เรอัล มาดริด 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เก็บตกประเด็นหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เรือใบสีฟ้า บุกเจ๊า ราชันชุดขาว

Real Madrid v Manchester City - UEFA Champions League
Real Madrid v Manchester City - UEFA Champions League / Anadolu Agency/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022/23 รอบรองชนะเลิศ เลกแรก
วันแข่งขัน: คืนวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2023
สนาม: ซานติอาโก้ เบร์นาเบว
ผลการแข่งขัน: เรอัล มาดริด 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้


เควิน เดอ บรอยน์ ทำประตูได้จากทุกที่

Kevin De Bruyne
Real Madrid v Manchester City FC: Semi-Final First Leg - UEFA Champions League / Eurasia Sport Images/GettyImages

นับตั้งแต่ เควิน เดอ บรอยน์ ย้ายมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2015 เขาทำประตูจากนอกกรอบไปแล้ว 39 ประตูในทุกรายการ เช่นเดียวกับที่ทำได้ในค่ำคืนนี้

ในบรรดาผู้เล่นในลีกท็อป 5 ของยุโรปในช่วงเวลานั้น มี ลิโอเนล เมสซี่ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ทำประตูจากนอกกรอบได้มากกว่า โดยหัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ยิงไปได้ถึง 72 ประตู...นี่มันเอเลี่ยนชัด ๆ!!

เดอ บรอยน์ อาจไม่ได้มีเกมที่ดีที่สุด และการจ่ายคีย์พาสของเขาก็เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เมื่อ ฮาแลนด์ โดนปิดตาย แต่ประตูของเขาสำคัญมาก ๆ เพื่อช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ได้เปรียบเมื่อต้องเล่นในบ้านสัปดาห์หน้า


แมนฯ ซิตี้ ครองเกมจนนึกว่าเป็นทีมเหย้า

Dani Carvajal, Jack Grealish
Real Madrid v Manchester City FC: Semi-Final First Leg - UEFA Champions League / Fantasista/GettyImages

มันน่าเหลือเชื่อเมื่อดูการแข่งขันในช่วง 25 นาทีแรก เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นฝ่ายครองบอลได้มากถึง 72 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่มาเยือนถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ที่น้อยทีมนักจะทำได้

ในช่วง 25 นาทีดังกล่าว แมนฯ ซิตี้ หาโอกาสยิงได้มาถึง 6 ครั้ง เมื่อเทียบกับ เรอัล มาดริด เจ้าถิ่นที่ยังส่องประตูไม่ได้เลย ทีมจากพรีเมียร์ลีกคุมเกมได้อยู่หมัดราวกับว่ามันเป็นเกมพรีเมียร์ลีกเกมนึง โดยที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยังให้ลูกทีมเล่นในระบบอินเวิร์ตฟูลแบ็ค ซึ่ง จอห์น สโตนส์ หุบเข้าแดนกลางเมื่อทีมเป็นฝ่ายครองบอล

จังหวะที่น่ากลัวที่สุดของเจ้าถิ่นในช่วงเวลาเหล่านั้นคือช็อตที่ รูเบน ดิอาส เข้าสกัดลูกครอสอันตรายของ วินิซิอุส จูเนียร์ ก่อนถึง คาริม เบนเซม่า

แม้ว่าครึ่งหลัง เรอัล มาดริด แก้เกมมาดี และสามารถหาโอกาสยิงได้มากขึ้น แต่มันเป็นสัญญาณเตือนว่าเกมหน้าที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ทีมราชันชุดขาวจะต้องเจอบททดสอบที่คล้ายกับ 25 นาทีแรกของเกมนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้แน่นอน


เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ สัมผัสบอลได้น้อยที่สุดในเหล่าบรรดานักเตะตัวจริง

Erling Haaland
Real Madrid v Manchester City FC: Semi-Final First Leg - UEFA Champions League / Eurasia Sport Images/GettyImages

ตัวอันตรายที่สุดของ เรอัล มาดริด ก่อนเกมนี้คือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก อย่างไรก็ตามหัวหอกนอร์เวย์ได้สัมผัสบอลเพียง 22 ครั้งเท่านั้น ซึ่งน้อยสุดในเหล่าผู้เล่นตัวจริงจากทั้งสองทีมในสนาม และยังน้อยกว่า เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูทีมตัวเองถึง 7 ครั้ง

แม้สัมผัสบอลได้เพียง 22 ครั้ง แต่ ฮาแลนด์ หาโอกาสยิงได้ 3 ครั้ง เข้ากรอบถึง 2 ครั้ง และยังมีค่า xG มากสุดในสนามอีกด้วยที่ 0.30 กระนั้นเขาโดน อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ ดาวิด อลาบา ปิดตาย

ไม่แปลกใจเลยที่โอกาสส่วนใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ เกมนี้มาจากการตัดเข้าในแล้วยิง หรือการหาโอกาสส่องไกลจากแถวสอง ซึ่งนำมาสู่ประตูของ เควิน เดอ บรอยน์ เราจึงหาการจ่ายบอลเข้าถึง ฮาแลนด์ ได้น้อยมาก ๆ


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คิดมากอีกแล้ว และไม่เปลี่ยนตัวสำรองลงมาเลย

Sergio Gomez, Julian Alvarez
Real Madrid v Manchester City FC: Semi-Final First Leg - UEFA Champions League / David Ramos/GettyImages

เป็นอีกครั้งที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คิดมากในเกมใหญ่ ๆ และแมตช์นี้เขาเลือกไม่เปลี่ยนตัวสำรองลงไปเลย แม้ว่ามีตัวเลือกอย่าง ฮูเลียน อัลวาเรซ, ฟิล โฟเด้น หรือแม้กระทั่ง ริยาด มาห์เรซ ที่น่าจะดีพอลงมาเปลี่ยนเกมได้

จริง ๆ แล้ว กวาร์ดิโอล่า เคยทำแบบเดียวกันในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปเสมอกับ แอร์เบ ไลป์ซิก 1-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนกลับมาถล่ม 7-0 ในเลกสอง

เซร์คิโอ อเกวโร่ ตำนานกองหน้าเรือใบสีฟ้า ยอมรับว่าเขาเองก็ยังแปลกใจที่ กวาร์โอล่า ไม่ส่ง อัลวาเรซ ลงเป็นตัวสำรอง