เซนิต 3-3 เชลซี: เก็บตกประเด็นสำคัญหลังเกม แชมเปี้ยนส์ลีก สิงห์บลู บุกแบ่งแต้มชวดแชมป์กลุ่ม
การแข่งขัน: ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
วันแข่งขัน: คืนวันพุธที่ 08 ธันวาคม 2021
เวลาแข่งขัน: 00.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: เซนิต 3-3 เชลซี
สนาม: กาซปรอม อารีนา
เชลซี บุกมาทำได้เพียงเสมอกับ เซนิต 3-3 โดยทีมเยือนออกนำก่อนจาก ติโม แวร์เนอร์ ในนาทีที่ 2 หลังจากนั้นเจ้าบ้านมายิงสองลูกรวดจาก คลาดินโญ นาทีที่ 38 และ ซาร์ดาร์ อัซมูน นาทีที่ 41 ช่วงครึ่งเวลาหลัง เชลซี มายิงสองประตูคืนจาก โรเมลู ลูกากู นาทีที่ 62 และ แวร์เนอร์ นาทีที่ 85 กระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 ออซโดเยฟ มายิงตีเสมอ 3-3 ช่วยให้เจ้าถิ่นแบ่งแต้มไปได้แบบสุดมันส์ พร้อมส่ง สิงห์บลู เข้ารอบไปเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม
เริ่มครึ่งเวลาแรกได้เพียง 2 นาที ทีมเยือนบุกมานำเร็วจากจังหวะที่ คริสเตนเซน โขกลูกเตะมุมมาเข้าทาง แวร์เนอร์ ยิงจ่อ ๆ เข้าไป
หลังจากนั้นเป็นเจ้าบ้านที่พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่ แต่ก็ยังเจาะเข้าสู่พื้นที่อันตรายไม่ได้
นาทีที่ 25 มัลคอม ได้โอกาสหลุดเดียว แต่ยังยิงไปติดเซฟของ เคปา
หนึ่งนาทีต่อมา อัซมูน ได้โขกในกรอบเขตโทษแต่บอลหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 33 ลูกากู หลุดเข้าเขตโทษก่อนเปิดมาให้ เมานท์ ที่เสาสอง แต่ยังยิงไปติด เคอร์ซาคอฟ
นาทีที่ 38 เซนิต ตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะเปิดของ ซานโตส มาให้ คลาดินโญ โขกจ่อ ๆ เข้าประตูไป
นาทีที่ 41 เจ้าบ้าน แซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ มัลคอม แทงให้ อัซมูน หลุดเดี่ยวก่อนล็อคหลบ เคปา และยิงง่าย ๆ เข้าไป
2 นาทีต่อมา อัซมูน หลุดเดี่ยวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ เคปา ยังเซฟเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
ทำให้จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นออกนำ 2-1
เริ่ม 45 นาทีหลัง ต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุก
นาทีที่ 51 มัลคอม ได้ปั่นด้วยซ้าย แต่ เคปา ยังปัดออกไปได้
หลังจากนั้นหนึ่งนาที บาร์คลีย์ ลองส่องไกล บอลไปเข้ามือของ เคอร์ซาคอฟ
นาทีที่ 54 ซาอูล ได้กดด้วยซ้าย ไปติดเซฟของ เคอร์ซาคอฟ อีกครั้ง
นาทีที่ 62 เชลซี ตีเสมอเป็น 2-2 จากจังหวะที่ แวร์เนอร์ ทำชิ่งเข้ากรอบเขตโทษก่อนตบเข้ากลางให้ ลูกากู ยิงง่าย ๆ เข้าไป
นาทีที่ 70 อัซมูน ได้โขกเหน่ง ๆ แต่ เคปา ยังซุเปอร์เซฟเอาไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
นาทีที่ 83 แวร์เนอร์ ได้โขกในกรอบ แต่บอลเบาไปเข้ามือ เคอร์ซาคอฟ
2 นาทีต่อมา เชลซี มาได้ประตูออกนำ 2-3 จากจังหวะต่อบอลหน้ากรอบก่อน ฮาเวิร์ตซ์ จะจ่ายเข้าเขตโทษให้ แวร์เนอร์ ล็อคหนึ่งจังหวะก่อนซัดผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างเฉียบขาด
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เซนิต มาตีเสมอเป็น 3-3 จากจังหวะวอลเล่นอกกรอบของ ออซโดเยฟ บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างงดงาม
ทำให้จบเกม เสมอกันไปอย่างสุดมันส์ 3-3 ส่งผลให้ เชลซี เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม หลัง ยูเวนตุส เฉือนชนะ มัลโม ไปได้ในเวลาเดียวกัน
คะแนนนักเตะ เชลซี
ตัวจริง: เคปา (8), คริสเตนเซน (6), ซารร์ (6), อัซปิลิกวยต้า (6), ซาอูล (6.5), บาร์คลีย์ (5), เจมส์ (6), ฮัดสัน โอดอย (6), เมานท์ (6.5), แวร์เนอร์ (8), ลูกากู (7)
ตัวสำรอง: พูลิซิช (5), ซิเยค (5), ฮาเวิร์ตซ์ (6), อลอนโซ (5)
คีย์ แมน - ติโม แวร์เนอร์
งัดฟอร์มเก่งออกมาได้อย่างโดดเด่นกับ 2 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ แถมยังมีส่วนกับเกมรุกตลอดทั้งเกม ใช้ความเร็ว ความคล่องตัวในการเจาะเกมรับของ เซนิตฯ บอกได้เลยว่านับตั้งแต่ย้ายมาเมื่อฤดูกาลก่อนเกมนี้คือนัดที่ แวร์เนอร์ ทำผลงานได้ดีที่สุดในรอบเกือบหนึ่งปีครึ่งเลยก็ว่าได้
ประเด็นหลังเกม - แผนใหม่ ทูเคิล ไม่เวิร์ค
เกมนี้ โธมัส ทูเคิล ลองจัดตำแหน่งตัวผู้เล่นใหม่ แม้แนวทางการเล่นจะยังเป็น 3-4-3 เหมือนเดิม แต่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งการยืนโดยจับ ซาอูล ไปยืนเป็นวิงแบ็คทางซ้าย ถอย โอดอย มาเป็นวิงแบ็คทางขวา พร้อมกับ ดัน รีซ เจมส์ ไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางคู่ บาร์คลีย์ ผลคือนักเตะหลาย ๆ คนเล่นได้ไม่เป็นธรรมชาติโดยเฉพาะคู่กลางที่เป็นรองเจ้าบ้านอย่างชัดเจน ทำเกมไม่ได้ เสียบอลง่ายจนเป็นเหตุให้ทีมเสียสองประตูในครึ่งเวลาแรก ยังดีที่สุดท้าย ทูเคิล ตัดสินใจปรับหมากมาเล่นแบบเดิมพร้อมกับการที่ แวร์เนอร์ ท็อปฟอร์ม ทำให้ในที่สุดพวกเขาก็รอดจากความพ่ายแพ้มาได้อย่างหวุดหวิด แต่ 1 คะแนนในวันนี้ ไม่เพียงพอจะส่งพวกเขาเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มและจบรอบแบ่งกลุ่มเป็นอันดับสองในที่สุด
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด