พีเอสวี 1-1 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกมนัด ปืนใหญ่ บุกเจ๊ากอดคอเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

• อาร์เซนอล – พีเอสวี กอดคอกันเข้ารอบในฐานะแชมป์ และรองแชมป์กลุ่มตามลำดับ

• การจับสลากในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะเกิดขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2023
PSV Eindhoven v Arsenal FC: Group B - UEFA Champions League 2023/24
PSV Eindhoven v Arsenal FC: Group B - UEFA Champions League 2023/24 / BSR Agency/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2023
สนามแข่งขัน : ฟิลิปส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : พีเอสวี 1 - 1 อาร์เซนอล


เกมส่งท้ายแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มบี ที่กลายเป็นเกมทดลองทีม และการให้โอกาสนักเตะสำรองสำหรับทั้งสองทีม จบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ในแบบที่บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น หลังจากที่บทสรุปของกลุ่มนี้จบลงตั้งแต่เกมนี้ยังไม่เริ่มทำงานแข่งขัน

อาร์เซนอล หลังจากไม่ได้ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก มานานถึง 6 ฤดูกาล พวกเขากลับมาพร้อมความมุ่งมั่นและจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ขณะที่พีเอสวีในฤดูกาลนี้ ผลงานร้อนแรงอย่างยิ่งใน เอเรเดวิซี ลีก กับชัยชนะ 15 เกมรวด และยังคงไร้พ่ายในฤดูกาลนี้ พวกเขา “ด่างพร้อย” กับความพ่ายแพ้เพียงหนึ่งเกมในฤดูกาลนี้ นั่นคือความพ่ายแพ้ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พบกับอาร์เซนอลในเกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม และการต้องมาพบกันในการส่งท้าย พวกเขาก็ไม่อยากให้แฟนบอลในบ้านตนเองผิดหวัง และแม้จะไม่สมหวังที่สุด แต่ก็จบลงในแบบออกจากสนามด้วยความพอใจ ในเกมที่เต็มไปด้วยตัวสำรองหลายต่อหลายคน และนี่คือประเด็นหลังเกมสำหรับเกมนี้ โดยเฉพาะจากทางฝั่งของทีมเยือน


เกมแห่ง “โอกาส” สำหรับตัวสำรอง

ทั้งสองทีมส่งตัวสำรองลงเล่นในหลายตำแหน่ง อาร์เซนอล เลือกดรอปผู้เล่นมากถึง 8 คนจากความพ่ายแพ้ที่มิดแลนด์ ต่อ แอสตัน วิลล่า ในพรีเมียร์ ลีก ด้วยเหตุที่ต้องการพักผู้เล่นหลัก ชื่อของ เซดริก โซอาเรส รวมถึง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ที่แทบจะไม่ได้รับโอกาสเลยในฤดูกาลนี้ได้ลงสนาม เช่นเดียวกับ อารอน แรมสเดล นายทวารที่ฝ่าฟันช่วยทีมได้รับสิทธิ์มาเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ “เดบิวต์” ในเกมนี้เป็นเกมแรกในชีวิตการเล่นฟุตบอลอาชีพ โดยเหลือเพียง วิลเลี่ยม ซาลิบา และ กาเบรียล เป็นเพียงสองตัวหลักที่ยังลงมาเล่นในเกมนี้ ขณะที่ ไค ฮาแวตซ์ แม้จะได้รับโอกาสเยอะในปีแรกของตนเอง แต่ก็ยังมีหลายเกมก่อนหน้านี้ที่เริ่มต้นด้วยตัวสำรอง นี่คือเกมที่ให้นักเตะเหล่านี้ได้ลงมาเล่นเพื่อแสดงศักยภาพ และได้เวลาในสนาม

อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล ในเกมนี้ยังคงเหมือนกับหลายเกมที่ใช้งานตัวสำรองเกินครึ่งทีม มักจะมีปัญหาในเรื่องความเข้าใจเกมที่ผิดพลาดบ่อย ยิ่งบางคนยังไม่ได้ลงตัวจริงเลยในปีนี้ การจับคู่ของนักเตะหลายคนไม่เคยลงเล่นพร้อมกันตั้งแต่นาทีแรก ผลที่ออกมาคือความผิดพลาด – ความล่าช้าในการเซตเกม ยังไม่รวมถึงที่ว่าพวกเขาเข้ารอบไปแล้วด้วยความมุ่งมั่นก็ค่อนข้างเห็นได้ชัดว่าลดลง นักเตะทั้งสองทีมลงเล่นไปมีจังหวะได้เห็นรอยยิ้มระหว่างเกม สะท้อนชัดถึงระดับความตึงเครียดของเกมได้ดี ขณะที่พีเอสวี แม้ว่าเกมนี้จะมีการใช้บริการตัวสำรองหลายคน แต่นักเตะแทบทั้งสิ้นคือ “ตัวหมุนเวียน” ในทีมมาตลอด กับทีมที่ลงเล่นมาแล้วถึง 25 เกมในทุกรายการของปีนี้ ความเข้าใจเกมของทีมต่างกันชัดเจน กอปรกับได้เล่นในบ้านในวันที่ทีมกำลังมั่นใจสุดขีดในลีก ความแตกต่างจึงออกมาค่อนข้างชัดพอสมควร โดยเฉพาะครึ่งแรก

Isaac Babadi, Emile Smith Rowe
PSV Eindhoven v Arsenal FC: Group B - UEFA Champions League 2023/24 / Fantasista/GettyImages

การเลือกใช้งาน “เซดริก โซอาเรส”

ฟูลแบ็คโปรตุกีส อยู่ในช่วงสัญญาปีสุดท้ายของตนเองกับทีม เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ไม่ได้รับโอกาส และอยู่กับทีมท่ามกลางข่าวที่ว่าจะอำลาทีมมาตั้งแต่ตลาดการซื้อขายรอบที่แล้ว การลงเล่นของเขาในฐานะแบ็คขวา ทำให้ได้เห็นแนวคิดการเล่นอีกหนึ่งแบบจากอาร์เซนอล กับการที่เกมนี้ เซดริก ยืนตำแหน่งเหมือนเป็น “วิงแบ็ค” มีการทดแทนและสลับพื้นที่ ระหว่าง แบ็คขวาและกองกลาง ร่วมกับ โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ และ รีส เนลสัน เพื่อการเล่นเกมรุก ตลอดช่วงเวลาลงสนามประมาณหนึ่งชั่วโมง เขาทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดี แม้จะไม่ได้เห็นเกมรับอะไรมากนัก แต่สำหรับเขาที่เป็นฟูลแบ็คเชิงรุกโดยธรรมชาติ การเล่นแบบนี้เอื้อกับสไตล์ของเขาโดยตรง

ท้ายที่สุดแล้วการโดนเปลี่ยนตัวออก เกิดจากการที่ พีเอสวี ยิงประตูตีเสมอ และอาร์เซนอลต้องการผลการแข่งขันที่อย่างน้อยต้อง “ไม่แพ้” ในเกมนี้ การเปลี่ยนนักเตะตัวหลักหลายคนลงมาเป็นหลักฐานชัดเจนในเป้าหมาย และทำให้ เซดริก เป็นหนึ่งในคนที่โดนถอดออก

Cedric Soares
PSV Eindhoven v Arsenal FC: Group B - UEFA Champions League 2023/24 / BSR Agency/GettyImages

“Personal Error” ของคู่เซ็นเตอร์

เกมนี้ด้วยความที่ใช้ตัวสำรองเยอะ อาร์เซนอล เลือกไม่ดรอปคู่กลางตัวหลักทั้ง วิลเลี่ยม ซาลิบา และ กาเบรียล ลงเล่นเต็มเกมทั้งสองคน แต่วันนี้หากมองถึงความผิดพลาดแบบ “เข้าตา” พวกเขาสองคนพลาดกันไปคนละ 1-2 ครั้ง ซาลิบา อาจจะพลาดเพียงครั้งเดียว ที่กลายเป็นจังหวะเสียประตูตีเสมอจากการสกัดตัดบอลไม่ทันในจังหวะโดนแทงทะลุตรงกลาง ขณะที่ กาเบรียล พลาดในลักษณะเดียวกันถึงสองครั้ง แต่โชคดีที่เพื่อนร่วมทีมยังช่วยกันเคลียร์ได้ มองแบบเป็นกลาง ความผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกคนได้ และเมื่อวิธีการเล่นของทีมเปลี่ยนไป รวมถึงการใช้ตัวสำรองเยอะก็ส่งผลต่อการเล่นของทุกคนในทีมไม่เว้นตัวหลักที่ได้ลงมาเล่นเกมนี้ด้วย

วันนี้คู่เซนเตอร์ของปืนใหญ่เจอกับงานยุ่งยาก เพราะแนวรุกคู่แข่งวันนี้เน้นเจาะตรงกลางให้พวกเขาต้องสปีดแข่งกับกองหน้าหลายต่อหลายครั้ง เรียกได้ว่าวัดเรื่องสภาพร่างกายกันไปเลย นับเป็นงานหนักไม่น้อยสำหรับพวกเขา และน่าจะได้บทเรียนไปไม่มากก็น้อย เพราะวันนี้พวกเขาโดนท้าทายโดยตรง และเสียไปหนึ่งประตู

Patrick Van Aanholt, William Saliba
PSV v Arsenal - UEFA Champions League / Soccrates Images/GettyImages

“ดาวรุ่ง” รอโอกาสใหญ่ของ พีเอสวี

พีเอสวี นับเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่เต็มไปด้วยนักเตะรอวันแจ้งเกิดเหมือนกับอีกหลายสโมสรในลีกดัตซ์ที่มักจะมีดาวรุ่งมาเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลอาชีพกันที่นี่ เกมนี้ชื่อของ มาลิค ทิลแมน (21 ปี), โยฮัน บากาโยโก้ (20 ปี), ยอร์บ เวอร์เทสเซ่น (22 ปี), ริคาร์โด้ เปปี้ (20 ปี) หรือว่า อิสมาเอล ไซบารี่ (22 ปี) น่าจะสร้างความประทับใจให้ใครต่อใครหลายคน กับเหล่า “เด็กปั้น” จากทีมเยาวชนของพวกเขาที่ดูแล้วปีหน้าอาจได้เห็นชื่อของพวกเขาเข้าสู่ลีกใหญ่เพื่อสร้างชื่อเสียงของตนเองอย่างแน่นอน

ทีมชุดนี้ชนะ 15 เกมรวดในลีก (ชนะ 15 เสมอ 0 แพ้ 0) บ่งบอกถึงศักยภาพและคุณภาพของดาวรุ่งของพวกเขาในฤดูกาลที่พวกเขาหวังใจอย่างยิ่งกับการกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ฤดูกาล

Johan Bakayoko
PSV Eindhoven v Arsenal FC: Group B - UEFA Champions League 2023/24 / BSR Agency/GettyImages