จัดอันดับ 5 สุดยอดนักฟุตบอลที่ทำประตูได้มากที่สุดตลอดกาลขณะมีอายุได้ 21 ปี - RANKED

ในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลนั้น ช่วงอายุ 20 ปี ถือเป็นก้าวแรกของผู้เล่นหลาย ๆ คนที่เพิ่งจะได้โอกาสก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ และอาจต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองสักพักเพื่อเอาชนะใจแฟนบอล กุนซือ และสตาฟฟ์โค้ช เพื่อทำให้ตัวเองสามารถยืนระยะเป็นนักเตะอาชีพได้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม 5 ผู้เล่นต่อไปนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงคำพูดที่ว่า “เมื่อคุณเก่งพอคุณก็แก่พอ” หลังจากได้รับการบันทึกว่า ทำประตูได้มากที่สุดในวัยเพียง 21 ปี เท่านั้น

5. ไมเคิ่ล โอเว่น (156 เกม ยิง 76 ประตู)

ย้อนกลับไปในปี 1996 อดีตกองหน้าเจ้าของฉายา “เบบี้โกล” กลายเป็นปรากฏการณ์ของวงการฟุตบอลอังกฤษ หลังแจ้งเกิดขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ด้วยวัยเพียง 17 ปี เท่านั้น โดยได้รับโอกาสจาก รอย อีแวนส์ อดีตกุนซือ “หงส์แดง” ให้ลงสนาม

โอเว่น ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และพัฒนาตัวเองจนกลายเป็นกำลังสำคัญในแดนหน้าของ ลิเวอร์พูล และทีมชาติอังกฤษในทันที โดยในวัยเพียง 21 ปี เจ้าตัวก็ระเบิดสกอร์ให้กับ “หงส์แดง” และพลพรรค “สิงโจคำราม” ไปถึง 76 ประตู

ในปี 2004 โอเว่น ซึ่งเป็นเด็กลูกหม้อขนานแท้ของ ลิเวอร์พูล สร้างความเจ็บปวดให้กับสาวก “เดอะ ค็อป” อย่างมากหลังย้ายไปร่วมทีม เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวเพียง 8 ล้านปอนด์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จมากนักกับทัพ “ราชันชุดขาว”

อย่างไรก็ราม โอเว่น ย้ายกลับมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้งกับ นิวคาสเซิ่ล และสร้างความเดือดดาลให้แฟน ลิเวอร์พูล เป็นหนที่ 2 หลังย้ายซบอริตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับ สโต๊ค ซิตี้ ในปี 2013

4. เซอร์คิโอ อเกวโร่ (213 เกม ยิง 84 ประตู)

หลายคนอาจลืมไปแล้วว่า อเกวโร่ ลงเล่นฟุตบอลอาชีพเป็นครั้งแรกในวัยเพียง 15 ปี กับ 35 วันเท่านั้น หลังได้ประเดิมสนามให้กับ อินดิเพนเต้ ในลีกอาร์เจนตินา บ้านเกิดเมื่อปี 2003 หลังจากนั้น เจ้าตัวก็กลายเป็นคีย์แมนของสโมสรได้อย่างรวดเร็ว

ในปี 2006 อเกวโร่ ข้ามฟากมาเขย่าวงการฟุตบอลยุโรปกับ แอตเลติโก มาดริด และก็ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการพาพลพรรค “ตราหมี” คว้าถ้วยยูโรป้า ลีก 1 สมัย โดยตลอด 5 ปีกับสโมสรเจ้าตัวลงเล่นไปมากกว่า 230 เกมเลยทีเดียว

ซัมเมอร์ปี 2011 อเกวโร่ ย้ายจาก แอตฯ มาดริด ไปกอบโกยความสำเร็จกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 5 สมัย และหลังหมดสัญญากับ “เรือใบสีฟ้า” ก็ย้ายกลับไปเล่นในสเปนกับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2021 จากนั้น ก็ประกาศแขวนสตั๊ด

3. คิเลียน เอ็มบั๊บเป้ (199 เกม ยิง 116 ประตู)

สุดยอดกองหน้าดาววงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน เอ็มบั๊บเป้ เป็นเด็กปั้นในทีมเยาวชนของ โมนาโก และก้าวขึ้นมาแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จในปี 2015 โดยดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้ ค้าแข้งกับ โมนาโก นาน 3 ฤดูกาลก่อนจะย้ายไปเล่นกับคู่แข่งร่วมลีกอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ด้วยค่าตัวสูงถึง 145 ล้านยูโร

หลังก้าวเท้าเข้าสู่ถิ่น ปาร์ค เดอ แพรงซ์ เอ็มบั๊บเป้ ก็สถาปนาตัวเองกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมทันที โดยคว้าแชมป์ลีก เอิง 6 สมัย พ่วงด้วยรางวัลดาวซัลโว 6 ปีซ้อน และจุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ พาทีมชาติงฝรั่งเศส คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ได้สำเร็จ

หลังหมดสัญญากับ เปแอสเช ในซัมเมอร์นี้ หัวหอกวัย 25 ปี ก็ย้ายไปไล่ล่าความสำเร็จกับ มาดริด ทีมในฝันของตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก

2. เนย์มาร์ (227 เกม ยิง 140 ประตู)

สถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดของในโลกยังเป็นของ เนย์มาร์ และคงไม่มีใครจะทำลายมันลงได้ง่ายๆ โดยดาวยิงแซมบ้า แจ้งเกิดขึ้นมากับ ซานโตส ก่อนจะย้ายมาเล่นในยุโรปกับ บาร์เซโลน่า เมื่อปี 2013 และสร้างชื่อด้วยการพาพลพรรค “เจ้าบุญทุ่ม” คว้าแชมป์ลา ลีกา 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย

ในปี 2017 เนย์มาร์ สร้างเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ให้กับวงการฟุตบอลอย่างมากหลังย้ายออกจากถิ่น คัมป์ นู ไปเล่นกับ เปแอสเช ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 222 ล้านยูโร พร้อมกับเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทีมกวาดแชมป์ลีก เอิง ได้ถึง 5 สมัย

ในซีซันที่ผ่านมา เนย์มาร์ วัย 32 ปี เริ่มหมดความท้าทายกับการเล่นฟุตบอลในยุโรป หลังตอบตกลงย้ายไปรับทรัพย์กับ อัล ฮิลัล ในศึกโปรลีก ประเทศซาอุดีอาระเบีย และตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เขาลงเล่นไปเพียง 5 เกม ยิง 1 ประตู

1. โรนัลโด้ (185 เกม ยิง 167 ประตู)

ตำนานกองหน้าเบอร์หนึ่งของโลก และหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล แน่นอนว่า ไม่มีใครกล้าปฏิเสธความสุดยอดของ “โล้นทองคำ” หลังจากแจ้งเกิดกับ ครูเซโร่ ในลีกบ้านเกิด พร้อมสร้างปรากฏการณ์อย่างกว้างขวางในแดนแซมบ้า

ในปี 1994 โรนัลโด้ ข้ามฟากมาเล่นในยุโรปกับ พีเอสวี ไอนด์โอเฟ่น และไปสร้างชื่อกับ บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน โดยเจ้าตัวประสบความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วนตลอดเส้นทางอาชีพนักฟุตบอล

ในปี 2009 อดีตหัวหอกทีมชาติบราซิล ย้ายกลับไปเล่นในบ้านเกิดกับ โครินเธียนส์ ก่อนจะประกาศอำลาสนามเมื่อปี 2011