สเปน 2-1 ฝรั่งเศส: เก็บตกประเด็นหลังเกม ยูโร 2024 ทัพ ''กระทิงดุ'' ตีตั๋วสู่รอบชิงชนะเลิศ & ลุ้นแชมป์สมัยที่ 4
• อย่างไรก็ตาม สเปน มารัวคืนสองลูกรวดจาก ประตูสุดสวยของ ลามีน ยามาล และ ดานี่ โอลโม่
• สเปน จะเล่นรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 14 ก.ค. นี้ โดยรอพบคู่ระหว่าง อังกฤษ หรือ เนเธอร์แลนด์
• ยามาล และทัพกระทิงดุ สร้างประวัติศาสตร์
รายการ | ยูโร 2024, รอบรองชนะเลิศ |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันอังคาร ที่ 9 ก.ค. 2024 |
สนาม | ฟุตบอล อารีน่า มิวนิค |
ผลการแข่งขัน | สเปน 2-1 ฝรั่งเศส |
ยามาล สร้างประวัติศาสตร์
แจ้งเกิดเต็มตัวในศึก ยูโร 2024 สำหรับ ลามีน ยามาล ปีกสังกัด บาร์เซโลนา วัย 16 ปี ด้วยผลงาน 3 แอสซิสต์ กับอีก 1 ประตู
เขามีความนิ่ง ไร้ความกดดัน บอลจากเท้าของเขาทั้งลูกเปิดและลูกยิงอันตรายทุกครั้ง
ในเกมกับ ฝรั่งเศส เขาเปิดบอลให้ ฟาเบียน รุยซ์ ที่เติมขึ้นมาได้ลุ้นโหม่งทำประตูช่วงต้นเกม ก่อนที่เจ้าหนู ยามาล จะมายิงไกลสุดสวยแบบ ‘เวิลด์ คลาส’ ผ่าน ไมค์ เมนญอง จอมหนึบ ฝรั่งเศส เสียบสามเหลี่ยมเข้าไป ช่วยให้ทีม ''กระทิงดุ'' กลับสู่เกม
ประตูดังกล่าว ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ในศึก ยูโร รอบสุดท้าย ด้วย 16 ปี กับอีก 362 วัน
แข้งผู้ชายอายุน้อยสุดที่ยิงใน ยูโร รอบสุดท้าย
- 16 ปี, 362 วัน - ลามีน ยามาล (สเปน)
- 18 ปี, 141 วัน - โจฮาน วอนแลนเธน (สวิตเซอร์แลนด์)
- 18 ปี, 237 วัน - เวย์น รูนี่ย์ (อังกฤษ)
- 18 ปี, 317 วัน - เรนาโต้ ซานเชส (โปรตุเกส)
เท่านั้นไม่พอ ยามาล ยังกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ผลิตสกอร์ได้ในทัวร์นาเมนท์ระดับเมเจอร์ทีมชาติ (ยูโร + ฟุตบอลโลก)
- 16 ปี, 362 วัน - ลามีน ยามาล
- 17 ปี, 239 วัน - เปเล่ (บราซิล)
- 18 ปี, 93 วัน - มานูเอล โรซาส (เม็กซิโก)
- 18 ปี, 110 วัน - กาบี (สเปน)
นอกจากนี้ ยามาล ยังกลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศในทัวร์นาเมนท์ระดับเมเจอร์
ทำลายสถิติของ เปเล่ ตำนานแข้งทีมชาติบราซิลผู้ล่วงลับ ที่เคยลงเล่นรอบตัดเชือกฟุตบอลโลก 1958 ด้วยวัย 17 ปี 244 วัน
ปีที่แล้ว ยามาล ในวัย 15 ปี ลงเล่นในศึก ยูโร ยู-17 เจอกับ ฝรั่งเศส ซึ่งเขาทำประตูให้ทีมได้จากลูกยิงไกลลักษณะนี้แหละ
สเปน สร้างประวัติศาสตร์
สเปน ของ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ กลายเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ ศึก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ ยุโรป รอบสุดท้ายของผู้ชาย ที่คว้าชัยชนะได้ 6 นัดติดต่อกัน
- ชนะ โครเอเชีย 3-0
- ชนะ อิตาลี 1-0
- ชนะ แอลเบเนีย 1-0
- ชนะ จอร์เจีย 4-1
- ชนะ เยอรมนี 2-1 (ต่อเวลาพิเศษ)
- ชนะ ฝรั่งเศส 2-1
หากพวกเขาคว้าชัยในรอบชิงชนะเลิศได้ พวกเขาจะกลายเป็นชาติที่คว้าถ้วย ยูโร มากสุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งตอนนี้พวกเขาได้ 3 สมัยเท่ากับ เยอรมนี
เป็นทัวร์นาเมนท์ที่ ฝรั่งเศส ใช้โอกาสได้สิ้นเปลืองสุด ๆ
ทีมของ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ ต้องใช้เวลาถึง 513 นาที ในการยิงประตูแบบ ''โอเพ่น เพลย์'' ในศึก ยูโร 2024 จากการทำประตูของ ร็องดาล โกโล มูอานี
บทสรุปแล้ว ศึก ยูโร หนนี้ พวกเขาผลิตสกอร์ไปทั้งหมด 4 ลูก จากการลงเล่น 6 เกม แบ่งเป็น ได้ประตูจากลูกจุดโทษ 1, คู่แข่งยิงประตูตัวเอง 2 และจาก โอเพ่น เพลย์ 1
- รอบแบ่งกลุ่ม: ชนะ ออสเตรีย 1-0 (คู่แข่งยิงประตูตัวเอง)
- รอบแบ่งกลุ่ม: เสมอ เนเธอร์แลนด์ 0-0
- รอบแบ่งกลุ่ม: เสมอ โปแลนด์ 1-1 (ได้จากจุดโทษ)
- รอบ 16 ทีมสุดท้าย: ชนะ เบลเยียม 1-0 (คู่แข่งยิงประตูตัวเอง)
- รอบ 8 ทีมสุดท้าย: เสมอ โปรตุเกส 0-0 (ชนะช่วงดวลจุดโทษ)
- รอบรองชนะเลิศ: แพ้ สเปน 2-1 (ได้ประตูจาก โอเพ่น เพลย์)
นอกจากจะยิงประตูคู่แข่งได้น้อยแล้ว ขุนพล ''เลส์ เบลอส์'' ยังใช้โอกาสเปลืองอีกต่างหาก
สถิติระบุว่า พวกเขาสร้างสรรค์โอกาสลุ้นทำประตูไปทั้งหมด 98 ครั้ง มากสุดเป็นอันดับ 2 และพลาดโอกาสทองทั้งหมด 13 ครั้ง มากสุดเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ โปรตุเกส