวนกลับและลูกตั้งเตะที่กลายเป็นประตูที่สองของเกมนี้สำหรับพวกเขา

ซึ่งประตูที่สองของ ปืนใหญ่ นั้นนับเป็นประตูที่สองของ กาเบรียล มากัญเยส ที่โหม่งประตูสองเกมติดต่อกัน จนเจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในเจ้าเวหาของวงการไปแล้ว ณ เวลานี้

Riccardo Calafiori
Manchester City FC v Arsenal FC - Premier League / Michael Regan/GettyImages

ใบเหลือ-แดง ของทรอตซาร์

ใบเหลืองที่สอง เลอันโดร ทรอตซาร์  กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ เมื่อเขาถูกระบุว่า “ถ่วงเวลา” จากการที่มีการทำฟาลว์ เบร์นาโด้ ซิลวา และมีจังหวะต่อเนื่องที่เตะบอลทิ้งไปข้างหน้า ทำให้โดนใบเหลืองที่สองเป้นใบแดงไล่ออกจากสนามไป ซึ่งนั่นทำให้รูปเกมในครึ่งหลังของ อาร์เซนอล ออกมากลายเป็นการเล่นเกมรับเต็มตัวเพื่อรักษาสกอร์ที่นำอยู่เอาไว้ให้ได้

Riccardo Calafiori, Gabriel, Gabriel Martinelli, William Saliba
Manchester City FC v Arsenal FC - Premier League / Michael Regan/GettyImages

การเดิมพัน “เล่นเพื่อแต้ม” ของ อาร์เซนอล

อาร์เซนอล ของ มิเคล อาร์เตต้า เลือกเดิมพันทุกอย่างไว้กับประตูเดียวที่นำอยู่ และเลือกเล่นเกมรับในระบบ 4-5-0 ไม่มีกองหน้าและใช้การยืนกองหลังถึง 5 คนในการต้านทานเกมรุกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ “วินัยเกมรับ” ของอาร์เซนอล สร้างความยากลำบากให้กับเจ้าบ้านได้เป็นอย่างมาก และจากโอกาสยิง 33 ครั้งตลอดเกม อาจมีเพียง 3 ครั้งเท่านั้นในครึ่งหลังที่ดูจะได้ลุ้นจริง ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นอกจากนั้นพวกเขาเจอกับเกมรับที่เหนียวแน่นของ อาร์เซนอล จัดการได้ทั้งหมดจนแทบหาช่องเจาะเข้าเขตโทษไม่ได้เลย

“ถ้าไม่ชนะก็ห้ามแพ้” คือเป้าหมายของ อาร์เซนอล ซึ่งพวกเขาก็เกือบจบด้วยชัยชนะ ถ้าวินาทีสุดท้ายของเกมพวกเขาไม่พลาดเสียประตูไปอย่างน่าเสียดาย ในเกมที่พวกเขาจบเกมด้วยสถิติการครองบอล 22 % และผ่านบอลเพียง 202 ครั้ง ขณะที่สร้างโอกาสยิงได้เพียง 5 ครั้ง ตลอดเกมนี้ แถมมีบางช่วงบางตอนพวกเขามีสถิติการครองบอลเพียง 9 % อีกด้วย