ฟอเรสต์ 0-2 แมนซิตี้ : ประเด็นหลังเกมพรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า เกาะรองจ่าฝูงเหนียวแน่น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินหน้าคว้าชัยต่อเนื่อง โดยล่าสุดบุกเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึงถิ่น 2-0 พร้อมไล่จี้จ่าฝูงเหลือแต้มเดียว ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

"เรือใบสีฟ้า" ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ เปิดลูกเตะมุมให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล โหม่งเข้าไปในนาทีที่ 32

ช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 71 แมนฯ ซิตี้ หนีเป็น 2-0 เมื่อ เดอ บรอยน์ คนเดิมจ่ายบอลให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ตัวสำรองซัดเข้าไปตุงตาข่าย

จบเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ เก็บเพิ่มเป็น 79 คะแนน รั้งอันดับ 2 ตามหลัง อาร์เซนอล แต้มเดียว แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด

สำหรับประเด็นที่เรามองเห็นจากเกมที่ ซิตี้ กราวด์ มีดังต่อไปนี้...

กวาร์ดิโอล ปลดล็อกศักยภาพทำประตู

เกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่เจอกับ เรอัล มาดริด อาจจบลงอย่างน่าเจ็บปวดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยปลดล็อกศักยภาพในการทำประตูของ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล

กองหลังทีมชาติโครเอเชียรายใช้เวลากว่าหนึ่งปีโดยทำประตูไม่ได้เลยให้กับทั้งสโมสรหรือทีมชาติ ก่อนที่จะมาทำประตูได้ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

แมนฯ ซิตี้ มักจะมีกองหลังที่ทำประตูสำคัญ ๆ ปูทางสู่การลุ้นแชมป์ตลอด ตัวอย่างเช่น ลูกยิงของ แว็งซ็องต์ กอมปานี ในเกมพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2019 รวมถึง นาธาน อาเก้ ที่ทำประตูชัยใส่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

ประตูของ กวาร์ดิโอล ในเกมนี้มันสำคัญมาก ๆ สำหรับ "เรือใบสีฟ้า" หลังจากโดน ฟอเรสต์ บุกเข้าใส่จนเกือบทำประตูขึ้นนำก่อนด้วยซ้ำ และมันคลายความกดดันให้พวกเขาเมื่อเกมดำเนินต่อไปด้วย

ฟอเรสต์ โอกาสเยอะแต่ไม่เฉียบขาดเอง

มันไม่ใช่เรื่องปกติที่จะเห็น แมนฯ ซิตี้ โดนคู่แข่งเปิดเกมบุกเข้าใส่ และ ฟอเรสต์ ที่กำลังหนีตกชั้นพยายามอย่างหนักเพื่อขึ้นนำก่อนให้ได้

คริส วู้ด อยู่ในฟอร์มที่ดีในฤดูกาลนี้ แต่เหมือนสากกระเบือเข้าสิงห์ในเกมนี้เพราะมีโอกาสทำประตูเหน่ง ๆ หลายครั้งแต่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย

แม้ว่าปล่อยให้ แมนฯ ซิตี้ ครองบอลเยอะกว่าที่ 67% ต่อ 33% แต่ ฟอเรสต์ ก็หาโอกาสยิงได้เยอะมากที่ 14 ครั้ง แต่เข้ากรอบเพียง 2 ครั้งเท่านั้น

เอแดร์ซอน เจอปัญหาอาการบาดเจ็บอีกครั้ง

มาเตโอ โควาซิช ไม่ใช่ผู้เล่นคนเดียวที่ถูกส่งลงสนามเมื่อเริ่มครึ่งหลัง แต่ สเตฟาน ออร์เตก้า ก็ถูกส่งลงไปด้วย และไม่ใช่ครั้งแรกในฤดูกาลนี้ที่ กวาร์ดิโอล่า ต้องเปลี่ยนผู้รักษาประตูระหว่างเกม

เอแดร์ซอน ปะทะกับ วิลลี่ โบลี่ กองหลังฟอเรสต์ในครึ่งแรก หลังจากนั้นเขาก็แสดงอาการเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ก็ฝืนเล่นจนจบครึ่งแรก

อย่างไรก็ตาม กวาร์ดิโอล่า ไม่อยากเสี่ยงเลยส่ง ออร์เตก้า ลงไปแทน และให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่านายด่านชาวบราซิเลียนอาการดูไม่ดีนัก นอกจากนี้มีภาพหลังจบเกมที่ เอแดร์ซอน สวมเฝือกดามที่แขนอีกด้วย

นับเป็นข่าวร้ายสำหรับ กวาร์ดิโอล่า ที่กำลังลุ้นแชมป์ช่วงโค้งสุดท้าย แม้ว่าเขายังมี ออร์เตก้า ที่ไว้ใจได้ระดับหนึ่งก็ตาม

ฮาแลนด์ กลับมาฟิตพร้อมพา แมนฯ ซิตี้ ป้องกันแชมป์

แมนฯ ซิตี้ รับมือได้ดีโดยไม่มี เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ตั้งแต่เกมกับ เชลซี และ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน แต่ดาวเตะนอร์เวย์ใช้เวลาไม่นานก่อนทำประตูได้จากการลงเป็นตัวสำรองในเกมเจอ ฟอเรสต์ และเป็นประตูที่ 21 ในลีกของเขาอีกด้วย

ตัวเลขดังกล่าวทำให้ ฮาแลนด์ นำดาวซัลโวแบบเดี่ยว ๆ มากกว่า โคล พาลเมอร์ เพียงประตูเดียว เป็นตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลรองเท้าทองคำเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

เกมต่อไปของ แมนฯ ซิตี้ คือการเปิดบ้านเจอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่ง ฮาแลนด์ ทำแฮตทริกได้ในการเจอกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว