อาร์เซนอล 2-1 น็อตติงแฮม ฟอเรสต์: เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดสนาม ปืนใหญ่ เฉือนหวิวคืนวันเสาร์
รายการ: | ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24 |
---|---|
วันแข่งขัน: | วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2023 |
สนาม: | เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน: | อาร์เซนอล 2-1 น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ |
เกมเริ่มดีเลย์
นัดนี้เดิมทีตามโปรแกรมจะต้องเริ่มเล่นในเวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย แต่กลับเกิดปัญหาเรื่องระบบตรวจบัตรแบบใหม่ ทำให้แฟนบอลไม่สามารถเข้าสนามได้จนเกมต้องดีเลย์ออกไปเกือบครึ่งชั่วโมง แต่สุดท้ายก็ลงแข่งได้ในที่สุด
เกมลุ้นสนุกช่วงท้าย
เกมนี้ตั้งแต่เริ่มจนนาทีที่ 80 เป็น อาร์เซนอล ที่แสดงความเหนือชั้นครองบอลพับสนามบุกเข้าใส่อยู่แทบจะฝ่ายเดียว แถมยังออกนำก่อน 2 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรก จนหลายคนมองว่าเกมนี้คงจะเป็น ปืนใหญ่ ที่กินนิ่มคว้า 3 คะแนนแบบชิล ๆ จนกระทั่ง 10 นาทีสุดท้าย ฟอเรสต์ ตัดสินใจทุ่มสุดตัวแบบไม่มีอะไรจะเสียส่งตัวรุกลงมาแบบเต็มสูบก่อนจะได้ทีเด็ดของ เอลันก้า และ อโวนิยี คอมโบตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 เท่านั้นแหละ ! เกมของ อาร์เซนอล ดูปั่นป่วนขึ้นมาทันที เตะทิ้งเตะขว้างจะสวนก็ไปไม่สุด จะอุดก็มีจังหวะหวาดเสียวหลายครั้ง จากที่แฟนจะหลับ ๆ กลับต้องมาลุ้นตื่นเต้นแทยนั่งไม่ติดเก้าอี้กันเลยทีเดียว
ปืนใหญ่ กับ "อินเวิร์ตฟูลแบ็ค"
เกมนี้ตามผัง ปืนใหญ่ ยืนเป็นแบ็คโฟร์ แต่สุดท้ายพอเล่นจริงกลายเป็นยืนหลังสามโดยมี ทิมเบอร์ ยืนฝั่งซ้าย ซาลิบา ตัวกลาง และ เบน ไวท์ ฝั่งขวา ก่อนจะดัน โธมัส ปาร์เตย์ ขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางอีกหนึ่งคน และให้อิสระ ดีแคลน ไรซ์ ในการเติมเกมรุกมากขึ้น ซึ่งก็ช่วยให้พวกเขาครองเกมเก็บบอลคุมโซนเเดนกลางได้ค่อนข้างอยู่หมัด เหลือเพียงวิธีการเข้าทำที่ยังดูน่าอึดอัดอยู่บ้างเวลาต้องเจาะทีมที่มาเน้นแพ็คเกมรับหลังบ้านแบบนี้
ซาก้า กับประตูสุดสวย
นัดนี้ต้องบอกว่า บูกาโย ซาก้า ดูจะเป็นแนวรุก ปืนใหญ่ ที่หวังผลได้มากที่สุด ด้วยความเร็วความคล่องตัว ความขยันวิ่งทำทาง และบทบาทการมีส่วนร่วมกับเกม รวมถึงการจบสกอร์ที่เฉียบขาดจากลูกยิงด้วยซ้ายนอกกรอบปั่นโค้ง ๆ สุดสวยเสียบมุมชนิดน้ำหนักและทิศทางสุดเพอร์เฟ็กจนบอกได้เลยว่าไม่น่ามีผู้รักษาประตูคนไหนรับลูกแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
นักเตะใหม่วันนี้
เกมนี้ ปืนใหญ่ ส่งนักเตะใหม่ลงสนามพร้อมกัน 3 รายประกอบด้วย ดีแคลน ไรซ์ กองกลางเจ้าของค่าตัวร้อยล้าน ซึ่งวันนี้น่าจะเป็นแข้งใหม่ที่ฟอร์มเข้าตาที่สุด กับการทำหน้าทีประสานงานแดนกลางคอยวิ่งขึ้นลงเชื่อมเกมตัดบอล และมีโอกาสส่องไกลสวย ๆ อยู่บ้าง ขณะที่ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ค่อนข้างเงียบ แทบไม่มีบทบาทกับเกมเลยทั้งในช่วงครึ่งแรกที่ยืนต่ำรวมถึงช่วงครึ่งหลังที่ไปเป็นตัวเป้า ฟอร์มยังดูขาด ๆ เกิน ๆ อยู่พอสมควร ส่วนรายสุดท้ายที่น่าจะโชคร้ายที่สุดคือ ยูร์เรน ทิมเบอร์ ที่อุตส่าเบียดลงตัวจริงได้ แต่กลับมาเจ็บตั้งแต่ครึ่งแรก แม้ว่าจะฝืนเล่นต่อแต่ก็ไม่ไหวจนถูกเปลี่ยนออกในช่วงต้นครึ่งหลัง ก็ต้องมาลุ้นกันว่าอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของเขาจะน่าเป็นห่วงแค่ไหนต่อไป