จัดอันดับ 5 แข้งแอฟริกันที่ยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก - RANKED

  • นักเตะชาวแอฟริกาย้ายมามาโชว์ฝีเท้า พรีเมียร์ลีก อย่างต่อเนื่อง
  • หลายคนเป็นของดีราคาถูกและมาระเบิดฟอร์มเก่งกับทีมได้สำเร็จ
  • ผู้เล่นจาก “กาฬทวีป” 5 คนนี้ ทำสถิติยิงประตูมากที่สุดตลอดกาลในอังกฤษ
Soccer - 2013 Africa Cup of Nations Group D - Ivory Coast vs. Togo
Soccer - 2013 Africa Cup of Nations Group D - Ivory Coast vs. Togo / Visionhaus/GettyImages
facebooktwitterreddit

แฟนบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ต่างคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วที่จะได้เห็นบรรดานักเตะจากทวีปแอฟริกาลงเล่นให้กับต้นสังกัดของพวกเขา และบางคนทำผลงานได้ดีจนขึ้นแท่นกลายเป็นตำนานของสโมสร และหลายคนก็ยิงประตูถล่มทลายจนขึ้นแท่นดาวยิงสูงสุดตลอกกาลแห่งเมืองผู้ดี และวันนี้เราจะพาไปพบกับ 5 แข้ง จาก “กาฬทวีป” ที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษแห่งนี้...


5. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

Emmanuel Adebayor
Manchester City v Birmingham City - Premier League / Alex Livesey/GettyImages

อดีตหัวหอกชาวโตโก ทำให้ที่แฟนบอล อาร์เซนอล มี 2 อารมณ์คือ ทั้งรัก และทั้งเกลียด โดยหลังย้ายจาก โมนาโก มาเล่นกับ “ปืนใหญ่” ในปี 2005 ภายใต้การคุมทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ นั้น อเดบายอร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 4 ปี กับสโมสร

ในปี 2009 อเดบายอร์ ย้ายจาก อาร์เซน่อล ไปเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ท่ามกลางความโกรธแค้นของสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” โดยเจ้าตัวเล่นให้กับ “เรือใบสีฟ้า” เป็นระยะเวลา 2 ฤดูกาล ก่อนจะโยกไปเล่นกับ เรอัล มาดริด

อย่างไรก็ตาม อเดบายอร์ ไม่ประสบความสำเร็จ และหวนกลับมาเล่นในอังกฤษอีกครั้งกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ต้อด้วย คริสตัล พาเลซ ก่อนจะพเนจรไปเล่นกับ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์, เคย์เซริสปอร์, โอลิมเปีย และแขวนสตั๊กับ เอซี เซมาสซี่ ไปเมื่อปี 2023

ตลอดระยะเวลาในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีกับ 3 สโมสร อเดบายอร์ ลงเล่นไป 242 เกม ซัดไป 97 ประตู ด้วยกัน

4. ยาคุบู อเยกเบนี่

Yakubu, Kamil Zayatte, Boaz Myhill
Everton v Hull City - Premier League / Laurence Griffiths/GettyImages

อดีตดาวยิงชาวไนจีเรีย เป็นหนึ่งในนักเตะที่อยู่คู่กับวงการฟุตบอลเมืองผู้ดีมาอย่างยาวนาน และถือเป็นนักเตะจอมพนเจรเคยเล่นให้กับหลายสโมสรไล่ตั้งแต่ พอร์ทสมัธ, มิดเดิ้ลสโบรช์, เอฟเวอร์ตัน, เลสเตอร์ ซิตี้, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เรดดิ้ง และ โคเวนทรี

 ยาคุบู เป็นศูนย์หน้าที่แข็งแกร่ง และสามารถปะทะกับบรรดากองหลังใน พรีเมียร์ลีก ได้อย่างไม่เป็นรอง นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่ใช้โอกาสไม่เปลืองนัก แต่น่าเสียดายที่ตลอดเส้นทางอาชีพของเจ้าตัวไม่มีโอกาสเล่นให้กับสโมสรชั้นนำ

ยาคุบู ประกาศแขวนสตั๊ด เมื่อปี 2017 ในวัย 35 ปี เมื่อปี 2017 พร้อมกับฝากสถิติลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ไป 266 เกม กระหน่ำไป 102 ประตู

3. ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

Didier Drogba
Chelsea v Barcelona - UEFA Champions League Group A / Etsuo Hara/GettyImages

สุดยอดกองหน้าระดับตำนานของทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ และ เชลซี ดร็อกบา ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาล่าตาข่ายในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในยุคกุนซือ โชเซ มูรินโญ่ และพาสโมสรประสบความสำเร็จมากมายในระหว่างปี 2004-2012

หลังจากนั้น ดร็อกบา อำลา เชลซี ไปเล่นกับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว, กาลาตาซาราย และหวนกลับมาเล่นกับ เชลซี อีกครั้งในปี 2014-2015 ก่อนจะย้ายไปเล่นกับ มอนเทรอัล อิมแพคท์ และแขวนสตั๊ดกับ ฟีนิกซ์ ไรซิ่ง เมื่อปี 2018

ตลอดระยะเวลาค้าแข้ง 2 ห้วงกับ เชลซี นั้น อดีตดาวยิงพลพรรค “ช้างดำ” ซัดไปถึง 104 ประตู จากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก 254 เกม

2. ซาดิโอ มาเน่

FC Porto v Liverpool FC - UEFA Champions League Round of 16 - First Leg
FC Porto v Liverpool FC - UEFA Champions League Round of 16 - First Leg / Gualter Fatia/GettyImages

ปีกทีมชาติเซเนกัล เริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับ เม็ตซ์ ในฝรั่งเศส ก่อนจะย้ายมาพัฒนาฝีเท้ากับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในระหว่างปี 2012-2014 จากนั้น ก็ย้ายข้ามฟากมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ เซาแธมป์ตัน และทำผลงานได้อย่างสุดยอด

ในปี 2016 ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของ คล็อปป์ จ่ายเงิน 34 ล้านปอนด์ คว้าตัว มาเน่ มาจาก เซาแธมป์ตัน และเขาก็กลายเป็นอีกหนึ่งคีย์ในในแนวรุก “หงส์แดง” ยุครุ่งเรือง โดยเจ้าตัวลงเล่นในลีกกับ 2 สโมสร ไป 263 เกม ซัดรวมกัน 111 ประตู

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์ปี 2022 มาเน่ ก็ย้ายไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค ก่อนจะไปโกยเงินในตะวันออกกลางกับ อัล นาสเซอร์ สโมสรในศึกโปรลีก ประเทศซาอุดีอาระเบีย

1. โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

Mohamed Salah
Aston Villa v Liverpool FC - Premier League / Alex Pantling/GettyImages

หลังแจ้งเกิดกับ เอฟซี บาเซิล ในสวิตเซอร์แลนด์ ซาล่าห์ ก็ได้รับความสนใจจากทั้ง เชลซี และ ลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายกลายเป็น “สิงโตน้ำเงินคราม” ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตโค้ชชาวโปรตุเกส ที่ยอมจ่ายเงิน 11 ล้านปอนด์ คว้าตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2014

อย่างไรก็ตาม ซาล่าห์ ไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีม เชลซี ได้ โดยมีโอกาสลงเล่นใน พรีเมียร์ลีกไปเพียง 13 เกม ซัดไป 2 ประตู ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ยืมตัวไปใช้งาน และในปี 2016 “หมาป่าเหลือง-แดง” จ่าเงิน 15 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญาเป็นการถาวร

ตัวรุกทีมชาติอิยิปต์ ทำผลงานให้กับ โรม่า ได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทุ่มเงิน 43 ล้านปอนด์ คว้าตัวมายัง แอนฟิลด์ เมื่อปี 2017 และกลายเป็นหนึ่งในการทำธุรกิจที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ซาล่าห์ ยืนเป็นกำลังสำคัญในแดนหน้าให้ ลิเวอร์พูล มานานถึง 7 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว โดยลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ให้กับ “หงส์แดง” และ เชลซี ไปทั้งสิ้น 263 เกม ตะบันคู่แข่งไปถึง 157 ประตู ซึ่งดูเหมือนว่า สถิติยังคงดำเนินต่อไป