น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1 – 2 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก ปืนใหญ่ เร่งเครื่องครึ่งหลังเช็คบิลเจ้าป่าคาบ้าน

รายการแข่งขัน : พรีเมียร์ลีก 2023-2024
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 30 มกราคม 2024
สนามแข่งขัน : ซิตี้ กราวด์
ผลการแข่งขัน : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-2 อาร์เซนอล

อาร์เซนอล ยังคงรักษาฟอร์มได้ต่อเนื่องเป็นเกมที่สอง กับการคว้าชัยเหนือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้สำเร็จ 2-1 ในเกมที่ต้องบอกว่าพวกเขาเหนือกว่าทั้งเชิงสถิติ และรูปเกม แต่ความผิดพลาดครั้งเดียวท้ายเกมทำให้พวกเขาต้องเหนื่อยไม่น้อยกับการคว้าสามคะแนน

45 นาทีแรก: การเล่นเกมรุกที่มากจังหวะของปืนใหญ่ เกมรับที่เหนียวแน่นของเจ้าป่า

อาร์เซนอล ยังคงเป็นทีมเดิมที่ชื่นชอบกับการครอบครองเกมแล้วขึงเกมบุกใส่ พวกเขาทำได้เด่นชัดมากโดยเฉพาะ 45 นาที เคยมีจังหวะครองบอลได้สูงถึง 90 % ในบางช่วง แต่ก็เหมือนเดิมอีกเช่นกัน ที่การเล่นของทีมมันมีปัญหาในการเข้าทำ คุณภาพบอลสุดท้ายแย่เกินกว่าจะทำให้มันกลายเป็น “โอกาส” ที่ดีในการทำให้กลายเป็นประตู ยิงเข้ากรอบ 1 จากโอกาส 9 ครั้ง ใน 45 นาทีแรกบ่งชี้ได้ว่าบอลแต่ละจังหวะจบสกอร์กันเป็นอย่างไร

บอลอาจจะอยู่ในแดนเจ้าบ้านเยอะ แต่การมีวินัยในเกมรับทำให้เรื่องเหล่านั้นไม่ก่อปัญหาสำหรับเจ้าถิ่นที่มองหาคลีนชีตเกมแรกในลีกนับจาก นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ เข้ามาคุมทีม พวกเขาหลังจากเสียเกมกลางสนามไป พวกเขาก็เลือกตั้งรับลึก “ของแสลง” ที่อาร์เซนอลเกลียดนักเกลียดหนา บอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับแทบไม่มี เน้นการเคาะบอลสั้น ยกบอลข้ามแนวรับ และเจาะด้านข้าง ตายกันที่บอลสุดท้ายทั้งหมด จังหวะเกมแบบนี้เล่นบอลช้าเมื่อไร โอกาสก็แทบไม่เหลือ

อาร์เซนอลปรับเกมได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง พวกเขาทำการบ้านมาดียกระดับในเรื่องของความเร็ว และการเล่นให้น้อยจังหวะลง ส่วน ฟอเรสต์ รอเล่นเกมสวนกลับ และสุดท้าย อาร์เซนอล ก็มาได้ประตู

45 นาทีหลัง: ปืนใหญ่ไม่ได้พลิกแพลง แต่ยกระดับ “ประตูแรก” เปลี่ยนเกม

ชัยชนะของอาร์เซนอลมาจากการที่พวกเขายกระดับคุณภาพเกมละเอียดมากขึ้น พวกเขาอาจจะครองบอลได้ลดลงจากในครึ่งแรก แต่ก็ได้ความเร็วในการออกบอลที่มากขึ้น และก็สร้างความวุ่นวายให้เจ้าบ้านได้ผล อาร์เซนอล แทบจะไม่ได้เล่นพลิกแพลงอะไรจากที่เคยเป็น แต่ทำให้มันดีขึ้น

ประตูแรกของเชซุส ในเกมนี้มาจากความยอดเยี่ยมของเจ้าตัว และคนออกบอลเร็วจากจังหวะที่เหมือนจะ “สมาธิหลุด” เล็กน้อยของเจ้าบ้านที่มัวแต่สนใจว่าทำไมจังหวะก่อนหน้าพวกเขาไม่ได้ฟาลว์ กลายมาเป็น เชซุส ได้บอลว่างในเขตโทษ ก่อนยิงลอดขา แมตต์ เทอร์เนอร์เข้าไป

ประตูนี้เปลี่ยนทั้งเกม เพราะเจ้าบ้านไม่บุกไม่ได้แล้ว และก็แทบจะไม่ค่อยได้บุกมาตลอดทั้งเกม พอต้องมาตั้งเกมบุกก่อน พวกเขาก็กลายเป็นทำอะไรไม่ค่อยได้ ตรงข้ามกับอาร์เซนอลที่เข้าทางเลย เพราะพวกเขาคุ้นชินและชื่นชอบการเล่นที่มีพื้นที่ให้เล่นเยอะขึ้น บุกง่ายขึ้น นำมาซึ่งประตู “ตอกย้ำ” เมื่อบอลจากจังหวะเตะมุมของเจ้าบ้าน กลายเป็นบอลที่กลับมาเซตอัพในแนวรับที่กลายเป็นเสียบอล ก่อนจะจบด้วยการโดนสวนกลับและเป็น ซาก้า ได้กดเต็ม ๆ ไม่มีเหลือ เกมนี้ เชซุส ได้หนึ่งประตู หนึ่งแอตซิสต์ ในเกมนี้

ลูกฮึดของ “เจ้าป่า”

เกมน่าจะไม่มีอะไรสำหรับปืนใหญ่ในช่วงท้ายเกม แต่ความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นก็เกิดขึ้นในเกมรับช่วงท้ายเกม จากจังหวะบอลยาวจากแนวรับ เจ้าบ้านสาดบอลไปข้างหน้า และได้จังหวะโหม่งตั้งมาหน้าเขตโทษ อโวนิยี่ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง เบียดแย่งกับ ซาลิบา ก่อนจะหันมาเจอบอลและยิงเข้าไป ลูกนี้ “พลาดง่าย” ไปเสียหน่อยสำหรับแนวรับปืนใหญ่ กอปรกับมีโชคด้วยสำหรับกองหน้าไนจีเรีย ที่หันมาเจอบอลและยิงเข้าไป ประตูนี้ทำให้ช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเจ้าบ้านมีความหมาย และต่อสู้อย่างหนักเพื่อสักคะแนนในบ้านตัวเอง แต่อาร์เซนอลก็รัดกุมพอจะไม่แบ่งคะแนนให้หลุดมือ

ปืนใหญ่ “น่าพอใจ” “เจ้าป่า” มีแววรอด

อาร์เซนอล ในฐานะทีมลุ้นแย่งแชมป์พรีเมียร์ ลีก พวกเขาได้สามคะแนนในเกมนี้ถือว่าตามเป้าหมาย มีครึ่งแรกและครึ่งหลังทีดีกว่าถ้าวัดกันที่ศักยภาพของทีมเล่นรุกที่มากกว่า สร้างโอกาสได้เยอะแต่ที่มันต่างจาก 3-4 เกมก่อนหน้าที่พวกเขาแพ้ต่อเนื่อง คือเกมนี้พวกเขายิงประตูได้จากโอกาสเยอะแยะมากมายเหล่านั้น ต่างกันเพียงแค่ตรงนั้นที่พวกเขาต้องรักษามาตรฐานการผลิตสกอร์ให้ได้สม่ำเสมอหากหวังไกลเกินกว่าแค่การไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก

ฟอเรสต์ ตั้งแต่การเข้ามาของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ จะบอกว่าดีก็คงไม่เต็มปาก พวกเขาชนะ 2 แพ้ 4 จาก 6 เกมที่ นูโน่มาคุมทีมในลีก อาจจะต้องปรับจูนกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวรับที่ยังเสียประตูทุกเกม ถ้ายังเป็นแบบนี้พวกเขาเหนื่อยแน่ แต่หากมองในภาพรวมแล้วพวกเขาก็เป็นทีมที่มีนักเตะศักยภาพดีหลายคนในทีม เกมรุกยังมีทีเด็ดน่าสนใจ มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์, ไตโว อโวนิยี่ กระทั่งปีกสองข้างทั้ง แอนโทนี่ อีลันก้า และ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ชื่อชั้นก็ไม่ได้น้อยหน้าใครเหมือนกัน หากเซตเกมรับให้เหนียวแน่น ปีนี้พวกเขามีสิทธิ์สูงจะได้อยู่ต่อในพรีเมียร์ ลีก อีกปี