แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้: ประเด็นหลังเกม แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ปีศาจแดง แซงคว้าชัยเหนือ เรือใบสีฟ้า
รายการ: พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2023
สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ผลการแข่งขัน: แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ปีศาจแดง แรงปลาย
เกมนี้ต้องบอกว่าเป็นการสู้กันด้วยแทคติคอย่างแท้จริง โดยเฉพาะฝั่งเจ้าบ้านที่วางแผนมาได้อย่างยอดเยี่ยมปล่อยให้ แมนฯ ซิตี้ ครองบอลเฉพาะในแดนตัวเอง และตั้งโซนไล่บีบตั้งแต่กลางสนามชนิดที่มาร์คแบบ "แมนทูแมน" เข้าคู่ประกบติดจนทีมเยือนพลิกบอลเล่นแทบไม่ได้ พร้อมกับรอความผิดพลาดในการเล่นเกมสวนกลับ ซึ่งครึ่งแรกต้องบอกว่าทำได้ดีเลยทีเดียวแต่ยังจบไม่ลง กระทั่งครึ่งหลัง เป๊ป แก้เกมมาดี โหมบุกอย่างหนักจน แมนยู ตั้งเกมไม่ติด และการเปลี่ยน กริลิช ลงมาสร้างความแตกต่างได้ชัดเจนพร้อมยิงขึ้นนำให้ทีมได้สำเร็จ หลังจากนั้นเป็นเจ้าบ้านที่ไม่มีทางเลือกที่ต้องพยายามเซ็ตเกมบุกสู้ซึ่งก็ทำได้ดีเกินคาดเพราะการเข้าทำแต่ละครั้งค่อนข้างได้น้ำได้เนื้อ จนตีไข่แตกได้สำเร็จจากจังหวะยิงของ บรูโน เมื่อสกอร์เท่ากัน ซิตี้ พยายามเร่งเกมหวังเอาประตูชัยแต่นั้นกลับเข้าทาง ปีศาจแดง ที่รอจังหวะให้ เรือใบ เปิดพื้นที่แดนหลังก่อนพวกเขาจะจัดการใช้โอกาสที่ ไคล์ วอลเกอร์ หลุดตำแหน่งเจาะทางซ้ายจนเป็นประตูชัยแซงขึ้นนำโดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีในการคว้า 3 คะแนนในบ้านไปได้อย่างงดงามในที่สุด
ล้ำ ไม่ล้ำ ?
จังหวะเจ้าปัญหาในเกมนี้ที่ยังเกิดเครื่องหมายคำถามกับหลาย ๆ คนโดยเฉพาะแฟน เรือใบสีฟ้า นั่นคือประตูตีเสมอของ แมนยู ที่ กาเซมิโร เปิดยาวมาให้ แรชฟอร์ด ที่ล้ำหน้าอยู่วิ่งประคองบอลแต่ไม่มีการสัมผัสกระทั่งบอลเลยมาถึง บรูโน ยิงเหน่ง ๆ เข้าไป ทีแรกผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอทท์เวลล์ เป่าให้เป็นการล้ำหน้า แต่หลังจากปรึกษากับผู้ช่วยและทีมงาน VAR สุดท้ายก็ตัดสินใจให้ประตูกับเจ้าถิ่นไป ซึ่งจากมาตรฐานการตัดสินลูกล้ำหน้าแม้ว่าจะไม่ได้สัมผัสโดนบอลแต่ถ้ามีเจตนาเล่นบอลหรือมีส่วนขัดขวางการป้องกันในจังหวะนั้น ๆ จะถือว่าเป็นการล้ำหน้า แต่ผู้ตัดสินคงจะมองว่า แรชฟอร์ด ไม่มีส่วนใด ๆ กับทิศทางบอลหรือมีผลใด ๆ กับการป้องกันของ ซิตี้ ที่ยังไงก็เข้าไม่ถึงบอลอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้มันก็อยู่ที่มุมมองและดุลพินิจล้วน ๆ นั่นเอง
ปิด เดอ บรอยน์ คนเดียวจบ
เกมนี้นี้ เทน ฮาก มองขาดส่ง เฟร็ด กองกลางจอมขยันลงสนามมาประกบติด เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมคเกอร์ตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนแทบไม่มีพื้นที่ได้เล่น ซึ่งนั่นกลายเป็นจุดสำคัญเพราะการปิด เดอ บรอยน์ เท่ากับปิดเกมรุกของ ซิตี้ ไปโดยปริยาย อีกนัยก็คือโอกาสที่บอลจะไปถึงตัวอันตรายอย่าง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ก็น้อยลงไปด้วย และมันก็เป็นเช่นนนั้นจริง ๆ เพราะตัวรุกคนอื่น ๆ วันนี้ทั้ง ฟิล โฟเด้น ริยาด มาห์เรซ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกที่ดีให้กับทีมได้เลย จนสุดท้ายก็ต้องเป็น เดอ บรอยน์ นี่แหละที่ฉีกหนี เฟร็ด หาพื้นที่เปิดแบบงามย้อยมาเข้าศีรษะ กรีลิช แบบแม่นยิ่งกว่าจับวาง
แมนยู ลุ้นแชมป์เต็มตัว
จาก 3 คะแนนในเกมนี้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้พวกเขาขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 อย่างเป็นทางการแซงหน้า นิวคาสเซิล ที่แข่งเท่ากันขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว โดยปัจจุบัน ปีศาจแดง มี 38 คะแนนจาก 18 เกมไล่จี้ แมนฯ ซิตี้ อันดับสองเหลือช่องว่างเพียงคะแนนเดียว และที่สำคัญคือตามหลัง อาร์เซนอล จ่าฝูงมาแบบห่าง ๆ 6 คะแนนโดย ปืนใหญ่ จะมีคิวทำศึกลอนดอนดาร์บี้พบกับ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในวันพรุ่งนี้ แม้จะมองว่ายังไม่ได้กดดันมากขนาดนั้นแต่ด้วยผลงานฟอร์มการเล่น รวมถึงการล้มยักษ์อย่าง ซิตี้ มาแบบสด ๆ ร้อน ๆ แฟน ๆ แมนยู เองคงกล้าพูดได้เต็มปากแล้วว่าพวกเขาจะเล่นเพื่อลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ !
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด