จัดอันดับ 5 อันดับแข้งโปรตุเกส ที่ยิงประตูมากที่สุดตลอดกาลในศึก พรีเมียร์ลีก - RANKED

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน “โปรตุเกส” ถือเป็นชาติที่ผลิตนักเตะฝีเท้าดีมากมายส่งออกไปทั่วทุกมุมโลก และสำหรับศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เองก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีบรรดาแข้งเลือดฝอยทองต่างเข้ามาโชว์ฝีเท้ากันอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราจะพาไปพบกับ 5 นักฟุตบอลชาวโปรตุกีสที่สร้างสถิติการซัดตาข่ายคู่แข่งได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีแห่งนี้...

5. หลุยส์ โบ มอร์ต

แฟนบอล พรีเมียร์ลีก หลายคนคุ้นเคยชื่อของ โบ มอร์ต เป็นอย่างดี และเจ้าตัวเป็นอีกหนึ่งผลผลิตจากสถาบันเยาวชนของ สปอร์ติง ลิสบอน ก่อนจะโยกมาเล่นในอังกฤษกับ อาร์เซน่อล เมื่อปี 1997 และย้ายไปร่วมทีม เซาธ์แฮมป์ตัน

โบ มอร์ต ทำผลงานได้ดดีที่สุดในช่วงที่เล่นกับ ฟูแล่ม ระหว่างปี 2001-2007 โดยลงเล่นให้กับพลพรรค “เจ้าสัวน้อย” ไปมากกว่า 200 เกม จากนั้น ก็ย้ายไปเล่นกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด, เออีแอล, ออแรนโด้ ไพเรตส์ และแขวนสตั๊ดกับ เชสเตอร์ฟิลด์ เมื่อปี 2013

โบ มอร์ต เป็นตัวรุกริมเส้นที่เล่นฟุตบอลที่น่าตื่นเต้น มีสปีดจัดจ้าน คล่องแคล่ว เทคนิคดี แถมยังมีการจบสกอร์ด้วยเท้าซ้ายที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย โดยซัดไปทั้งสิ้น 29 ประตู

4. แบร์นาโด ซิลวา

ซิลวา อำลา โมนาโก มาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัวราว 43 ล้านปอนด์ และก็กลายเป็นสมาชิกคนสำคัญในทีมชุดแรก “เรือใบสีฟ้า” ภายใต้การนำของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตลอด 6 ปี

ตลอดระยะเวลาที่ค้าแข้งกับ แมนฯ ซิตี้ นั้น เพลย์เมคเกอร์วัย 29 ปี ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ และมีฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมออย่างมาก พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปถึง 6 สมัย ฝากผลงานซัดไป 39 ประตู

3. บรูโน่ แฟร์นันด์ส

หลังจากทำผลงสุดยอดกับ สปอร์ติง ลิสบอน ตลอด 3 ฤดูกาลกับสโมสรด้วยการซัดไป 64 ประตู จาก 137 เกมรวมทุกรายการพร้อมกับสวมปลอกเป็นกัปตันทีม นั้น แฟร์นันด์ส ก็ย้ายมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนมกราคมปี 2020 ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 67 ล้านปอนด์

สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ แฟร์นันด์ส กลายเป็นหัวใจสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ โอเล่ กุนาร์ โซลชา อดีตโค้ชชาวนอร์เวย์ได้ในทันที และถึงแม้จะเปลี่ยนกุนซือมาหลายราย แต่ ดาวเตะวัย 29 ปี ก็ยังเป็นคีย์แมนอยู่เสมอ

ตลอดระยะเวลา 5 ซีซันกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แฟร์นันด์ส ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 159 เกม ยิงไปถึง 54 ประตู และเป็นผู้เล่นแนวรุกที่ “ปีศาจแดง” แทบจะขาดไปไม่ได้แล้ว

2. ดิโอโก้ โชต้า

เส้นทางอาชีพของ โชต้า น่าสนใจไม่น้อยหลังจากเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเล็กๆในบ้านเกิดอย่าง ปากอส เด เฟร์ไรร่า จากนั้น ก็ย้ายไปยัง แอตเลติโก มาดริด, เอฟซี ปอร์โต้, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส และมาประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล

ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตโค้ชชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล นั้น โชต้า เปลี่ยนบทบาทตัวเองจะตัวรุกริมเส้นกลายมาเป็นกองหน้าตัวเป้าได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เขาเคลื่อนที่ได้อย่างชายฉลาด หาจังหวะจบสกอร์ได้อย่างเฉียบขาด และอยู่ถูกที่ถูกเวลา รวมถึงช่วยเพรสซิ่งอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ปัจจุบันในวัย 27 โชต้า กำลังจะเข้าสู่ช่วงที่ดีที่สุดของตัวเอง และเชื่อว่าหากไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน เจ้าตัวน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล ยุคใหม่ภายใต้การนำของ อาร์เน่อ สล็อต โค้ชชาวดัตช์แน่นอน

 ผลงานของ โชต้า ใน พรีเมียร์ลีก กับทั้ง วูล์ฟแฮมป์ตัน และ ลิเวอร์พูล นั้น ซัดไปรวม 57 ประตู และสถิติก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ

1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้

สุดยอดนักเตะระดับตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โรนัลโด้ เติบโตจากทีมเยาวชนของ สปอร์ติง ลิสบอน ก่อนที่ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีม “ปีศาจแดง” จะดึงตัวมาค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2003

ภายใต้การทำงานร่วมกับ เฟอร์กูสัน นั้น โรนัลโด้ พัฒนาตัวเองจากปีกที่ชอบเล่นบอลฉายเดี่ยวไร้ทีมเวิร์ค มาเป็นเครื่องจักรถล่มประตูที่อันตราย เล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก รวดเร็ว แข็งแกร่ง เทคนิคดี และเฉียบขาด แถมยังมีทีเด็ดจากการซัดฟรีคิกอีกด้วย

โรนัลโด้ เล่นให้กับ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นานถึง 6 ปี โดยลงเล่นไปรวมทุกรายการเกือบ 300 เกม ก่อนจะย้ายไป เรอัล มาดริด ในปี 2009 จากนั้น ในปี 2018 ก็ย้ายไป ยูเวสนตุส และซีซัน 2021-2023 ก็หวนกลับมายัง “ปีศาจแดง” อีกครั้ง พร้อมฝากผลงานซัดใน พรีเมียร์ลีก ไปรวมทั้งสิ้น 103 ประตู