แมนยู 1-0 วูล์ฟส์: เจาะประเด็นหลังเกม ปีศาจแดง โชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง แต่ซิว 3 แต้ม ศึกพรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล

1. ทีมที่ดีกว่าสมควรเป็นผู้ชนะ แต่ไม่ใช่กับ วูล์ฟส์

แกรี่ โอนีล กุนซือป้ายแดง เข้ามาคุม วูล์ฟส์ แทน จูเลน โลเปเตกี ที่ไม่พอใจสโมสร เพราะขาดการสนับสนุนในเรื่องเสริมทัพ

พวกเขาถูกยกให้เป็นเบอร์ต้น ๆ สำหรับทีมที่มีโอกาสตกชั้นมากสุดในฤดูกาลนี้

โอนีล ไม่มีปรี-ซีซั่นกับ วูล์ฟส์ เขามีเวลาเพียง 4 วันในการเตรียมทีมดวลกับ แมนฯ ยูไนเต็ด, นำลูกทีมลงฝึกซ้อม, ป้อนข้อมูล และอธิบายแท็คติกให้กับนักเตะ

อย่างไรก็ตาม พวกเขาทำผลงานได้ดีเกินคาด พวกเขาดีกว่าเจ้าถิ่นชัดเจน พวกเขาเล่นด้วยความกล้า เพรสซิ่งเยี่ยม คุมโซนดี รับแน่น และจังหวะสวนกลับอันตราย

สถิติระบุว่า “ทีมหมาป่า” มีโอกาสสับไกไปทั้งหมด 23 ครั้ง
ถือเป็นสถิติสูงสุดอันดับ 2 สำหรับผู้มาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในพรีเมียร์ลีก

มีเพียง เชลซี ทีมเดียวที่หาโอกาสยิงได้มากกว่าพวกเขา (25 ครั้ง, ปี 2005)

แต่ปัญหาคือ พวกเขาไม่มีความเฉียบขาดในการจบสกอร์ และเมื่อคุณมีโอกาสแล้วแต่ทำไม่ได้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรที่คุณจะถูกคู่แข่งลงโทษ !

มีหนึ่งจังหวะที่กำลังเป็นที่ถกเถียง เมื่อ อ็องเดร โอนาน่า วิ่งออกมาคว้าบอล แต่ดันวืดไปชนกับ ซาซ่า คาลายซิช ตัวสำรองของ วูล์ฟส์ ซึ่งเสียงส่วนมากมองว่า จังหวะนี้ 'ควรเป็นลูกจุดโทษ'

อย่างไรก็ตาม หลังจากเช็ควีเออาร์แล้ว ผู้ตัดสินมองว่าจังหวะนี้ไม่มีอะไร

หลังจบเกม โอนีล บอกกับนักข่าวว่า จอห์น มอสส์ อดีตผู้ตัดสินพรีเมียร์ลีก ซึ่งปัจจุบันทำงานในสมาคมผู้ตัดสินอังกฤษ (PGMOL) บอกกับเขาหลังเกมว่า จังหวะนั้น ''ควรเป็นจุดโทษ'' และยอมรับว่า กรรมการ ''ผิดพลาดเอง''

2. สะเปะสะปะ ไปหมด

แมนฯ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวังจริง ๆ ในเกมนี้ แม้ว่าพวกเขาจะคว้าสามคะแนนมาครองได้ก็ตาม

พวกเขาครองบอลมากกว่าคู่แข่งก็จริง แต่เมื่อเจาะไปในรายละเอียด โดยเฉพาะพื้นที่สุดท้าย พวกเขาขาดวามแน่นอน เสียบอลกันง่าย สะเปะสะปะ ผิดพลาดกันไปหมด ไม่มีไอเดียในการเข้าทำ จังหวะลุ้นทำประตูแบบจะแจ้ง หรือสร้างความลำบากใจให้ โชเซ่ ซา นายด่านทีมเยือน แทบไม่มี

คนที่ทำผลงานได้น่าผิดหวังมากที่สุดคือ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เขาไม่สามารถคุกคามคู่แข่งได้ เสียบอลง่าย ถือว่าผิดฟอร์มไปเยอะ

รายของ อันโตนี่ มีปัญหาการจ่ายบอล น้ำหนักการจ่ายบอลของเขาเข้าขั้นห่วยแตก เขาเป็นแบบนี้มานานแล้ว ซึ่งแก้ไม่หายเสียที

ขณะที่ เมสัน เมาท์ กองกลางตัวใหม่ ขาดการสร้างสรรค์เกม ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้ หรือหากจะมองโลกในแง่ดีคือ ‘ต้องให้เวลาเขาสักหน่อย’

ไม่มีใครที่พอใจกับฟอร์มการเล่นแบบนี้ แต่สิ่งเดียวที่น่าพอใจคือ “คว้าสามแต้ม”

จบเกมนี้ เอริค เทน ฮาก มีการบ้านเพียบ แน่นอนว่าเขาทราบดี เฉพาะอย่างยิ่ง ไอเดียการสร้างสรรค์เกม

3. เทน ฮาก แก้เกมอย่างไรในครึ่งหลัง?

ไม่ใช่ในช่วงต้นครึ่งหลัง รูปเกม เจ้าถิ่นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ยังคงเหมือนในครึ่งแรก เช่นเดียวกับการยืนตำแหน่ง

ระบบการเล่นก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไร ใช้ 4-3-3 หรือ 4-1-4-1 และสามารถปรับเป็น 4-2-3-1 ได้ในระหว่างเกม

นายใหญ่ ปีศาจแดง เริ่มต้นแก้เกมจริง ๆ ในนาทีที่ 68 เขาส่ง คริสเตียน เอริคเซ่น และ เจดอน ซานโช่ ลงมาแทน เมสัน เมาท์ และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ตามลำดับ

ซานโช่ ที่ถูกทดลองเล่นบทบาท False Nine (กองหน้าเป้าตัวหลอก) ในช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา เกมนี้ลงยืนทางกราบซ้าย

ขณะที่ แรชชี่ ยังคงยืนผู้เล่นตำแหน่งหมายเลข 9

การเปลี่ยนตัวลักษณะนี้ เข้าใจว่า เทน ฮาก ต้องการความสดใหม่และความวูบวาบตรงพื้นที่ด้านข้าง

มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยืนหอกเป้าสามารถสลับตำแหน่งกับ ซานโช่ ได้ในระหว่างเกม — โดยที่ แรชฟอร์ด ไปยืนปีกซ้าย แล้วให้ ซานโช่ ไปยืน False Nine ก่อนที่พวกเขาจะมาได้ประตูชัยนาทีที่ 76 จาก ราฟาแอล วาราน

หลังจากได้ประตูขึ้นนำ แน่นอนว่าทีมเยือนที่เล่นได้ดีและเล่นด้วยความมั่นใจ ต้องเปิดเกมรุกใส่เจ้าถิ่นเพื่อทวงประตูตีเสมอ

เทน ฮาก จึงตัดสินใจส่ง ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ ลงมาแทน อันโตนี่ นาที 77 (ตามตำแหน่ง) เป็นการเพิ่มความวูบวาบทางกราบขวา เพราะ เปยิสตรี้ เป็นผู้เล่นที่มีความเร็ว และ คล่องตัว อยู่แล้ว

ช่วงท้ายเกม นาที 88 เทน ฮาก ส่ง สกอต์ แม็คโทมิเนย์ ลงมาแทน แรชฟอร์ด ซึ่งเป็นที่แน่ชัดว่าเขาต้องการซื้อเกมรับ และปิดเกมนี้

4. อ็องเดร โอนาน่า ประเดิมสวย

อดีตจอมหนึบ อินเตอร์ มิลาน ผู้ซึ่งย้ายมาสวมเครื่องแบบ ปีศาจแดง ด้วยค่าตัว 47.2 ล้านปอนด์ ประเดิมเฝ้าเสาเกมแรกใน พรีเมียร์ลีก ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด

เขาทำการเซฟไปทั้งหมด 6 ครั้งในนัดนี้ เฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลังที่ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูตีเสมอหลายต่อหลายครั้ง

เขายืนตำแหน่งได้ดี, การออกมาตัดบอล และ การรับมือกับลูกกลางอากาศ ดูมีความน่าเชื่อถือ เขามีความแข็งแกร่ง และความมั่นใจ แถมยังนิ่งอีกต่างหาก

เป็นการเริ่มต้นที่สวยงามสำหรับเขา แถมนัดนี้เก็บคลีนชีทได้อีกด้วย

เขาคือ “แมน ออฟ เดอะ แมตช์”