แมนยู 3-0 พาเลซ: แชมป์เก่าโชว์ฟอร์มแจ่มเปิดรังถล่ม ''ดิ อีเกิ้ลส์'' ยับ, ตัดเกรด และ ประเด็นหลังเกม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า โชว์ฟอร์มแจ่มเปิดรังถล่ม คริสตัล พาเลซ ไปแบบยับเยิน 3-0 ศึก คาราบาว คัพ รอบ 3 เมื่อคืนที่ผ่านมา ตีตั๋วสู่รอบถัดไปได้สำเร็จ

เอริค เทน ฮาก กุนซือ ปีศาจแดง เปลี่ยนผู้เล่น 7 คน จากเกมพรีเมียร์ลีกที่บุกชนะ เบิร์นลี่ย์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โซฟียาน อัมราบัต กองกลางสัญญายืมตัวจาก ฟิออเรนติน่า สตาร์ทตัวจริงเป็นครั้งแรกให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด

ราฟาแอล วาราน และ เมสัน เมาท์ กลับมามีชื่ออยู่ใน 11 คนแรก หลังก่อนหน้านี้ทั้งคู่เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน

นับเป็นชัยชนะที่ง่ายดายสำหรับ ยูไนเต็ด พวกเขาคุมเกมเอาไว้ได้หมด และออกนำ 2-0 ตั้งแต่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกจาก อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ กาเซมีโร่ ในนาทีที่ 21 และ 27 ตามลำดับ ก่อนที่ครึ่งหลัง “เร้ด เดวิลส์” จะมาบวกเพิ่มอีก 1 เม็ด จาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล นาทีที่ 55

เกมนี้ กาเซมีโร่ ทำไป 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ คว้า ''แมน ออฟ เดอะ แมตช์'' ไปครอง ในขณะที่ อองเดร โอนาน่า นายทวารของทีมเก็บคลีนชีตแบบติดต่อกันได้เป็นหนแรก นับตั้งแต่จอย ปีศาจแดง

คะแนนนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

11 ตัวจริง (4-2-3-1/4-3-3): อองเดร โอนาน่า (7/10); ดิโอโก้ ดาโลต์ (7.5/10), ราฟาแอล วาราน (กัปตัน, 7/10), แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (7/10), โซฟียาน อัมราบัต (7/10); กาเซมีโร่ (8/10), เมสัน เมาท์ (7.5/10); ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ (7/10), ฮานนิบาล เมจบรี (7/10), อเลฮานโดร การ์นาโช่ (7.5/10); อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (7.5/10)

สำรองที่ใช้: จอนนี่ อีแวนส์ (6/10), แดน กอร์ (6/10), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ (6/10), ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค (6/10), ราสมุส ฮอยลุนด์ (6/10)

ประเด็นหลังเกม - อธิบายการ Build-Up ของ ยูไนเต็ด เมื่อมี อัมราบัต

แน่นอนว่าภาพรวมของเกมเราทราบกันดีว่าเจ้าถิ่นครองเกมเหนือกว่า สร้างสรรค์โอกาสมากกว่า และเกมมันก็จบไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก ชนิดที่ทีมเยือนแทบไม่ได้สร้างความลำบากใจอะไรให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เลย

แต่เกมนี้มีจุดหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ การ ''Build-Up'' หรือการ ''สร้างเกม'' จากแดนหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากที่ โซฟียาน อัมราบัต สตาร์ทตัวจริงนัดแรกในสีเสื้อ เร้ด เดวิลส์

1. เอริค เทน ฮาก ติดตั้งระบบ 4-2-3-1 แต่สามารถเป็น 4-3-3 ได้

2. ลุค ชอว์ เจ็บ ขณะที่ เซร์คิโอ เรกีลอน มีอาการป่วย เอริค เทน ฮาก จึงตัดสินใจให้ อัมราบัต ประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้ายจำเป็น

3. เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เทน ฮาก อธิบายว่า นอกเหนือจากตำแหน่งมิดฟิลด์แล้ว อัมราบัต สามารถเล่น ''วิงแบ็ก'' หรือ ''ฟูลแบ็ก'' ได้

4. สมัยที่กองกลางชาว โมร็อกโก ค้าแข้งให้กับ เอฟซี อูเทร็คท์ เขาเคยเล่นแบ็กซ้ายไป 3 นัด และช่วงที่เล่นให้กับ เฟเยนูร์ด เขาเคยเล่นแบ็กขวา 6 นัด

5. การ ''Build-Up'' หรือการ ''สร้างเกม'' จากแดนหลังขึ้นไปข้างหน้าของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีหลายรูปแบบ นักเตะจะเคลื่อนที่กันตลอด

ตัวอย่างเช่น ในช่วงต้นเกมและกลางครึ่งแรก อัมราบัต จากแบ็กซ้ายจะหุบเข้าไปยืนตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กับ กาเซมีโร่ โดยทั้งคู่จะยืนอยู่เหนือคู่เซ็นเตอร์เเบ็ก

หรืออย่างในช่วงท้ายครึ่งแรก กาเซมีโร่ จากตำแหน่งมิดฟิลด์ ถอยลงมายืนไลน์เดียวกับเซ็นเตอร์แบ็กเป็น ''แบ็กทรี'' ในรูปแบบ 3-1-2-4 สำหรับการสร้างเกมจากแดนหลัง โดยให้ อัมราบัต เข้าไปยืนมิดฟิลด์

ขณะที่ ดิโอโก้ ดาโลต์ จะทำหน้าที่เสมือนเป็นปีกขวา ส่วน ฟากุนโด้ เปยิสตรี้ จากปีกขวา หุบเข้าในไปเล่นกองหน้าร่วมกับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

สำหรับการสร้างเกม ในรูปแบบ 3-1-2-4

• 3 คือ หลัง 3 คน = แม็กไกวร์, กาเซมีโร่, วาราน

• 1 คือ กลางตัวต่ำ = อัมราบัต จะยืนอยู่เหนือ แม็กไกวร์, กาเซ และ วาราน

• 2 คือ กลางตัวบน = เมาท์ และ ฮานนิบาล โดยทั้งคู่จะยืนเหนือ อัมราบัต ซึ่งแดนกลางจะยืนในแบบสามเหลี่ยม

• 4 คือ แนวรุก = การ์นาโช่ (ปีกซ้าย), มาร์กซิยาล (หน้า), เปยิสตรี้ (หน้า), ดาโลต์ (ทำหน้าที่เสมือนปีก)

6. ครึ่งหลัง เทน ฮาก ส่ง วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ แทน เมสัน เมาท์ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมา

7. กุนซือดัตช์ ปรับรูปแบบการยืนใหม่เล็กน้อย เขาให้ ลินเดอเลิฟ ไปยืนแบ็กซ้ายแทนตำแหน่ง อัมราบัต แล้วให้ อัมราบัต เข้ามายืนกองกลางคู่กับ กาเซมีโร่ ในรูปแบบ 4-2-3-1

ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การสร้างเกมจากแดนหลังสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การดูแล เอริค เทน ฮาก

ในอนาคตคาดว่า เทน ฮาก จะใช้ อัมราบัต จับคู่กับ กาเซมีโร่ ในแผงกองกลาง และคงจะได้เห็นการ ''Build-Up'' ในลักษณะนี้อีกแน่นอนในเกมต่อ ๆ ไป