แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ฟลูมิเนนเซ่ : ประเด็นหลังเกมชิงแชมป์สโมสรโลก เรือใบสีฟ้า ซิวแชมป์ที่ 5 ในรอบปี
- โรดรี้ โดนเสียบหนักจนถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง
- ไคล์ วอล์คเกอร์ หวิดวางมวยกับ เฟลิเป้ เมโล่ หลังจบเกม
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรแรกจากอังกฤษที่คว้า 5 แชมป์ในรอบปี
โดย Asree Samuyae
รายการ | ชิงแชมป์สโมสรโลก รอบชิงชนะเลิศ |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2566 |
สนาม | คิง อับดุลลาห์ สปอร์ต ซิตี้ |
ผลการแข่งขัน | แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-0 ฟลูมิเนนเซ่ |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เถลิงแชมป์สโมสรโลกได้สำเร็จหลังจากถล่มเอาชนะ ฟลูมิเนนเซ่ ทีมดังจากบราซิล แบบขาดลอย 4-0 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้เมื่อเหมา 2 ประตูและ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คว้าแชมป์ที่ 5 ในปี 2023
และต่อไปนี้คือประเด็นที่เราได้เห็นจากเกมล่าสุดที่ คิง อับดุลลาห์ สปอร์ต ซิตี้...
โรดรี้ ถูกเสียบหนักจนได้รับบาดเจ็บ
สร้างความกังวลให้กับแฟนบอลเรือใบสีฟ้าไม่น้อยตอนที่พวกเขาได้เห็น โรดรี้ โดน อเล็กซานแดร์ เข้าปะทะหนักที่ข้อเท้า ก่อนต่อมาเล่นต่อไม่ไหวจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 74
อาการเจ็บของมิดฟิลด์ชาวสแปนิชส่งผลกระทบอย่างหนักต่อทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในซีซั่นนี้ เพราะพวกเขาไม่ใช่คู่แข่งเลยตลอด 4 เกมที่ทีมขาดดาวเตะวัย 27 ปี มันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฟอร์มของ ซิตี้ ในลีกดร็อปจนหล่นไปอยู่อันดับ 4 ของตาราง
กวาร์ดิโอล่า คงภาวนาไม่ให้แข้งรายนี้เจ็บไปอีก หลังจากต้องมาลุ้นข่าวความฟิตของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, เควิน เดอ บรอยน์ และ เฌเรมี่ โดกู รายวันเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าแฟนบอลคงจะเบาใจได้บ้าง เพราะหลังจบเกมได้ไม่นาน โรดรี้ อัพเดตเจ็บของตัวเองว่าเขาโอเคดี และจะพร้อมสำหรับเกมเจอ เอฟเวอร์ตัน ในสัปดาห์นี้
แชมป์ที่ 5 ของ ซิตี้ ในศักราช 2023
แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ เป็นการปิดฉากศักราช 2023 ได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า
ทัวร์นาเมนต์นี้ถือเป็นแชมป์รายการที่ 5 ของพวกเขาในปีนี้ ต่อจาก พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ซึ่งเป็นสโมสรแรกจากอังกฤษที่ทำเช่นนั้นได้
นอกจากนี้ กวาร์ดิโอล่า ยังเป็นกุนซือคนแรกที่คว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ได้มากถึง 4 สมัย หลังจากเคยทำได้ตอนคุม บาร์เซโลน่า (2 สมัย) และ บาเยิร์น มิวนิค (1 สมัย)
เช่นเดียวกับ ฟิล โฟเด้น ที่เป็นนักเตะอังกฤษคนแรกที่ยิงประตูในศึกชิงแชมป์สโมสรโลก รอบชิงชนะเลิศ นับตั้งแต่ เวย์น รูนี่ย์ เคยทำไว้เมื่อปี 2008
ฮาแลนด์, เดอ บรอยน์, โดกู อดได้เหรียญแชมป์?
เดิมที เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, เควิน เดอ บรอยน์, เฌเรมี่ โดกู ล้วนมีชื่ออยู่ใน 23 รายชื่อเบื้องต้นของ ซิตี้ ระหว่างที่พวกเขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ เพราะงั้นพวกเขามีสิทธิ์ได้รับเหรียญแชมป์
อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า เกิดเปลี่ยนใจถอดรายชื่อทั้งสามออก แล้วส่ง ไมกาห์ แฮมิลตัน, แม็กซ์ อัลเลน และ มาฮามาดู ซูโซโฮ่ ให้กับฟีฟ่าแทน
ตามกฎระบุว่าผู้เล่นทั้ง 23 คนในทีมเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับเหรียญรางวัล ซึ่งหมายความว่า ฮาแลนด์, โดดู และ เดอ บรอยน์ จะต้องอด
ฟีฟ่ายืนยันด้วยว่าผู้เล่นที่ไม่มีชื่อในเกมรอบรองชนะเลิศจะไม่สามารถเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้ด้วย ซึ่งทั้งสามไร้เงาในแมตช์ถล่ม อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส 3-0
กระนั้นก่อนหน้านี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ เคยเรียกร้องให้ เอฟเอ ผลิตเหรียญแชมป์เพิ่ม เพราะมองว่า 40 เหรียญไม่พอสำหรับทั้งนักเตะและสต๊าฟฟ์ของพวกเขาด้วย หลังจากได้แชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2022
คงต้องรอดูกันต่อไปว่า ฟีฟ่า จะอนุญาตเพิ่มเหรียญรางวัลเหมือน เอฟเอ หรือไม่ แม้มีภาพที่ ฮาแลนด์ ถูกสวมเหรียญแชมป์หลังเกมถล่ม ฟลูมิเนนเซ่ แต่ยังไม่การันตีว่าเป็นของเขาเอง หรือของเพื่อนร่วมทีม
วอล์คเกอร์ หวิดวางมวยกับ เมโล่
เกมจบแต่คนไม่จบ หลังจบเกมมีเหตุการณ์กระทบกระทั่งจากนักเตะของทั้งสองทีม โดยเฉพาะคู่ของ ไคล์ วอล์คเกอร์ กับ เฟลิเป้ เมโล่
ต้นตอมาจากการที่ เมโล่ เหมือนเดินเข้าไปหาเรื่อง แจ็ค กรีลิช หลังจบเกม จากนั้น วอล์คเกอร์ เห็นท่าไม่ดีก็พยายามจะปกป้องจนบานปลาย
อย่างไรก็ตาม เมโล่ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเขาไม่พอใจที่ กรีลิช ตะโกนคำว่า "Olé" เฉลิมฉลองที่ ซิตี้ คว้าแชมป์ โดยมิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนมองว่านักเตะอีกฝั่งไม่ให้เกียรติ
"ผมเห็นพวกสื่อโง่ ๆ ในโซเชียลพูดกันว่าผมเป็นคนก่อเรื่อง ผมไม่ได้ต้องการให้เกิดเรื่อง วันนี้ กรีลิช แสดงความไม่เคารพต่อ ฟลูมิเนนเซ่ และผมจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้น" เมโล่ กล่าว
"เขาตะโกนว่า 'Olé' หลังจบเกม นี่มันของแฟนบอลเท่านั้นแหละ แฟนบอลตะโกนว่า 'Olé' ได้ แต่นักกีฬาในสนามจะแสดงความไม่เคารพต่อ ฟลูมิเนนเซ่ ไม่ได้"
"สำหรับพวกงี่เง่าที่เรียกตัวเองว่านักข่าวและบอกไปว่าผมเป็นคนก่อปัญหา ผมไม่ได้สร้างความวุ่นวายใด ๆ ในทางตรงกันข้ามผมเข้าไปปกป้อง มาร์ติเนลลี่ ซึ่งถูกต้อนโดยนักกีฬาคนนี้ (กรีลิช) และผมจะทำมันอีก เพราะผมเป็นนักสู้"
กระนั้น กรีลิช ตอบโต้ โดยทวีตถึงบทสัมภาษณ์ของ เมโล่ ว่าเขาไม่ได้ตะโกนคำว่า "Olé" อย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด