วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-6 เชลซี : เก็บตกประเด็นหลังเกม สิงบลูส์ บุกกระซวก หมาป่า คาถิ่น เก็บชัยชนะแรก พรีเมียร์ลีก

แข้ง เชลซี พาเดือดตั้งแต่เริ่มเกม

หลายคนคงพอเห็นข่าวมาบ้างว่าก่อนเริ่มเกมแข้ง เชลซี อย่าง โนนี่ มาดูอาเก้ ทำการโพสต์ข้อความลงใน อินสตาแกรม โดยมีใจความว่า "ทุกอย่างที่นี่มันโคตรห่วยเลยว่ะ" พร้อมแท็กเมือง วูล์ฟแฮมป์ตัน ก่อนจะลบออกไปในภายหลัง แต่ก็ไม่วายถูกเซฟไว้ทันจนเป็นประเด็นเดือดสร้างความไม่พอใจให้แฟนบอล วูล์ฟฯ เป็นอย่างมาก โดยที่ มาดูอาเก้ ก็มีชื่อลงเล่นเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในวันนี้

ตั้งแต่สัมผัสแรกที่ มาดูอาเก้ ได้บอล เสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ดังต้อนรับทั่ว โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ระงม ก่อนที่ นิโคลัส แจ็คสัน จะมาโขกประตูขึ้นนำให้ เชลซี ได้ตั้งแต่นาทีที่ 2 เพิ่มดีกรีความเดือดระอุไปอีกระดับโดยที่ดาวเตะชาว เซเนกัล ไปแสดงทีท่ายียวนเจ้าถิ่นจนทำให้ผู้เล่น วูล์ฟแฮมป์ตัน อย่าง มาเตอุส คุนญ่า วิ่งเข้ามาจะเอาเรื่องก่อนจะโดนจับแยก

หลังจากนั้นในนาที่ 27 เป็นทีของ คุนญ่า ซัดประตูตีเสมอบ้าง ซึ่งดาวเตะชาว บราซิล ก็ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปฟาดปากกับ แจ็คสัน อีกรอบจนลำบากเพื่อนร่วมทีมต้องวิ่งเข้ามาห้ามกันอีก และตลอดทั้งเกมผู้เล่นของทั้งสองทีมก็อัดกันหนักหน่วงไม่เกรงใจใครจนสุดท้ายเป็น มอยเซส ไกเซโด้ ที่ต้องสังเวยไปด้วยอาการบาดเจ็บในช่วงท้ายเกม ซึ่งต้องตามข่าวกันอีกทีว่าหนักเบาเพียงใด

อันที่จริงแม้จะพอเข้าใจได้ว่าผู้เล่น เชลซี ชุดนี้มีความเลือดร้อนตามแบบฉบับวัยรุ่น แต่หากพวกเขาอยากจะก้าวขึ้นไปเป็นนักเตะระดับโลก การระงับอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะนอกจากจะเรียกใบเหลืองให้ตนเองโดยไม่จำเป็น ยังมักจะสร้างความลำบากให้เพื่อนร่วมทีมอีกด้วย ยิ่งในเกมใหญ่พวกเขายิ่งต้องควบคุมสติให้ดี

โนนี่ มาดูอาเก้ องค์ลงซัด แฮตทริก

หลังระเบิดฟอร์มโหดหน้าแป้นพิมพ์ไปแล้ว โนนี่ มาดูอาเก้ ตอบแทนความไว้วางใจของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ด้วยการซัดไปคนเดียว 3 ประตูในเกมวันนี้ โดยแม้ปีกขวาชาว อังกฤษ จะได้รับเสียงโห่จากแฟนบอลเจ้าถิ่นทุกครั้งที่มีโอกาสสัมผัสบอล แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้โชว์ความผิดพลาดให้เห็นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ซ้ำยังสามารถเล่นได้อย่างโดดเด่น ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเอาชนะ รายัน เอต-นูรี และบรรดาแนวรับทีมเจ้าถิ่นได้หลายครั้งหลายหน

มาดูอาเก้ หาโอกาสสับไกให้ตนเองได้มากถึง 6 ครั้ง (มากที่สุดในเกม) เป็นโอกาสตรงกรอบ 5 ครั้งและเปลี่ยนเป็นประตูได้ 3 ลูก แถมยังสร้างสรรค์โอกาสทองให้เพื่อนได้อีก 1 ครั้งด้วย ทำให้สถานการณ์การแข่งขันแย่งตำแหน่งปีกขวาภายในทีม เชลซี ตอนนี้ หากไม่นับรวม โคล พาลเมอร์ ที่สามารถหุบเข้าไปเล่นตรงกลางได้ มาดูอาเก้ ดูเป็นต่อคนอื่นมากที่สุด และหากนับรวมฟอร์มในช่วงปรีซีซันเข้าไปด้วย ดาวเตะชาว อังกฤษ ทำไปแล้วถึง 7 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์

ท่ามกลางข่าวหนาหูว่า เชลซี ต้องการปล่อยนักเตะรายนี้ออกไปในช่วงซัมเมอร์ บางที 'เสี่ยท็อดด์' และผองเพื่อนอาจต้องเก็บ มาดูอาเก้ เข้ากรุไว้ใช้งานเองเสียแล้ว

โคล พาลเมอร์ 'เวิร์ลคลาส'

หลังฟอร์มตกไปในช่วง 2 เกมแรกของซีซัน โคล พาลเมอร์ ถูกส่งลงเล่นในตำแหน่ง กองกลางตัวรุก อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลให้ 'เดอะหนาวเหน็บ' รีดศักยภาพทางฝีเท้าของตนเองออกมาได้เต็มรูปแบบ โดยวันนี้การเล่นของ พาลเมอร์ ที่เปรียบเสมือนหัวใจในเกมรุก เชลซี ใกล้เคียงคำว่าไร้ที่ติสุด ๆ ไปเลย

เริ่มต้นด้วยประตูแรกที่ พาลเมอร์ เป็นคนเปิดลูกเตะมุม แม้จะไม่ได้เข้าหัวผู้เล่น เชลซี เต็ม ๆ แต่ก็มีส่วนทำให้ แจ็คสัน ยิงประตูขึ้นนำได้เร็ว จากนั้น พาลเมอร์ ก็มาใส่สกอร์เองแบบสุดสวยจากการตักบอลข้ามหัว โจเซ่ ซา เข้าประตูไปด้วยเท้าซ้ายชั่งทอง

ในครึ่งหลัง พาลเมอร์ ยิ่งโหดเข้าไปใหญ่ ด้วยการเอาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ว่างเพื่อรับบอลจากเพื่อนและเปลี่ยนจังหวะเหล่านั้นให้กลายเป็นบอลอันตรายเข้ากรอบเขตโทษคู่ต่อสู้ ซึ่งไฮไลท์หลักคือการที่ พาลเมอร์ ถวายพานให้ โนนี่ มาดูอาเก้ ซัดแฮตทริกเข้าไปอย่างงดงาม โดยที่แข้งจอมทัพ เชลซี เหมาแอสซิสต์คนเดียวไปถึง 3 ลูก แถมยังมีจังหวะซัดชนเสาไปอีก 1 ครั้งด้วย

เท่านั้นไม่พอ พาลเมอร์ ยังเป็นจุดเริ่มต้นรับบอลจาก เอ็นโซ่ แฟร์นันเดซ ถ่ายเทไปให้ เปโดร เนโต้ ก่อนจะไปจบที่ เจา เฟลิกซ์ ซัดประตูที่ 6 ของทีมได้สำเร็จ ตอกย้ำว่านาทีนี้ เชลซี ขาดชายชื่อ โคล พาลเมอร์ไปไม่ได้เด็ดขาด

2 แข้งใหม่โชว์ผลงาน พาแฟน เชลซี ฟินสุด ๆ

นอกจากผลการแข่งขันที่น่าพึงพอใจและชัยชนะแรกใน พรีเมียร์ลีก ที่ เชลซี เก็บได้ สิ่งหนึ่งที่ทำให้แฟนบอล สิงห์บลูส์ นอนหลับฝันดีเข้าไปใหญ่คือการที่สองแข้งป้ายแดงอย่าง เปโดร เนโต้ และ เจา เฟลิกซ์ โชว์ผลงานเรียกความมั่นใจได้ด้วย

สำหรับ เปโดร เนโต้ แม้จะกลับมาเจอทีมเก่าหลังโยกย้ายไป สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้ไม่นาน แต่เมื่อลงสนาม เนโต้ ไม่แสดงที่ท่าความเป็นมิตรต่อทีมเก่าออกมาให้เห็นเลย โดยตั้งแต่ลงมาแทน มิไคโล มูดริก ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก เนโต้ แสดงลีลากระชากลากเลื้อยหลบผู้เล่น วูล์ฟแฮมป์ตัน ให้เห็นอยู่หลายครั้ง และสามารถเก็บ แอสซิสต์ไปได้ 1 ลูกด้วย เรียกได้ว่าส่อแววคุ้มค่าตัว 54 ล้านปอนด์ที่ เชลซี จ่ายไปสุด ๆ

ส่วนทางด้าน เจา เฟลิกซ์ ที่ได้รับโอกาสลงสนามเดบิวต์หนที่สองจากม้านั่งสำรอง แม้จะสัมผัสบอลไปเพียง 18 ครั้งตลอดทั้งเกม แต่ก็หาโอกาสสับไกไปได้ถึง 2 ครั้ง และยังเปลี่ยนหนึ่งในนั้นให้เป็นประตูได้อีกด้วย ส่วนในเรื่องการทำเกมรุก เฟลิกซ์ มีไหวพริบขยับตัวเองไปหาพื้นที่ว่างได้ดี เหลือแต่เพียงปรับจูนจังหวะให้เข้ากับเพื่อนร่วมทีมเท่านั้น

ในเมื่อแข้งตัวรุกพากันเล่นดีกันขนาดนี้ สถานการณ์การแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงในทีม เชลซี ซีซันนี้เข้มข้นแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม เชลซี ได้ที่นี่