ทีมชาติไทย 0-3 ทีมชาติเกาหลีใต้ : ประเด็นหลังเกม ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ช้างศึก พ่ายคาบ้าน
- ทีมชาติไทย สู้สุดใจแล้ว แต่ต้านทานความแข็งแกร่งของ ทีมชาติเกาหลีใต้ ไม่ไหว พ่ายคาบ้าน 3-0
- จบเกมนี้ เกาหลีใต้ แข่ง 4 นัดมี 10 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ขอชนะอีกเกมเดียวก็จะเข้ารอบต่อไปทันที
- ส่วน ไทย หลังจากแพ้เกมนี้มี 4 คะแนนเท่าเดิม แต่หล่นมาอยู่อันดับที่ 3
โดย Asree Samuyae
รายการ | ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มซี นัดที่สี่ |
---|---|
วันแข่งขัน | วันอังคารที่ 26 มีนาคม 2567 |
สนาม | ราชมังคลากีฬาสถาน |
สนามแข่งขัน | ทีมชาติไทย 0-3 ทีมชาติเกาหลีใต้ |
เวลาแข่งขัน | 19:30 น. |
ทีมชาติไทย สู้สุดใจแล้ว แต่ต้านทานความแข็งแกร่งของ ทีมชาติเกาหลีใต้ ไม่ไหว สุดท้ายพ่ายคาบ้านด้วยสกอร์ 3-0
"ช้างศึก" ออกสตาร์ทได้คึกคักคล้ายกับเกมที่แล้วแต่เจอข่าวร้ายเมื่อเสียสองผู้เล่นสำคัญอย่าง ธีราทร บุญมาทัน และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี เจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก
จบเกมนี้ เกาหลีใต้ แข่ง 4 นัดมี 10 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ขอชนะอีกเกมเดียวก็จะเข้ารอบต่อไปทันที
ส่วน ไทย หลังจากแพ้เกมนี้มี 4 คะแนนเท่าเดิม แต่หล่นมาอยู่อันดับที่ 3 เนื่องจาก จีน เปิดบ้านถล่ม สิงคโปร์ 4-1 ทำให้ จีน แซงเป็นที่ 2 มี 7 คะแนน
เอเลียส ดอเลาะ หายไปไหน?
มาซาทาดะ อิชิอิ ยังคงแผนการเล่นและตัวนักเตะจากเกมที่แล้ว โดยที่ สุพรรณ ทองสงค์ ได้รับโอกาสจับคู่เซ็นเตอร์แบ็คตัวจริงกับ พรรษา เหมวิบูลย์
แฟนบอลกังวลไม่น้อยเมื่อเห็นคู่เซ็นเตอร์แบ็ค โดยเฉพาะ สุพรรณ ที่อาจไม่ได้ตัวสูงเท่า เอเลียส ดอเลาะ ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในเวทีเอเชียน คัพ และการรับมือกับ โช กือ-ซอง หัวหอกร่างใหญ่เจ้าของส่วนสูง 188 ซม.
แฟนบอลหลายคนตั้งคำถามว่า เอเลียส ไปไหน ทั้งที่ต้องรับมือลูกกลางอากาศ โดยเกมที่แล้ว อิชิอิ ให้เหตุผลว่า สุพรรณ มีความฟิตที่ดีกว่า
เชื่อว่าเรื่องความฟิตดังกล่าวอาจโยงไปถึงช่วงเดือนรอมฎอนซึ่ง เอเลียส ที่นับถือศาสนาอิสลามต้องถือศีลอดด้วย เพราะงั้นด้วยเกมที่ต้องใช้พลังงานสูง อิชิอิ จึงเลือกใช้ สุพรรณ
อย่างไรก็ตามกองหลังจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ไม่เลวเลย ไม่ได้มีข้อผิดพลาดอะไรจนน่าเกลียด รวมถึงมีช็อตสกัดลูกยิงสำคัญของ ซอน-เฮือง มิน ช่วงต้นครึ่งแรกอีกด้วย
ชนาธิป สรงกระสินธ์ ฟอร์มตก?
แฟนบอลชาวไทยต่างตื่นเต้นกับการได้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่กลับมาฟิตเจอ เกาหลีใต้ ได้ทั้งสองนัด
อย่างไรก็ดีเพลย์เมคเกอร์จาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กลับไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งได้ ที่จริงฟอร์มเก่า ๆ เหมือนที่เคยทำได้กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร หายไปตั้งแต่ย้ายกลับมาไทยแล้ว
ที่จริง ชนาธิป เพิ่งหายเจ็บได้ไม่นานก่อนมาเจอ เกาหลีใต้ ทั้งสองนัด นั่นทำให้เขาหลายจังหวะดูเก้ ๆ กัง ๆ ฝืนเล่นไปหน่อย การเลี้ยงกินตัวจึงไม่สมูธแบบเดิม
เป็นอีกครั้งที่แข้งวัย 30 ปี โชว์ฟอร์มไม่ออก แต่นัดนี้ถูกเปลี่ยนตัวตั้งแต่นาทีที่ 65 เลย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า อิชิอิ เหลือโควตาเปลี่ยนเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เทรนเนอร์ชาวญี่ปุ่นเลยเสี่ยงส่ง ปรเมศย์ อาจวิไล ลงไปแทน
กระนั้น ปรเมศย์ เองก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างเลย มิหนำซ้ำอาจแย่กว่าตอนที่ ชนาธิป อยู่ในสนามอีกด้วย
สองแข้งสำคัญเจ็บในช่วงเวลาสำคัญ
มีความกังวลก่อนเกมว่า ธีราทร บุญมาทัน จะฟิตทันลงสนามในเกมนี้หรือไม่ หลังจากถูกเปลี่ยนตัวช่วงท้ายเกมที่แล้ว แต่แบ็คซ้ายของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็ผ่านความฟิตลงเป็นตัวจริง
ดูเหมือนว่ากัปตันทีมช้างศึกไม่เต็มร้อยจากการมีรอยพันแผลที่เจ็บ และอาการก็กำเริบจากจังหวะพยายามสกัดประตูแรกที่เสียไปจนถูกหามออกจากสนาม แล้วส่ง ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ลงไปแทน รวมถึงขยับ นิโคลัส มิคเคลสัน เล่นแบ็คซ้ายแทน
นอกจากนี้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ก็มาเจ็บอีกราย ซึ่งเสียหายไม่น้อยเลย เพราะกองกลางรายนี้สำคัญอย่างมากกับแผนของ อิชิอิ เมื่อจับคู่กับ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ แล้วลงตัวเลย
สารัช อยู่เย็น ถูกส่งลงมาแทน พีรดนย์ ซึ่งไม่ได้มีอะไรผิดพลาด แต่ก็น่าเสียดายที่แผนที่ อิชิอิ วางเอาไว้ในเกมนี้กลับมีรอยด่างพร้อยเพราะสองแข้งสำคัญกับระบบอย่าง ธีราทร และ พีรดนย์ ดันเดี้ยงไป
อายุของขุมกำลังที่มากขึ้นเรื่อย ๆ
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าห่วงสำหรับ ไทย เพราะเมื่อดูขุมกำลังชุดปัจจุบันจาก 23 รายชื่อแล้วมีค่าเฉลี่ยสูงถึง 28.3 ปี โดยเฉพาะพวกอายุเข้าเลขสามมีถึง 9 เลยทีเดียว
ธีราทร บุญมาทัน พี่ใหญ่สุดของทีมอายุ 34 ปี และตำแหน่งแบ็คซ้ายของเขายังหาตัวแทนไม่ได้เลย ขณะที่อายุน้อยสุดคือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ในวัย 21 ปี
ที่น่าสังเกตคือ ศุภณัฏฐ์ คือแข้งรายเดียวที่อายุต่ำกว่า 23 ปี เพราะนอกนั้นคือมากกว่าทั้งหมด แต่ยังดีที่ นิโคลัส มิคเคลสัน ที่น่าจะยึดแบ็คขวาไปอีกนาน อายุเพิ่งจะ 24 ปีเท่านั้น
กระนั้นเมื่อมองภาพระยะยาวถือเป็นจุดที่ ไทย ต้องตามไปแก้กันต่อไป เมื่อ ไทย ลีก ตอนนี้มีพวกต่างชาติเป็นตัวแบกหลายทีม และนั่นก็ส่งผลต่อพัฒนาการของแข้งไทยอายุน้อยได้เหมือนกัน
ฟุตบอลไทย ฟีเวอร์
หลังจากบุกเสมอ เกาหลีใต้ 1-1 ในเกมที่แล้ว กระแสฟุตบอลไทยก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง จนทำให้ตั๋วขายเกลี้ยงเลย
บรรดาเหล่าดาราคนดังหลายคนที่ที่เช็คอินเข้ามาชมเกมถึงในสนาม และที่ถูกพูดถึงมากสุดก็คงหนีไม่พ้น ลิซ่า แบล็คพิงค์ ที่เดินทางมาให้กำลังใจด้วย เช่นเดียวกับ ท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน, "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ "คุณต๊อบ" อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้
มีการเปิดเผยยอดผู้ชมในสนามเกมนี้สูงถึง 45,458 คน แต่น่าเสียดายที่ผลสกอร์กลับไม่เป็นใจ