แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-3 เอซี มิลาน : เก็บตกหลังเกม เรือใบสีฟ้า ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็น
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายให้กับ เอซี มิลาน 3-2 และยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นระหว่างปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา
- เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงได้อีกแล้ว ขณะที่ เจมส์ แม็คอาตี้ ก็ทำประตูได้เช่นกัน
- แมตช์หน้า แมนซิตี้ จะอุ่นเครื่องเจอ บาร์เซโลน่า วันอังคารที่ 30 กรกฎาคมนี้
โดย Asree Samuyae
รายการ | อุ่นเครื่องสโมสร |
---|---|
วันแข่งขัน | วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567 |
สนาม | แยงกี้ สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-3 เอซี มิลาน |
ศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องสโมสร เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายให้กับ เอซี มิลาน 3-2 ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นระหว่างปรีซีซั่นที่สหรัฐอเมริกา
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงให้ แมนซิตี้ ขึ้นนำก่อน แต่ มิลาน ฮึดได้สองประตูจากการเหมาคนเดียวของ ลอเรนโซ่ โคลอมโบ จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ขึ้นนำของ "ปีศาจแดงดำ" 2-1
เริ่มครึ่งหลัง "เรือใบสีฟ้า" บุกหนักแล้วได้ลูกตีเสมอจาก เจมส์ แม็คอาตี้ แต่แล้ว มาร์โก นาสตี้ หัวหอกดาวรุ่งลงเป็นซูเปอร์ซับยิงให้ มิลาน เอาชนะไปได้ 3-2
แมตช์หน้า แมนซิตี้ จะไปเจอ บาร์เซโลน่า วันอังคารที่ 30 กรกฎาคมนี้ และต่อไปนี้คือประเด็นที่เรามองเห็นจากเกมที่ แยงกี้ สเตเดี้ยม
ฮาแลนด์ พร้อมแล้วสำหรับซีซั่นใหม่
ด้วยการที่ นอร์เวย์ ไม่ได้ไปเล่นยูโร 2024 ทำให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เหมือนได้พักผ่อนเต็มที่ หลังจากรำศึกหนักกับสโมสรตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา
เมื่อปรีซีซั่นเริ่มต้นขึ้น ฮาแลนด์ แทบไม่ได้แสดงความบกพร่องให้เห็น ความกระหายของเขายังคงเหมือนกัน ร่างกายที่ฟิตพร้อม เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาพร้อมสำหรับฤดูกาลใหม่มากขนาดไหน
แม้ว่าพวกนักเตะหลัก ๆ ที่คอยป้อนให้เขายิงได้บ่อย ๆ อย่าง เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น รวมถึง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยังไม่อยู่ในทีม แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับ ฮาแลนด์ เลย เพราะดาวเตะวัย 24 ปี ทำประตูได้ตลอด 2 นัดที่ผ่านมา
บ็อบบ์ สมควรได้รับบทบาทมากขึ้น
ออสการ์ บ็อบบ์ เฉิดฉายสุด ๆ ในปรีซีซั่นหนนี้ การเล่นของเขาทำให้แฟนบอล แมนซิตี้ นึกถึง ฟิล โฟเด้น เพราะด้วยตำแหน่งและวิธีการเล่นของเขามีความคล้ายคลึงแบบสุด ๆ
บ็อบบ์ โดดเด่นทั้งการสร้างสรรค์โอกาส, การประสานงานร่วมกับเพื่อน ๆ, การลากเลี้อย รวมถึงหาช่องยิงเองได้ด้วย มันคือที่มาของการทำ 1 แอสซิสต์
ที่จริง บ็อบบ์ น่าจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูด้วยซ้ำหากคมกว่านี้ หลังมีจังหวะการทำชิ่งกับ แปร์โรเน่ แล้วได้หลุดไปยิงแต่ไม่ดีเอง บอลหลุดออกไปแบบเหลือเชื่อ
ตลอด 2 นัดที่ผ่านมา บ็อบบ์ แสดงให้เห็นว่าเขาดีเกินว่าจะถูกส่งลงสนามแค่ช่วงท้ายเกมเท่านั้น เพราะงั้นซีซั่นใหม่นี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องคิดหนักถึงแผนการใช้งานแข้งวัย 21 ปี
ฟิลลิปส์ ตอกย้ำอีกครั้งว่าควรโดนปล่อย
หลังจากโชว์ฟอร์มน่าผิดหวังในเกมที่แพ้ กลาสโกว์ เซลติก ทำให้ คาลวิน ฟิลลิปส์ โดนดร็อปเป็นตัวสำรองเพื่อหลีกทางให้คู่หูแดนกลางอนาคตไกลอย่าง มักซิโม่ แปร์โรเน่ และ นิโก้ โอไรลี่ย์ ประสานงานแทน
อย่างไรก็ตาม ฟิลลิปส์ ยังได้รับโอกาสลงมาเป็นตัวสำรองช่วงครึ่งหลัง เพื่อช่วยให้แดนกลางแน่นขึ้น แต่เขาแทบไม่ได้ช่วยให้เป็นแบบนั้นเลย มิหนำซ้ำเกือบมี่ส่วนให้ทีมเสียประตูอีกด้วย
ฟิลลิปส์ ทำเรื่องง่ายให้เป็นยากเพราะม้วนไปมาหน้าเขตโทษตัวเองจนเสียบอล ยังดีที่ มาร์โก นาสตี้ ยิงไม่เข้า แต่จังหวะแบบนี้ไม่ใช่ครั้งเดียวที่ ฟิลลิปส์ ทะเล่อทะล่าให้เห็น บางที กวาร์ดิโอล่า คงมองเห็นพอแล้วว่าเขาคงเข็นอดีตกองกลาง ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เคยเนื้อหอมสุด ๆ ไม่ขึ้นแล้ว
เอแดร์ซอน กับบทบาทกัปตันทีม
หลังจากตกเป็นข่าวอย่างหนักว่าจะย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าเขาต้องการรั้ง เอแดร์ซอน กับทีมเอาไว้ เพราะมองว่าคุณภาพของนายด่านรายนี้ใช่ว่าจะทดแทนได้ง่าย ๆ
ว่าแล้ว กวาร์ดิโอล่า จึงมอบความไว้วางใจให้ เอแดร์ซอน หวนเฝ้าเสาเป็นตัวจริง และยังสวมปลอกแขนกัปตันทีมอีกด้วย แม้ว่ามันเป็นเรื่องสมเหตุสมผลเนื่องจากเป็นนักเตะที่อาวุโสสุดใน 11 ตัวจริงก็ตาม
อย่างไรก็ตามมันคือการแสดงออกว่า กวาร์ดิโอล่า ยังอยากรั้ง เอแดร์ซอน มากแค่ไหน เพราะงั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวแล้วว่าจะเอายังไงดีกับอนาคต ท่ามกลางข้อเสนอมหาศาลจากซาอุดิอาระเบียรออยู่ข้างหน้า