ทีมชาติเบลเยียม 1-4 ทีมชาติเนเธอร์แลนด์: เก็บตกประเด็นหลังเกม ยูฟ่า เนชั่นลีก, ตัดเกรดนักเตะ พร้อม คีย์แมน
การแข่งขัน: ยูฟ่า เนชั่นลีก 2022
วันแข่งขัน: คืนวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2022
เวลาแข่งขัน: 01:45 น. ตามเวลาประเทศไทย
ผลการแข่งขัน: ทีมชาติเบลเยียม 1-4 ทีมชาติเนเธอร์แลนด์
สนาม: โคนิง เบาเดไวจ์นสตาดิโอน
เนเธอร์แลนด์ ฟอร์มโหดบุกอัด เบลเยียม ไม่ปราณี 1-4 โดยได้ประตูจาก สตีเฟน เบิร์กไวจ์น นาทีที่ 40 เมมฟิส เดปาย นาทีที่ 51, 65 และ เดนเซล ดุมฟรีส์ นาทีที่ 61 ก่อนที่เจ้าบ้านจะมาตีไข่แตกได้จาก มิชี บัทชัวยี นาทีที่ 90+3
เริ่มเกมต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กัน แต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ได้เลยในช่วง 10 นาทีแรก
นาทีที่ 12 คาสตาญ เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษก่อนกดเต็มข้อบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 16 เบิร์กฮุยส์ ได้โอกาสหลุดเดี่ยว แต่ยังยิดไปติดเซฟของ มินโญเลต์
นาทีที่ 29 บลินด์ ได้จบในกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งหลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น
กระทั่งนาทีที่ 40 ทีมเยือนออกนำก่อน 0-1 จากจังหวะยิงไกลนอกกรอบของ เบิร์กไวจ์น บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างงดงาม
และจบ 45 นาทีแรก เนเธอแลนด์ บุกมานำ 0-1
เริ่มครึ่งเวลาหลังไปได้เพียง 6 นาที ผู้มาเยือนมาได้ประตูที่สองจากจังหวะที่ เบิร์กฮุยส์ แทงทะลุช่องให้ เดปาย หลุดเดี่ยวก่อนยิงสวนตัว มินโญเลต์ เข้าไป
นาทีที่ 60 ทรอสซาร์ด หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ยังไม่ผ่านมือ ซิเลสเซน ไปได้
1 นาทีต่อมา ฮอลแลนด์ ออกนำห่าง 0-3 จากจังหวะที่ บลินด์ เก็บตกบอลได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนเปิดไปที่เสาสองให้ ดุมฟรีส์ ชาร์จจ่อ ๆ เข้าไป
นาทีที่ 65 ทีมเยือนมาได้ประตูที่ 4 จากจังหวะที่ ฟาน ไดจ์ค วางบอลยาวมาให้ บลินด์ โขกชงต่อไปที่ เดปาย ก่อนจะยิงโล่ง ๆ เข้าไป
นาทีที่ 70 เดอ บรอยน์ มีลุ้นส่องไกล บอลแฉลบเปลี่ยนทางเล็กน้อย แต่ ซิลเลสเซน ยังซุเปอร์เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 77 เจ้าบ้านส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไปแล้วจากจังหวะซ้ำของ คาสตาญ แต่ VAR ชี้ว่ามีจังหวะล้ำหน้าไปก่อนหน้านั้น
นาทีที่ 81 เมอร์เทนส์ หลุดไปสุดเส้นหลังก่อนพยายามยิงมุมแคบ บอลพุ่งไปชนเสากระดอนออกไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบลเยี่ยม มาตีไข่แตกได้สำเร็จจากจังหวะเจ้าชาร์จจ่อ ๆ ของ บัทชัวยี นาทีที่ 90+3
ทำให้จบ 90 นาที เนเธอแลนด์ บุกถล่ม เบลเยียม ได้ถึงถิ่น 1-4
คะแนนนักเตะทั้งสองทีม
เบลเยี่ยม
11 ตัวจริง: มินโญเลต์ (5), แฟร์ตองเก้น (5), โบยาต้า (5), อัลเดอร์ไวเรลด์ (5), คาสตาญ (6), มูนิเยร์ (5), วานาเคน (5), วิตเซล (5), เดอ บรอยน์ (6), อาซาร์ (5), ลูกากู (4)
ตัวสำรอง: ทรอสซาร์ด (5), โอนานา (4), เมอร์เทนส์ (6), บัทชัวยี (6), คาร์ราสโก้ (5)
เนเธอร์แลนด์
11 ตัวจริง: ซิลเลสเซน (7), อาเก้ (8), ฟาน ไดจ์ค (8), ทิมเบอร์ (7), บลินด์ (8), ดุมฟรีส์ (7), เด ยอง (8), คาสเซน (7), เบิร์กฮุยส์ (6), เบิร์กไวจ์น (7), เดปาย (8)
ตัวสำรอง: เดอ ลิกต์ (6), คูพไมเนอร์ส์ (6)
คีย์แมน - แฟรงค์กี้ เด ยอง
เรียกได้ว่าทำผลงานโดดเด่นเหมือนเป็นการเรียกค่าตัวให้ต้นสังกัดช่วงซัมเมอร์นี้เลยก็ว่าได้สำหรับกองกลางเพลย์เมคเกอร์รายนี้ที่คอยปิดทองหลังพระ คอยตัดเกม ลำเลียงบอล สร้างสรรค์โอกาสจากแดนกลางซึ่งวันนี้เกมแดนกลางของ ฮอลแลนด์ ดูดีกว่าชัดเจน แถมยังเสียบอลยากมาก เทคนิคแพรวพราว เล่นได้อย่างมั่นใจและทำได้ 1 แอสซิสต์ในวันนี้อีกด้วย
ประเด็นหลังเกม
หมดยุคทอง เบลเยียม
ความพ่ายแพอย่างหมดรูปคาบ้านในวันนี้ทำให้เราเห็นอะไรหลาย ๆ อย่าง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมาก ๆ คือต้องยอมรับได้แล้วว่า เบลเยียม "โกลเด้น เจนเนอเรชั่น" ดูเหมือนจะสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์แล้ว เพราะตัวหลักหลาย ๆ คนก็เลยจุดพีดมาแล้วทั้งสิ้น แถมยังอายุมากกันหมดแล้วไม่ว่าจะเป็น เอเดน อาซาร์ ดรีส เมอร์เทนส์ โธมัส มูนิเยร์ อักเซล วิตเซล โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ แยน แฟร์ตองเก้น หรือแม้แต่ เดอะแบกอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ยิ่งไปกว่านั้นเด็กรุ่นใหม่ ๆ ก็ไม่สามารถขึ้นมาแทนที่ได้ถึงขนาดที่บางคนยังแทบไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ จึงไม่เกินไปนักหากจะบอกว่า ณ เวลานี้คงปิดฉากยุคทองของทีมชาติ เบลเยียม ลงไปเป็นที่เรียบร้อย
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น!*ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด