วูล์ฟส์ 1-2 ลิเวอร์พูล : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัดหงส์แดง บุกสยบหมาป่าถึงรัง แซงขึ้นรั้งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก
• แม้จะเจอปัญหาอยู่บ้าง แต่ ลิเวอร์พูล ยังคว่ำ วูล์ฟส์ ลงได้ 2-1
• และนี่คือหลายๆ สิ่งที่พอมองเห็นได้จากเกม พรีเมียร์ลีก แมตช์นี้
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2024/25
วันแข่งขัน: เสาร์ 28 กันยายน 2567
สนาม: โมลีนิวซ์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : วูล์ฟส์ 1-2 ลิเวอร์พูล
หงส์กับหมาป่า
แน่อยู่แล้วว่าด้วยชื่อชั้นก็ดี ด้วยผลงานก็ดี ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเจ้าถิ่นอย่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส อยู่ชัดเจน
เพียงแต่สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ นักเตะ ลิเวอร์พูล ผ่านศึกหนักมามากกว่าฝั่ง วูล์ฟส์ เยอะ
ไหนจะ พรีเมียร์ลีก
ไหนจะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ไหนจะ คาราบาว คัพ
ไหนจะคิวทีมชาติ ที่ทำให้แต่ละคนไม่ได้พักได้ผ่อนเต็มที่ ตั้งแต่ซีซั่นก่อน มา ยูโร / โคปา อเมริกา และมาจนตอนต้นซีซั่นใหม่นี้
นอกเหนือจากนั้น ในการเจอกัน 2 ซีซั่นหลัง แม้ ลิเวอร์พูล จะข่มชัด แต่ก็ใช่ว่าจะ 100%
- 2022/23
เอฟเอ คัพ : ลิเวอร์พูล 2-2 วูล์ฟส์
เอฟเอ คัพ : วูล์ฟส์ 0-2 ลิเวอร์พูล
พรีเมียร์ลีก : วูล์ฟส์ 3-0 ลิเวอร์พูล
พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล 2-0 วูล์ฟส์
- 2023/24
พรีเมียร์ลีก : วูล์ฟส์ 1-3 ลิเวอร์พูล
พรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล 2-0 วูล์ฟส์
ดังนั้นเมื่อหลายๆ อย่างบวกกัน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกที่ ลิเวอร์พูล จะเจอเกม "ไม่ง่าย" ที่นี่
ขึ้นสุดลงสุด
ถัดจาก 45 นาทีแรกที่คู่คี่สูสี ลิเวอร์พูล ไม่ได้ครองเกมเหนือกว่า วูล์ฟส์ มากมายนัก
45+2 ดีโอโก้ โชต้า กระชากหนีตัวประกบขึ้นทางซ้าย ก่อนสาดเข้าใน ตรงนั้นมี อิบราฮิมา โกนาเต้ ทิ่มโขกเปรี้ยงไม่เหลือ เบิกสกอร์นำ 1-0 ให้หงส์แดง
กระนั้นในครึ่งหลัง เล่นไปได้แค่ราวๆ สิบนาที โกนาเต้ ก็ทำพลาดอย่างหนัก กับการพยายามบังบอลเพื่อให้ถึงมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ปรากฏในเสี้ยววินาทีนั้นโดน ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซ่น เบียดเอาชนะจากข้างหลัง จิ้มบอลกลับเข้าตรงกลาง สุดท้ายเสร็จ รายัน เอต-นูรี่ สำเร็จโทษตี 1-1
ขึ้นสุดด้วยการโขกพังประตู ลงสุดด้วยการทำเสีย
แต่ถ้า ลิเวอร์พูล ชนะไม่ได้ในวันนี้ โกนาเต้ โดนเละแน่
รุกร้อนแรง
ลิเวอร์พูล เอาตัวรอดจากวันนี้ ด้วยจุดโทษที่ ดีโอโก้ โชต้า โดนเหนี่ยวล้ม และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เช็คบิลผ่านมือ แซม จอห์นสโตน ไม่พลาด
เป็นหนึ่งประตูที่มาต่อเนื่อง หลังเมื่อกลางสัปดาห์เพิ่งลงสำรองไปสังหาร เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หนึ่งเม็ดในชัยชนะขาดลอย 5-1
และจากการลงสนาม 8 นัดในทุกรายการของซีซั่นนี้ บังโม จัดให้แล้วถึง 5 ประตู
ที่น่าสนใจกว่านั้น คือแนวรุกหงส์ "แต่ละคน" ก็ล้วนแต่มีผลงานจับต้องได้ทั้งสิ้น
- โม ซาลาห์ - 5 ประตู 4 แอสซิสต์
หลุยส์ ดิอาซ - 5 ประตู 1 แอสซิสต์
ดีโอโก้ โชต้า - 3 ประตู 1 แอสซิสต์
โคดี้ กัคโป - 2 ประตู 1 แอสซิสต์
ดาร์วิน นูนเยซ - 1 ประตู 1 แอสซิสต์
เฟเดริโก้ เคียซ่า - 0 ประตู 1 แอสซิสต์
หลังรุ่งริ่ง
น่าสนใจคือแนวรุกหงส์ "แต่ละคน" ล้วนแต่มีผลงานจับต้องได้ทั้งสิ้น
และน่าสนใจไปอีกว่า ในขณะเดียวกัน หลังบ้านของหงส์นั้น... อืม... เสียเยอะพอสมควรนะ
อาจเริ่มต้น 3 เกมแรกของ พรีเมียร์ลีก ได้ดีเลิศด้วยการชนะรวดแบบไม่เสียประตู
แต่ว่าหลังจากนั้น
- แพ้ ฟอเรสต์ 0-1
ชนะ มิลาน 3-1
ชนะ บอร์นมัธ 3-0
ชนะ เวสต์แฮม 5-1
ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1
5 นัดหลัง อาจสร้างความต่อเนื่องด้วยการชนะ 4 นัดรวด
แต่ 4 จาก 5 นัดนั้น ก็โดนเจาะเกมละเม็ดมาตลอด
ณ ตอนนี้อาจยังไม่ส่งผลเสีย (นอกจากที่แพ้เจ้าป่าคาบ้าน) แต่ในระยะยาว ถ้ายังโดน "นัดละเม็ด" แบบนี้อยู่ต่อไป
ไม่น่าใช่เรื่องดี
คนที่ใช่
8 นัดในทุกรายการของซีซั่นใหม่ผ่านไป ลิเวอร์พูล ชนะ 7 แพ้ 1
ชัดเจนว่า อาร์เน่อ สล็อต สอบผ่านฉลุย
ชนะ 7 จาก 8 เกม แม้ยังพอมีริ้วรอยที่การเสียนัดละเม็ดในช่วงหลัง แต่ก็เอาตัวรอดมาได้เกือบทั้งสิ้น
ที่้ต้องขีดเส้นใต้ก็คือ สล็อต แทบไม่ได้ปรับทีมอะไรจากช่วงเวลาของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เลย
ทีมเป็นหน้าเก่าทั้งหมด เพิ่ม เฟเดริโก้ เคียซ่า มาตัวเดียวบนม้านั่งสำรอง กับมอบบทบาทใหม่ให้ ไรอัน กราเฟนแบร์ก เป็น Deep-Lying Playmaker
คงเพราะคนที่ใช่ ไม่ต้องพยายามมากมาย
ณ ตรงนี้อาจยังไม่เห็นคำตอบชัด แต่รูปทรง ทิศทาง และผลงานจนถึงตอนนี้ ล้วนแต่บ่งชี้ไปว่า ลิเวอร์พูล จะไม่แกว่งไกวแม้อยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน
ใช่หรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ สักสิ้นปีค่อยเคาะกันอีกที