แมนยู 4-1 เรอัล เบติส: ประเด็นหลังเกม ปีศาจแดง ไล่ยำทีมแกร่ง ลาลีกา ศึก ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมฯ ยกแรก

1. สาเหตุที่จัดชุดเดิม

เอริก เทน ฮาก ตัดสินใจใช้ 11 ตัวจริงชุดเดียวกับเกมที่บุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แบบเละเทะ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

11 ตัวจริงของ เทน ฮาก เหมือนเดิมหมด แต่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยสำหรับการยืนตำแหน่ง เขาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนปีกซ้าย (เกมกับ ลิเวอร์พูล ยืนหน้าเป้า) ขณะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังคงสวมปลอกแขนกัปตันทีม ยืนตำแหน่งผู้เล่นหมายเลข 10 (จากริมเส้นฝั่งซ้ายเกมกับ ลิเวอร์พูล) โดยมีปีกขวาเป็น อันโตนี่

ส่วน เวาต์ เว็กฮอร์สต์ ขยับขี้นไปยืนหัวหอกตัวเป้า หลังเกมก่อนหน้านี้ ยืนหน้าต่ำ

โดยกุนซือ ปีศาจแดง อธิบายเหตุผลก่อนเกมว่า ''เราต้องการคว้าชัยชนะ เราต้องทำผลงานออกมาให้ดี เราคิดว่านี่คือชุดที่ดีที่สุดที่จะโชว์ฟอร์มออกมาให้ดีและคว้าชัย''

2. การตอบสนองอย่าง ''มืออาชีพ''

เมื่อคุณพ่ายแพ้ในเกมใหญ่ เฉพาะอย่างยิ่งการแพ้เเบบเละเทะมา คุณจำเป็นต้อง ''ตอบสนอง'' ทันทีในเกมถัดไปให้แฟนบอล และ ผู้จัดการทีม เห็น - นี่คือสิ่งสำคัญ

ก่อนหน้านี้ เทน ฮาก ให้สัมภาษณ์หลังเกมที่พ่าย ลิเวอร์พูล ว่า ในครึ่งหลังลูกทีมของเขา ''ไม่มีความเป็นมืออาชีพ''

เกมกับ เบติส ในครึ่งแรกดูเหมือนว่าพวกเขายังเมาหมัดจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ครึ่งหลังพวกเขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ และทัศนคติการเล่นที่ยอดเยี่ยม

''นับเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นการตอบสนองของทีม หลังก่อนหน้านี้เจอความพ่ายแพ้มา นี่ไม่ใช่หนแรกในฤดูกาลนี้ที่เราสามารถรีเซ็ตและกลับมาได้ ทีมนี้มีคาแรคเตอร์ ฉะนั้นทีมจึงคู่ควรกับการได้รับคำชื่นชมอย่างมาก'' เทน ฮาก กล่าวหลังเกมกับ บีที สปอร์ต

สำหรับนัดถัดไป พวกเขาจะได้เฝ้าบ้านอีกหนึ่งนัด เจอกับ เซาแธมป์ตัน ในศึก พรีเมียร์ลีก ถือเป็นโอกาสดีสำหรับพวกเขาที่จะได้สร้างความเชื่อมั่น และโมเมนตัมของตัวเอง

3. สถิติอันยอดเยี่ยมของ ปีศาจแดง

4 ประตูที่พวกเขายิงได้ในเกมนี้ เท่ากับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงใส่คู่แข่งได้อย่างน้อย 2 ลูก ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเกมที่ 15 ติดต่อกันแล้ว (รวมทุกรายการ) ซึ่งเป็นหนที่สี่ในประวัติศาสตร์ของพวกเขา และเป็นหนแรกนับตั้งแต่ มีนาคม - ตุลาคม 2000

เท่านั้นไม่พอ นี่เป็นชัยชนะที่ 31 ของลูกทีม เอริก เทน ฮาก ในฤดูกาลนี้ (รวมทุกรายการ) ถือเป็นทีมที่เก็บชัยได้มากสุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป

1. เก็บชัย 31 เกม - แมนฯ ยูไนเต็ด

2. เก็บชนะ 30 เกม - ไม่มี

3. เก็บชัย 29 เกม - ไม่มี

4. เก็บชัย 28 เกม - ไม่มี

5. เก็บชัย 27 เกม - บาร์เซโลน่า, นาโปลี, เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้

4. สงครามยังไม่จบ.. อย่าเพิ่งนับศพทหาร

แม้ขาข้างหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะก้าวเข้าไปรอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว แต่ มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือ เรอัล เบติส ยังไม่ยกธงขาว แม้เจ้าตัวจะยอมรับว่าในเลกที่สองเป็นงานยากก็ตาม

''ผมไม่คิดว่ารอบน็อคเอาท์นี้จบลงเเล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เราจะพยายาม'' อดีตกุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบุหลังเกม

''คุณต้องนิ่งๆ เข้าไว้ และพยายามเอาชนะสถานการณ์นี้ให้ได้ มันเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ แต่เราจะทำทุกวิถีทางในเลกที่สอง''

สำหรับเลกสอง จะกลับไปเตะที่ เบนิโต บิยามาริน รังเหย้าของ เรอัล เบติส วันที่ 16 มีนาคม นี้