แมนยู 2-1 เชลซี: ประเด็นหลังเกมศึก พรีเมียร์ลีก ''ปีศาจแดง'' โชว์ฟอร์มไฉไล เปิดโรงละครเชือด สิงห์บลูส์
รายการ | พรีเมียร์ลีก 2023/24, นัดที่ 15 |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันพุธ ที่ 6 ธันวาคม 2023 |
สนาม | โอลด์ แทรฟฟอร์ด |
ผลการแข่งขัน | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เชลซี |
1. 'กล้าดร็อป' แรชฟอร์ด แล้ว
นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2023/24 มาร์คัส แรชฟฟอร์ด มีชื่ออยู่ในทีม ปีศาจแดง ไปทั้งหมด 18 นัด ทุกรายการ แบ่งเป็น สตาร์ทตัวจริง 17 นัด และถูกส่งลงมาเป็นสำรองอีก 1 นัด
ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ เอริค เทน ฮาก ส่ง แรชฟอร์ด ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัด เขาสตาร์ทสิบเอ็ดคนแรกไป 13 นัด จาก 13 เกมที่มีชื่ออยู่ในทีม
ถือเป็นหนแรกในลีกฤดูกาลนี้ที่ มาร์คัส แรชฟฟอร์ด ถูกดร็อป เหตุเพราะโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง และแสดงทัศนคติที่ไม่ดีออกมาในเกมกับ นิวคาสเซิ่ล เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เอริค เทน ฮาก ปฏิเสธที่จะเจาะจงเป็นรายบุคคล ''มันเป็นส่วนหนึ่งของการหมุนเวียนผู้เล่น เราเล่นได้แย่ในฐานะทีม (กับ นิวคาสเซิ่ล) เราไม่สามารถตำหนิเป็นรายบุคคลได้ '' เทน ฮาก อธิบายถึงสาเหตุที่ตนตัดสินใจดร็อปทั้ง แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
2. ซานเซซ ช่วย สิงห์บลูส์ หลายหน
โรเบิร์ต ซานเชซ จอมหนึบสเปน วัย 26 ปี จัดการเซฟไปทั้งหมด 7 ครั้งในเกมนี้ แง่ของการป้องกัน เขายืนตำแหน่งได้เยี่ยม แถมหนึ่งในนั้นคือการเซฟจุดโทษของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับ ซานเซซ ถือเป็นนายด่าน เชลซี คนแรกที่เซฟจุดโทษในพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2021 (เมนดี้ vs แมนฯ ซิตี้)
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเขาในเกมนี้ก็คือ การใช้เท้าออกบอล
3. ทัศนคติที่ถูกต้องของ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม หลังทำผลงานได้น่าผิดหวังในเกมลีกที่บุกไปแพ้ นิวคาสเซิ่ล เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แถมยังมีข่าวลืออีกด้วยว่า เอริค เทน ฮาก สูญเสียห้องแต่งตัวไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่ผู้เล่น ปีศาจแดง แสดงออกมาในนัดนี้มันสวนทางกับข่าวลือที่แพร่ออกไป พวกเขาเล่นด้วยความมุ่งมั่น หื่นกระหาย ตั้งใจ โจมตีด้วยจังหวะที่รวดเร็ว ช่วยกันไล่บอล เพรสซิ่งได้ดี
ผ่านไปครึ่งทางของครึ่งแรกพวกเขาสับไกไปถึง 11 ครั้ง
45 นาทีแรก พวกเขาโอกาสยิงไปทั้งหมด 18 ครั้ง ตรงกรอบถึง 7
ตลอดทั้งเกม ปีศาจแดง สับไกไปทั้งสิ้น 28 ครั้ง ตรงกรอบ 9
4. เชลซี มีปัญหาในการรับมือ การ์นาโช่
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ สิงห์บลูส์ วาง มาร์ค กูกูเรย่า ไปยืนแบ็กขวาเพื่อให้ไปรับมือ อเลฮานโดร การ์นาโช่
ช่วงแรก ๆ ดูเหมือนว่า กูกูเรย่า ปรับตัวกับจังหวะของ การ์นาโช่ ไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ แต่พอผ่านไปถึงช่วงท้ายครึ่งแรก เขาเริ่มจับจังหวะของปีก อาร์เจนติน่า ได้
เริ่มครึ่งหลัง โปเช็ตติโน่ ตัดสินใจส่ง รีซ เจมส์ ลงมาแทน กูกูเรย่า เนื่องจาก ''พอช'' ต้องการเกมรุกทางกราบขวามากขึ้น และสั่งให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ถอยลงมาช่วยป้องกันและซ้อนเกมรับ เพราะหากปล่อยให้ดวลตัวต่อตัวกับ การ์นาโช่ ไม่ใช่เรื่องดีแน่
อย่างไรก็ตาม แม้ พอช จะพยายามแก้ไขปัญหาในจุดนี้ แต่ลูกทีมของเขาไม่สามารถรับมือ การ์นาโช่ ได้
5. สัญญาณเตือน
อเลฮานโดร การ์นาโช่ ได้รับความไว้วางใจจาก เอริค เทน ฮาก อย่างต่อเนื่อง และเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ๆ
เขาโดดเด่น วูบวาบ เล่นด้วยความมั่นใจ ขยัน มุ่งมั่น สร้างความลำบากใจให้คู่แข่งได้ดีนักแล ที่สำคัญเขาเป็นคนเปิดบอลสวย ๆ ไปให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่เติมขึ้นมาโขกทำประตูชัย
หากวัดจากฟอร์ม ณ ตอนนี้ เมื่อเทียบกับ แรชฟฟอร์ด ในตำแหน่งปีกซ้ายเหมือนกัน นาทีนี้ การ์นาโช่ สมควรลงเล่นเป็นตัวจริงไปยาว ๆ
ในขณะที่ อันโตนี่ สิ่งที่เขาแสดงออกมาอย่างชัดเจนในนัดนี้เลยก็คือ ความขยัน มุ่งมั่น ตั้งใจเล่น และทุ่มเทกับทีม 100 เปอร์เซ็นต์
การ์นาโช่ กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี น่าประทับใจ และทุ่มเทเพื่อทีม
อันโตนี่ มีลูกขยันที่มากกว่า แรชฟอร์ด แต่ที่ต้องเสริมเข้าไปอีกคือ การผลิตสกอร์ หรือ แอสซิสต์
หากสองคนนี้ยังคงรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ต่อไปเรื่อย ๆ คนที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ คือ มาร์คัส แรชฟอร์ด
นี่คือสัญญาณเตือนที่ส่งไปยัง ''แรชชี่'' ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้วล่ะว่าจะตอบสนองอย่างไร เพราะ เทน ฮาก กล้าดร็อปคุณแล้ว
หรือหากมองอีกมุม นี่คือแรงกระตุ้นชิ้นดีเลยล่ะ
6. แมน ออฟ เดอะ แมตช์
สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ เหมาคนเดียวสองประตูในเกมนี้ เขามีส่วนร่วมกับเกมรุกเยอะมาก ขณะที่ในแง่เกมรับ เขาเพรสซิ่งได้ดี ดักตัดบอลได้หลายครั้งในจังหวะที่ เชลซี กำลังสร้างเกม ถือเป็นเกมที่เขาโชว์ฟอร์มได้ไฉไลจริง ๆ
ถึงตรงนี้กองกลางทีมชาติ สกอตแลนด์ ซัดไปแล้ว 5 ประตู นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2023/24 มากที่สุดเป็นลำดับ 1 ในทีมตอนนี้