เวสต์แฮม 3-1 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม คาราบาว คัพ ค้อนทุบปืนแตกยับเมื่อคืนที่ผ่านมา
- เวสต์แฮม เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- อาร์เซนอล ยังคงต้องรอคอยการคว้าแชมป์รายการนี้ต่อไปเป็นปีที่ 31
รายการแข่งขัน : คาราบาว คัพ รอบที่ 4
วันแข่งขัน :วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน 2023
สนามแข่งขัน :ลอนดอน สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน :เวสต์แฮม 3-1 อาร์เซนอล
“ลอนดอน ดาร์บี้” ที่กลายเป็น เวสต์แฮม เปิดบ้านถล่มอาร์เซนอลไปแบบหมดรูป 3-1 ในเกมที่พวกเขาครองบอลน้อยกว่า สร้างโอกาสได้น้อยกว่า แต่กลายเป็นผู้กำชัยแบบเด็ดขาด
ประตูแรกของเกมนี้ เกิดจากจังหวะความผิดพลาดของ เบน ไวท์ แนวรับทีมเยือนที่พยายามโหม่งสกัดบอลจากลูกเตะมุม กลายเป็นโหม่งเข้าประตูตัวเองเข้าไปเลย และทำให้เกมนี้ทีมเยือนเจอกับความยากลำบากในการเล่น แม้ว่าจะสามารถสร้างโอกาสในการเข้าทำได้มากกว่า แต่กลับไม่สามารถหาจังหวะจะแจ้งได้มากพอที่จะกลายเป็นประตู ก่อนที่ครึ่งหลังพวกเขาจะมาบวกได้อีกสองประตูจาก โมฮาเหม็ด คูดุส และ จาร์ร็อด โบเว่น ขณะที่ อาร์เซนอล ฟอร์มหลุดอย่างน่าเกลียด มาได้ประตูปลอบใจในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก มาร์ติน เออเดการ์ด ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในเกมนี้
คะแนนนักเตะ อาร์เซนอล
อาร์เซนอล : อารอน แรมสเดล (5/10) / เบน ไวท์ (5/10) / ยาคุบ คิวิออร์ (5/10) / กาเบรียล (5/10) / โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (5/10) / จอร์จินโญ่ (5/10) / ไค ฮาแวตซ์ (4/10) / ฟาบิโอ วิเอร่า (4/10) / รีส เนลสัน (4/10) / เลอันโดร ทรอตซาร์ (5/10) / เอ็ดดี้ เอนเคเธีย (4/10)
สำรอง : ดีแคลน ไรซ์ (5/10) / ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ (5/10) / กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (4/10) / บูคาโย่ ซาก้า (4/10) / มาร์ติน เออเดการ์ด (5/10)
ประเด็นหลังเกม
ตัวสำรอง - ความเข้าใจเกม และ โมเมนตัมของเกม
กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับรายการนี้ที่เราจะได้เห็นการหมุนเวียนทีมในแต่ละทีม เมื่อคุณลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก และมีเกมฟุตบอลยุโรปรออยู่ การเลือกพักนักเตะคนสำคัญในรายการนี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพื่อโอกาสสำหรับตัวสำรองในการลงสนาม เพื่อตัวจริงจะได้พัก รายการที่สำคัญน้อยที่สุดมักเป็นเช่นนั้น และเกมนี้ทั้งสองทีมต่างมีทีมชุดผสมลงสนาม แต่ผลที่ออกมาคือ ความเข้ากันได้ของทีม เป็นเจ้าบ้านที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า
ทั้งสองทีมใช้นักเตะสำรองลงสนามมา ซึ่งที่จะเกิดขึ้นในทุกเกมแบบนี้คือเรื่อของ “ความเข้าใจเกม” ของแต่ละทีมจะเป็นอย่างไร ซึ่งวันนี้ นักเตะเวสต์แฮม ทำตรงนี้ได้ดีกว่า ยิ่งพวกเขาได้ประตูแรกของเกมซึ่งเป็นประตูสำคัญยิ่งของเกมจากจังหวะทำเข้าประตูตัวเอง และทำให้รูปเกม “เข้าทาง” พวกเขา ในแบบที่พวกเขาครองบอลน้อยกว่า และไม่มีโอกาสยิงเข้ากรอบเลยใน 45 นาทีแรก
ตรงกันข้ามกับ 45 นาทีหลัง เจ้าบ้านดึง “โมเมนตัม” ของเกมไว้ได้ทั้งหมด พวกเขาได้ประตูที่สองแบบถูกเวลา กับความยอดเยี่ยมของ คูดุส ที่จับบอลจากการโยนยาวของเพื่อนร่วมทีมและยิงประตูสำคัญตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ก่อนจะมาบวกได้อีกประตูในอีก 10 นาทีต่อมาจากความยอดเยี่ยมของ จาร์ร็อด โบเว่น ที่มีโชคนิด ๆ กับบอลแฉลบแนวรับเปลี่ยนทางเล็กน้อย และกลายเป็นประตู
การนำห่าง 3-0 ของเจ้าบ้าน พวกเขาไม่จำเป็นต้องเร่งเกมอะไรมาก เล่นไปตามจังหวะของเกม และรอให้ อาร์เซนอล เดินหน้าเข้าหาอย่างเดียว
สิ่งที่ อาร์เซนอล พลาดที่สุดพวกเขาคือเรื่องของการสร้างโอกาสในพื้นที่สุดท้าย พวกเขาครองเกมได้เยอะมาก ตอนจบเกมพวกเขาครองบอลได้ถึง 70 % แต่ส่วนมากมันเกิดในพื้นที่ไม่อันตราย ขณะที่ในพื้นที่สุดท้าย พวกเขานอกจากจะคิดช้าทำช้าแล้ว ยังเล่นกันพลาดเองอีกต่างหาก และนำมาซึ่งความพ่ายแพ้
ประตูเดียวที่อาร์เซนอลทำได้เกิดขึ้นในช่วงนาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ เรียกว่าประตูปลอบใจที่ทำให้ นักเตะ ในทีมยังพอพูดได้ว่าสิ่งที่พยายาม (แล้วพลาดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง) มันประสบความสำเร็จกับเขาบ้างในเกมนี้ ที่พวกเขาสิ้นสุดรายการนี้ไว้เพียงเท่านี้
คาราบาว คัพ อาจไม่ใช่รายการเป้าหมายหลักของหลายทีม แต่ก็พอจะทำให้ได้เห็นว่า สโมสรในพรีเมียร์ ลีก ยุคนี้ มีความใกล้เคียงกันมากขึ้น ถ้าเล่นไม่ดีพอก็อย่าหวังว่าจะรอดตัวไปได้แบบที่ทัพปืนใหญ่ต้องแตกพ่ายไปในเกมนี้