แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เอฟซี โคเปนเฮเก้น : ประเด็นหลังเกมแชมเปี้ยนส์ลีก เรือใบสีฟ้า ฉลุยเข้ารอบ 8 ทีม

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน หลังเปิดบ้านชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น 3-1
  • มานูเอล อคานจี, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงคนละประตูช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 6-2
  • ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าชัยก่อนจะเตรียมตัวเจอ ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้
Manchester City v F.C. Copenhagen: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24
Manchester City v F.C. Copenhagen: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2023/24 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง

วันแข่งขัน

วันพุธที่ 6 มีนาคม 2567

สนาม

เอติฮัด สเตเดี้ยม

ผลการแข่งขัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เอฟซี โคเปนเฮเก้น


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน หลังจากเปิดบ้านเอาชนะ เอฟซี โคเปนเฮเก้น 3-1 ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อคืนที่ผ่านมา

มานูเอล อคานจี, ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงคนละประตูช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" ผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยสกอร์รวม 6-2

ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าชัยก่อนจะเตรียมตัวเจอ ลิเวอร์พูล ในศึกพรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้


โรเตชั่นแต่ยังทรงพลัง

FBL-EUR-C1-MAN CITY-COPENHAGEN
FBL-EUR-C1-MAN CITY-COPENHAGEN / OLI SCARFF/GettyImages

ด้วยชัยชนะด้วยสกอร์ 3-1 ในเลกแรก ทำให้ แมนฯ ซิตี้ กุมความได้เปรียบ และนั่นทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนแปลงขุมแทบค่อนทีมจากชุดที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เกมนี้ กวาร์ดิโอล่า ให้โอกาส ริโก้ ลูอิส, ออสการ์ บ็อบบ์ และ มาเธอุส นูเนส กลับมาเป็นตัวจริง โดยที่ตัวหลักอย่าง จอห์น สโตนส์, เควิน เดอ บรอยน์ รวมถึง ฟิล โฟเด้น เป็นเพียงตัวสำรอง

แม้เปลี่ยนแปลงหลายตำแหน่งแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เกมของพวกเขาด้อยลงเลย มิหนำซ้ำการมีแกนหลักอย่าง โรดรี้ และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มีส่วนอย่างมากต่อสมดุลของทีม

ประตูขึ้นนำน่าจะช่วยปลดล็อกเร็วตั้งแต่ 5 นาทีแรกทำให้ "เรือใบสีฟ้า" คลายความกดดัน และพวกเขาปิดเกมได้ตั้งแต่ครึ่งแรกด้วยซ้ำ


บ็อบบ์ คือหนึ่งในเหตุผลที่ เป๊ป ยอมปล่อย พาลเมอร์

Oscar Bobb, William Clem
Manchester City v F.C. Copenhagen: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Shaun Botterill/GettyImages

ออสการ์ บ็อบบ์ คว้าโอกาสได้แทบทุกครั้งเมื่อถูกส่งลงสนาม และนัดนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ส่งดาวเตะชาวนอร์เวย์ลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 อยู่ด้านหลัง ฮาแลนด์

แข้งวัย 20 ปี โชว์ฟอร์มน่าประทับใจโดยใช้ทักษะการเลี้ยงบอลซึ่งเป็นจุดเด่นของตัวเองให้เกิดประโยชน์ น่าเสียดายที่มันไม่มีประตูหรือแอสซิสต์แม้ บ็อบบ์ อยู่ในสนามจนครบ 90 นาทีก็ตาม

มันแสดงให้เห็นว่า บ็อบบ์ สมควรได้รับโอกาสลงสนามมากกว่านี้ ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ กำลังเข้าสู่ช่วงโปรแกรมการแข่งขันที่วุ่นวายระหว่างตอนนี้จนถึงมิถุนายน

การที่ บ็อบบ์ เซ็นสัญญาฉบับใหม่ 5 ปีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันบ่งบอกได้ว่าเขาถูกมองอย่างไรต่อแผนการระยะยาวของสโมสร


นูเนส นิ้วหักสยอง

Matheus Nunes
Manchester City v F.C. Copenhagen: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages

มาเธอุส นูเนส เป็นอีกคนที่ได้รับประโยชน์จากการโรเตชั่นเมื่อออกสตาร์ทตัวจริงในบทบาทริมเส้นฝั่งขวา และเขาก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ

อย่างไรก็ตามมิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสกลับอยู่ในสนามจนถึงนาทีที่ 74 ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากนิ้วหักจากการลื่นล้มแล้วลงพื้นผิดท่า

ภาพที่ออกมาสยองไม่น้อย และต้องมาลุ้นกันว่าเขาจะพร้อมเป็นตัวเลือกอย่างน้อยในฐานะตัวสำรองในเกมเยือน ลิเวอร์พูล สุดสัปดาห์นี้ เพราะ เป๊ป คงอยากได้ขุมกำลังที่เต็มสูบที่สุด

แถมเกมนี้เขายังไร้ชื่อ เฌเรมี่ โดกู อีกด้วย โดยเทรนเนอร์ชาวสแปนิชเปิดเผยว่าอดีตแนวรุกแรนส์เจ็บกล้ามเนื้อ


แมนฯ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน

Erling Haaland
Manchester City v F.C. Copenhagen: Round of 16 Second Leg - UEFA Champions League 2023/24 / Copa/GettyImages

หลังจากเอาชนะ โคเปนเฮเก้น ได้สำเร็จ ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ทำสถิติผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นปีที่ 7 ติดต่อกันแล้ว

พวกเขายังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของรายการที่ยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูในเกมเหย้าติดต่อกัน 9 นัด ซึ่งเริ่มต้นด้วยการถล่ม โคเปนเฮเก้น นี่แหละด้วยสกอร์ 5-0 ในเดือนตุลาคม 2022

นอกจากนี้ "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นนำ 2-0 หลังจากผ่านไปเพียง 9 นาทีในนัดนี้ ซึ่งเป็นการนำสองประตูเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในแชมเปี้ยนส์ลีก และเป็นทีมอังกฤษที่ทำได้เร็วที่สุดนับตั้งแต่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำไว้ตอนเจอ บาเยิร์น มิวนิค ในเดือนเมษายนปี 2010 (เพียง 7 นาที)