ไบรท์ตัน 0-2 แมนยู: เก็บตกประเด็นหลังเกม “ปีศาจแดง” เฮส่งท้ายนัดปิดฤดูกาล พรีเมียร์ลีก 2023/24

ฮอยลุนด์ ยิงเรียกความมั่นใจ

ศูนย์หน้าทีมชาติเดนมาร์ก วัย 21 ปี ออกสตาร์ทเป็นสำรองนัดที่สองติดต่อกันให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาถูกส่งลงมาแทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในนาทีที่ 60

เขามีเวลาในสนามครึ่งชั่วโมง ก่อนจะมากด 1 ตุง จากโอกาสสับไกหนแรกของเขา และมันก็เป็นตุงที่สองติดต่อกันของเขา

ถือเป็นการเรียกความมั่นใจของตัวเองก่อนทำศึกผ่าเมือง เวอร์ชั่น เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศในวันเสาร์ ที่ 25 พ.ค. นี้

เท่ากับว่าตอนนี้เขากดไปแล้ว 16 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 42 นัดทุกรายการให้กับ ปีศาจแดง

บทสรุปในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของเขา กดไปทั้งสิ้น 10 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 30 เกม

บอส ปีศาจแดง ใช้งานนักเตะอย่างระมัดระวัง

ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังคนสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด สตาร์ทตัวจริงให้กับทีมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกมลีกที่ชนะ เวสต์แฮม เมื่อวันที่ 4 ก.พ.

มาร์ติเนซ ลงเล่นไปทั้งหมด 59 นาที ก่อนถูกเปลี่ยนออกโดยที่ไม่มีรายงานเรื่องปัญหาบาดเจ็บ ถือเป็นข่าวดีสำหรับทีมของ เอริค เทน ฮาก ดังนั้น มีโอกาสที่เขาจะสตาร์ทตัวจริงในเกมนัดชิงฯ เอฟเอ คัพ วันเสาร์นี้

บรูโน่ แฟร์นันด์ส กัปตันทีม เป็นอีกหนึ่งคนที่ เทน ฮาก เปลี่ยนออกพร้อม ๆ กับ มาร์ติเนซ

ชัดเจนว่าบอส ปีศาจแดง ต้องการใช้งาน มาร์ติเนซ และ บรูโน่ อย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นคนสำคัญเจอโรคเดี้ยงเล่นงานอีกครั้ง

แต่พวกเขาต้องภาวนาไม่ให้ผู้เล่นเจออาการบาดเจ็บในระหว่างฝึกซ้อม เพราะฤดูกาลนี้นักเตะมักเจ็บตอนซ้อมอยู่บ่อยครั้ง

ฤดูกาลที่ล้มเหลวที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกของ ยูไนเต็ด

บทสรุป แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การทำงานของ เอริค เทน ฮาก ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24 - จบอันดับ 8, ชนะ 18, เสมอ 6, แพ้ 14, ยิงได้ 57, เสีย 58, ประตูได้เสียติดลบ 1, สะสมทั้งหมด 60 แต้ม

• 14 เกมที่ ยูไนเต็ด แพ้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ถือเป็นจำนวนเกมที่แพ้เยอะสุดในฤดูกาลเดียวของพวกเขา นับตั้งแต่เป็นยุค พรีเมียร์ลีก

• เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่จบฤดูกาลพรีเมียร์ลีกด้วยประตูได้-เสียที่ ''ติดลบ''

• 58 ลูกที่เสีย ถือเป็นการเสียที่มากที่สุดในฤดูกาลเดียวของพวกเขายุค พรีเมียร์ลีก

• จบฤดูกาลด้วยอันดับ 8 ถือเป็นการจบฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร นับตั้งแต่เป็นยุค พรีเมียร์ลีก

โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ไปไหนต่อ?

กุนซือชาว อิตาลี วัย 44 ปี ตัดสินใจโบกมือลา ไบรท์ตัน ตามการประกาศของสโมสรเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

''ฟังนะครับ เราไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ในช่วงต่าง ๆ ของฤดูกาล เราได้มีการพูดคุยกัน'' เด แซร์บี้ กล่าวหลังเกมถึงสาเหตุที่เขาตัดสินใจไม่คุม ไบรท์ตัน ต่อ

''ผมต้องการรักษาแนวทางของผมไว้ ผมรู้ดีว่าผมต้องการทำอะไร และผมรู้ว่าผมเป็นโค้ช และผมก็ต้องยอมรับนโยบายของทางสโมสร''

''ผมไม่มีปัญหาอะไรกับสโมสรหรือ โทนี่ (บลูม) ผมต้องขอบคุณ โทนี่ และครอบครัวของเขา รวมถึง พอล บาร์เบอร์ และครอบครัวของเขาด้วย เพราะผมไม่สามารถลืมสิ่งที่พวกเขามอบให้ผมได้ พวกเขามอบโอกาสที่เหลือเชื่อให้ผม''

''พวกเขามอบโอกาสให้ผมได้ทำงานในพรีเมียร์ลีก, ได้รู้จักผู้คนที่น่าทึ่ง, ได้ไปเล่นในศึก ยูโรปา ลีก พวกเขามอบโอกาสให้ผมได้รู้จักสโมสรแห่งนี้, เมืองนี้, แฟนบอลเหล่านี้ และมันเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถลืมได้ ขอบคุณจริง ๆ"

เขาตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ บาเยิร์น มิวนิค อย่างหนัก แต่แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือจากเยอรมนียืนยันว่า คนที่จะเข้ามาแทนที่ โธมัส ทูเคิ่ล จะไม่ใช่ เด แซร์บี้ อย่างแน่นอน

ก่อนที่ เด แซร์บี้ จะเป็นข่าวกับ บาเยิร์น เขาเคยตกเป็นข่าวพัวพันกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และล่าสุดเขาขยับขึ้นมารั้งเต็ง 3 แล้ว สำหรับกุนซือคนถัดไปที่จะเข้ามาแทนที่ เอริค เทน ฮาก