ทีมชาติเยอรมนี 1-1 ทีมชาติอังกฤษ: ประเด็นหลังเกม ยูฟ่า เนชั่นลีก 2022, ตัดเกรดนักเตะ-คีย์แมน
การแข่งขัน: ยูฟ่า เนชั่นลีก 2022
วันแข่งขัน: คืนวันอังคารที่ 7 มิถุนายน 2022
เวลาแข่งขัน: 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: ทีมชาติเยอรมนี 1-1 ทีมชาติอังกฤษ
สนาม: อัลลิอันซ์ อารีนา
อังกฤษ บุกมายันเสมอ เยอรมนี ได้อย่างหวุดหวิด 1-1 โดยเป็นเจ้าบ้านที่ออกนำก่อนในนาทีที่ 50 จาก โยนาส ฮอฟแมนน์ ก่อนที่ แฮร์รี เคน จะมายิงตีเสมอจากลูกจุดโทษในนาทีที่ 88 ทำให้ต้องแบ่งแต้มกันไปในที่สุด
เริ่มเกมมาเป็นเจ้าบ้านที่ได้ทักทายก่อนจาก ไค ฮาเวิร์ตซ์ แต่ยังไปตรงตัวของ พิคฟอร์ด ตั้งแต่นาทีแรกของเกมการแข่งขัน
นาทีที่ 7 เคน ลองส่งไกล แต่ก็ไปตรงตัวของ นอยเออร์ เช่นเดียวกัน
นาทีที่ 23 โยนาส ฮอฟแมนน์ หลุดเดี่ยวก่อนยิงสวนตัว พิคฟอร์ด เข้าไป แต่สุดท้ายถูกจับเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
หลังจากนั้น 3 นาที เคน ได้ลูกส้มหล่นในกรอบเขตโทษ แต่กลับยิงเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บต่างฝ่ายต่างมีลุ้นโดยฝั่งเจ้าถิ่น จามาล มูเซียลา ได้วอลเล่ในกรอบเขตโทษ แต่ พิคฟอร์ด ยังรับเอาไว้ได้ ส่วนทีมเยือนได้ลุ้นจากสองโอกาสยิงติด ๆ กันของ บูกาโย ซาก้า แต่ก็ทำได้แค่เกือบเท่านั้น
ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0
เริ่มครึ่งเวลาหลังไปได้เพียง 5 นาที เยอรมนี ออกนำก่อนจากจังหวะที่ คิมมิช จ่ายทะลุเข้าเขตโทษให้ ฮอฟแมนน์ ได้ยิงโล่ง ๆ แม้ พิคฟอร์ด จะปัดเอาไว้ได้ แต่ด้วยความแรงทำให้บอลปลิ้นเข้าประตูไป
2 นาทีต่อจากนั้น เมานท์ ลองส่องไกลนอกกรอบ แต่ นอยเออร์ ยังซุเปอร์เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 71 มึลเลอร์ ได้ยิงโล่ง ๆ ในกรอบเขตโทษ แต่ พิคฟอร์ด ยังซุเปอร์เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 76 อังกฤษ ได้โอกาสทองจากจังหวะชาร์จจ่อ ๆ ที่เสาสองของ เคน แต่เป็นอีกครั้งที่ นอยเออร์ ยังพุ่งตามมาบล็อคออกไปได้
นาทีที่ 88 ทีมเยือนมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เคน โดนสะกัดล้มลงในกรอบเขตโทษก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปไม่พลาด
และจบ 90 นาที เยอรมนี เปิดบ้านเสมอกับ อังกฤษ ไป 1-1
คะแนนนักเตะทั้งสองทีม
เยอรมนี
11 ตัวจริง: นอยเออร์ (7), คลอสเตอมันน์ (7), รือดิเกอร์ (7), ชล็อตเตอร์เบ็ค (7), ฮอฟแมนน์ (8), รุม (7), กุนโดกัน (7), คิมมิช (8), มูเซียลา (7), มึลเลอร์ (6), ฮาเวิร์ตซ์ (6)
ตัวสำรอง: กนาบรี้ (6), แวร์เนอร์ (6), กอเรตซ์ก้า (6), ซาเน (6)
อังกฤษ
11 ตัวจริง: พิคฟอร์ด (7), สโตนส์ (6), แมคไกวร์ (6), ทริปเปียร์ (6), วอลเกอร์ (7), ฟิลลิปส์ (5), ไรซ์ (7), เมานท์ (6), ซาก้า (7), สเตอร์ลิง (6), เคน (7)
ตัวสำรอง: เบลลิงแฮม (7), กรีลิช (7), โบเวน (7)
คีย์แมน - โยนาส ฮอฟแมนน์
อันที่จริงการจะเลือกนักเตะสักคนในทีมเยอรมนีที่วันนี้เล่นได้เหนือกว่ามาสักคนถือเป็นเรื่องที่ยาก เพราะตลอด 90 นาทีพวกเขาครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจน แถมยังเล่นด้วยความมีระเบียบและทีมเวิร์คแม้จะใช้ผู้เล่นชุดผสมลงสนามก็ตาม แต่ถ้าให้จิ้มมาสักคนขอเลือกเป็น โยนาส ฮอฟแมนน์ แบ็คขวาจอมบุกจาก โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ที่วันนี้วิ่งพล่านไปทั่วสนามจนมีส่วนสำคัญในหลายจังหวะในเกมรุก แถมยังหาพื้นที่จบสกอร์ได้ดีจนยิงเข้าไปแล้วถึงสองครั้งและเป็นหนึ่งประตู น่าเสียดายที่ประตูในครึ่งแรกที่เจ้าตัวส่งบอลสู่ก้นตาข่ายถูกจับเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อน
ประเด็นหลังเกม
เคน กับสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดการทีมชาติอังกฤษ
1 ประตูจากจุดโทษในค่ำคืนนี้ส่งผลให้ แฮร์รี เคน ยิงให้กับทีมชาติอังกฤษไปแล้ว 50 ประตูแซงหน้า เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ที่ทำไว้ 49 ประตูขึ้นเป็นดาวเตะที่ทำประตูมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 แต่เพียงผู้เดียว เป็นรองเพียง เวย์น รูนีย์ ที่ทำไว้ 53 ประตูเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าถ้า เคน ไม่ขาขาดหรือสมองเสื่อมไปเสียก่อนยังไงเขาก็ไม่น่าพลาดที่จะขึ้นแท่นกลายเป็นเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลคนใหม่ของ ทัพทรีไลออน ได้อย่างแน่นอน เหลือเพียงแค่รอเวลาเท่านั้น...
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด