แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 เลสเตอร์ ซิตี้ : เก็บตกประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า คว้าชัยไล่จี้จ่าฝูง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปิดเกมได้ตั้งแต่ 15 นาทีแรก

เลสเตอร์ ซิตี้ ตกเป็นรองตั้งแต่ก่อนเกมแล้ว ไม่ว่าจะด้วยอันดับในตารางคะแนน รวมถึงการได้ ดีน สมิธ เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ และ แมนฯ ซิตี้ ก็รับน้องกุนซือรายนี้ด้วยผลงานที่ไร้เทียมทานในช่วง 15 นาทีแรก

จอห์น สโตนส์ วอลเลย์ด้วยสวยสุดสวยให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำเร็วหลังจากผ่านไปเพียง 5 นาที จากนั้น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ มาบวกประตูที่สองจากจุดโทษในนาทีที่ 13

ในช่วงเวลานี้ แมนฯ ซิตี้ ครองบอลได้เกือบ 90% และแทบไม่ปล่อยให้ เลสเตอร์ ได้สัมผัสบอลเลย

ผู้เล่นคนสำคัญหลายคนของ แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มกำลังเข้าฝัก

ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ คว้าชัยได้อย่างต่อเนื่อง มันส่งผลดีในแง่ความสมดุลและสภาพจิตใจในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งแสดงให้เห็นตั้งแต่หลังพักเบรคทีมชาติในเดือนมีนาคมแล้ว

ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยิงได้ 24 ประตูจาก 5 เกมหลังสุด ซึ่งรวมถึงการถล่ม บาเยิร์น มิวนิค หนึ่งในทีมเต็งของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยสกอร์ 3-0 อีกด้วย

ผลงานดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณเตือนให้กับเหล่าสโมสรในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว รวมถึง อาร์เซนอล ที่ตอนนี้คะแนนห่างกันเพียง 3 แต้มเท่านั้น และทั้งสองทีมมีโปรแกรมจะต้องเจอกันด้วย

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังคงสนุกกับการโรเตชั่นอยู่เสมอ

อย่างที่เราได้เห็นในช่วงหลัง กวาร์ดิโอล่า มักจะโรเตชั่นในทุก ๆ เกม แต่การตัดสินใจของเขาแทบไม่ได้ส่งผลแย่ต่อผลงานทีมเลย เขาต้องอยากให้ผู้เล่นทุกคนในทีมได้รับโอกาสลงเล่นมากพอและพิสูจน์ตัวเอง

ฮาแลนด์ มีลุ้นทำแฮตทริกเมื่อจบครึ่งแรก แต่ กวาร์ดิโอล่า ก็ยังเปลี่ยนตัวหัวหอกชาวนอร์เวย์ออกในช่วงพักครึ่งเพื่อให้โอกาส ฮูเลียน อัลวาเรซ บ้าง

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ทาบสถิติของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยิงต่อฤดูกาลเท่ากัน

นี่เป็นฤดูกาลแรกของ ฮาแลนด์ ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้น แต่กองหน้ารายนี้สามารถทาบสถิติของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่เคยทำไว้ในปี 2017-18 ด้วยจำนวน 32 ประตู จากการยิงในพรีเมียร์ลีกต่อฤดูกาล

ตอนนี้ยังเหลือเกมให้เล่นอีก 7 นัด แน่นอนว่า ฮาแลนด์ มีโอกาสสูงที่จะทำลายสถิติดังกล่าว