ฟอเรสต์ 2-3 เชลซี : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด สิงห์น้ำเงิน โกงความตาย แซงเข้าป้ายสิบนาทีท้าย - FEATURE
• เชลซี ยังต้องสู้ต่อเพื่อตั๋วยุโรป ส่วน ฟอเรสต์ ก็รอดตายแล้วแหละ
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกมที่ ซิตี้ กราวน์ด
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2567
สนาม: ซิตี้ กราวน์ด
ผลการแข่งขัน : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-3 เชลซี
สิงห์กับเจ้าป่า
ระหว่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ กับ เชลซี ชัดเจนว่าตำแหน่งที่ยืนของสองฝั่ง แตกต่างกัน
ฝั่งหนึ่ง ต้องดิ้นรนสู้เพื่อหนีตาย ทำแต้มทุกประตูมีความหมายต่ออนาคต
ส่วนอีกฝั่ง สู้แค่เพื่อให้ "ความหวังสีจางๆ" ยังคงอยู่ รวมถึงให้เป็นของขวัญส่งท้ายซีซั่นแก่แฟนๆ
สำหรับ ฟอเรสต์ แม้สถานการณ์จะดูดีกว่า ลูตัน ทาวน์ พอสมควรในศึกหนีตกชั้น โดยเฉพาะเมื่อ ลูตัน ลงเตะคู่ 3 ทุ่มแล้วแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-3 แต่ก็ด้วยสภาพของตัวเองนั่นแหละที่ดูไม่ค่อยได้ ด้วยการชนะแค่ 2 เกมจากระยะ 11 นัดหลังสุด
ที่สำคัญ ประเด็นที่ฉุดทุกอย่างให้ดิ่งลง ยังอยู่ที่การโดนตัดแต้ม 4 คะแนน และอุทธรณ์ไม่ผ่านด้วยนั่นเอง
นำเร็วเช่นเคย
คงพูดไม่ได้ว่า เชลซี ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เป็นทีมที่เกมรุกร้อนแรง เก่งกาจเจ๋งเป้งที่สุดทีมหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก
แต่ชัดเจนว่า การจู่โจมเร็วจนนำมาซึ่งประตูแต่เนิ่นๆ คือ "จุดแข็ง" ของพวกเขาไปแล้วในระยะหลัง
- ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-2 : นิโคลัส แจ๊คสัน น.6
ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 : คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.4
เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-2 : ติอาโก้ ซิลวา น.11
ชนะ เอฟเวอร์ตัน 6-0 : โคล พาลเมอร์ น.13
ชนะ สเปอร์ส 2-0 : เทรโวห์ ชาโลบาห์ น.24
ชนะ เวสต์แฮม 5-0 : โคล พาลเมอร์ น.15
เกมนี้ : มิไคโล มูดริค น.8
ชัดเจนจากลิสต์นี้ ว่าตลอด 10 เกม พรีเมียร์ลีก หลังสุด เชลซี พังตาข่ายได้เร็ว ภายในครึ่งชั่วโมงแรกของเกม (ส่วนใหญ่คือไม่เกิน 15 นาทีด้วยซ้ำ) ถึง 7 นัด
นี่ขนาดว่าตัวเลือกแนวรุกไม่ได้ดีเด่ และสภาพทีมไม่ได้สมบูรณ์ด้วยนะ
เกมเยือนเจ้าปัญหา
อย่างไรก็ตาม นำเร็วแล้ว เชลซี ก็เสียคืนให้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เร็วด้วยเช่นกัน
แม้อาจเป็นข้อถกเถียงอยู่บ้างว่าล้ำหน้าหรือไม่อย่างไร กับการสอดเข้าโขกของ วิลลี่ โบลี่ หลังเสียประตูแรกไป 8 นาที
แต่เมื่อ VAR ลงความเห็นว่าตำแหน่งที่ยืนของกองหลัง ฟอเรสต์ ไม่ล้ำหน้า ก็ต้องว่าไปตามนั้น
1-1 มา 1-2 ก็ตามมาในครึ่งหลัง กับความเฉิดฉายและการใช้โควตา "ยิงประตูทีมเก่า" ของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ที่ เชลซี ปล่อยขายให้ ฟอเรสต์ 5 ล้านปอนด์
ณ จุดนั้น แฟน เชลซี เองก็คงกุมหัว และคิดว่า... อีกแล้วหรอฟะ
เพราะ "เกมเยือน" คือปัญหาที่ชัดเจนของ เชลซี ตลอดมา
- นี่คือ เชลซี นอกบ้าน (6 เกมหลัง) ก่อนวันนี้
เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1
เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 2-2
เสมอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-2
แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เอฟเอ คัพ)
แพ้ อาร์เซน่อล 0-5
เสมอ แอสตัน วิลล่า 2-2
ถ้าเกมนี้แพ้อีก จะกลายเป็นการชนะใครไม่เป็นนอก สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึง 7 เกมติดต่อกัน
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
แต่ในสถานการณ์ที่เข้าตาจน กลายเป็นว่าเกมนี้ บรรดาตัวสำรองของ โปเช็ตติโน่ "ตอบโจทย์" จัดให้แจ่มๆ เลยครับนาย
8 นาทีหลังลงสนาม ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลั่นไกเป็นประตูตีเสมอ 2-2 (ก่อนอีกแวบเดียว รีซ เจมส์ สาดให้ นิโคลัส แจ๊คสัน โขกประตูชัย 3-2)
นี่คือประตูที่ 9 ของดาวเตะวัย 29 ในซีซั่นนี้
และเป็นการกลับมาคลำเป้าเจออีกครั้ง หลังหยุดยิงไปตั้งแต่เกมเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 เมื่อ 17 ก.พ.
หรือตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้วโน่น
ที่จริง สเตอร์ลิ่ง คงไม่ต้องลุ้นแล้วแหละถึงโอกาสไป ยูโร 2024 เมื่อหลุดจากสารบบของ แกเร็ธ เซาธ์เกต มาเป็นปีๆ แถมช่วงหลังก็กลายเป็น "สำรองถาวร" ของ เชลซี ไปแล้วด้วย
ที่ต้องแคร์มากกว่า คืออนาคตของตัวเองว่าจะไปทางไหนอย่างไรแน่
เพราะถ้าไม่มีประตูนี้ และฉากจบกับ เชลซี ยังเป็นไปอย่างน่าลืมเลือน ก็อาจหมายถึง That is a Door -- ประตูทางออกอยู่โน่น เชิญค่ะ!
รอยยิ้มนักสู้
กับการเข้าสู่ 2 เกมสุดท้าย โดยมีตั๋ว คอนเฟอเรนซ์ ลีก เป็นเดิมพัน
เชลซี มีคะแนนเท่ากับ นิวคาสเซิ่ล พอดี ที่ 57:57 (โดยมี แมนฯ ยูไนเต็ด ตามหลัง 3 แต้ม ก่อนเตะ อาร์เซน่อล)
ถัดจากนี้ สิงห์น้ำเงิน จะพบกับ ไบรท์ตัน (เยือน) และ บอร์นมัธ (เหย้า)
ฝั่ง สาลิกา จะออกไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนเฝ้าบ้านดวล เบรนท์ฟอร์ด
ฉะนั้น โอกาสของสองทีม คงอยู่ที่ 50:50 ประมาณเดียวกัน
ส่วนทาง ฟอเรสต์ แม้จะแพ้เกมนี้ แต่... ฉลองได้เลยจ่ะ
เพราะอีกแค่ 1 เกมสุดท้ายที่ยังเหลือ ไม่ต้องสนใจเลยว่าจะเจอใครที่ไหนยังไง ด้วยการนำหน้า ลูตัน ทาวน์ 3 แต้ม และผลต่างประตูได้เสียดีกว่าถึง 12 ลูก (-19 : -31) ก็ควรถือว่า "จบแล้ว" อย่างไม่เป็นทางการ
และทีมสุดท้ายที่ตกชั้น ถัดจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กับ เบิร์นลี่ย์ ก็คือ "ก๊วนเด็กใหม่" อย่าง ลูตัน ทาวน์ นั่นเอง